ในวันแม่..ได้แต่คิด..น้อมจิตถึง ลูกคำนึง..ถึงแต่แม่..ชะแง้หา แม้หลายปี..ที่เราร้าง..ห่างกายา ยังตั้งตา..คอยแม่กลับ.. นับคืนวัน ตั้งแต่น้อย..คอยฟูมฟัก..ด้วยรักแม่ คงความรัก..ปักดวงแด..มิแปรผัน พระคุณแม่..ตั้งแต่ครั้ง.. แม่ตั้งครรภ์ ช่างมากล้น..พ้นรำพัน..เกินบรรยาย ครบกำหนด..ทศมาศ..ปราศฯจิตหวั่น น้ำนมกลั่น..จนสายเลือด..แทบเหือดหาย แม่กับลูก..เฝ้าผูกพัน..ตราบวันตาย มิอาจกลาย..สายสัมพันธ์..อันตราตรึง แม่จ๋าแม่..แม่อยู่ไหน.. ในวันนี้ ในฤดี..นี้คงมั่น..คอยฝันถึง ใจดวงน้อย..ยังคอยหวง..ห่วงคำนึง รักแม่ซึ้ง..และตรึงตรา..ตราบฟ้าดิน..ฯ
๏ สายรุ้งพร่าง..ขวางทาบ..ระนาบฟ้าขับนภา..ฟ้าพราย..หลากหลายสีประหนึ่งแก้ว..แววเพชร...เกล็ดมณีเรื่อรุจี..รวีวรรณ..อนันต์กาล๏ หมายรุ้งเรียว..เกี่ยวใจ...เอาไว้มั่นร่วมประคอง..คล้องฝัน..แห่งวันหวานสานสลัก..รักไว้..ให้เนานานชูช่อบาน..จารจรุง..ดั่งรุ้งทอ๏ เมื่อสัมพันธ์..นั้นกลาย..จากหมายมาดเรียวรุ้งขาด..พาดเกลียว...ดุจเรียวขอภาพรุ้งงาม..ยามเรา..เคียงเคล้าคลอก็หักงอ..ต่อหน้า..กลางฟ้าคราม๏ พิรุณร่ำ..ฉ่ำริน..จนสิ้นสายลำรุ้งพราย..คล้ายแล้ว..สิ้นแววหวามสิ้นสายฝน..หล่นริน..ใจสิ้นตามหมดสิ้นงาม..ยามขาด..สวาทวาง๏ สิ้นฝนโปรย..โรยละออง...จากท้องฟ้ารังสิมา..ทา-ทุ่ง..ครารุ่งสางแต่ฤดี..นี้เหมือน..กลับเลือนลางคล้ายฟ้าขวาง..กางกั้น..ยากบั่นไป๏ หวังรุ้งเรียว..เกี่ยวคล้อง..สองจิตมั่นแต่รุ้งงาม..ยามฝัน..กลับสั่นไหวมาบังบด..หมดค่า..ความอาลัยห้วงฟ้าไกล..ไร้ค่า..ให้อาวรณ์๏ ความเดียวดาย..กรายกล้ำ ..เข้าย้ำเหนี่ยวเมื่อรุ้งเรียว..เกี่ยวฝัน...ในวันก่อนมาสลาย..กลายกลับ..จนลับจรสิ้นแรงโรย..โหยอ่อน..สะท้อนทรวง๏ สายรุ้งโค้ง..โยงจิต..กลับบิดผันทิ้งสัมพันธ์..วันวาร..ให้รานร่วงรุ้งพรายสี..คลี่ฉาบ..ด้วยภาพลวงก็หายดวง..ร่วงหล่น..หลังฝนซา๏ เหลือเพียงคน..หม่น-คอย..บนรอยเหงาเหลือเพียงเศร้า..เข้าราน..หมายผลาญพร่าเมื่อรุ้งงาม..ล่ามพ่วง..เพียงลวงตาไย....ถวิล..จินต์หา..ด้วยอาลัย๏ ระวีฉาย..พรายแสง..ขึ้นแต่งฟ้าหลังฝนซา..ปรากฏ..สีสดใสเป็นรุ้งสาย..พรายตา..กลางฟ้าไกลเชื่อมสายใย..ให้คล้อง..ทั้งสองดวง๏ มองรุ้งพราย..หลายสี..มณีสวรรค์ดั่งเสกสรร..ปั้นแต่ง..จากแหล่งสรวงช่างงดงาม..หวามไหว..ถึงในทรวงที่โชติช่วง..ห้วงหาว..งามพราวตา๏ แต่รุ้งงาม..ยามหมอง...เข้าครองจิตถึงชวนพิศ..เพียงใด..ก็ไร้ค่าเลื่อมรุ้งพราย..ลายสลับ..จับนภาก็เลือนพร่า..ลาล่วง..จากห้วงจินต์๏ เลื่อมพรายรุ้ง..ปรุงฝัน..ในวันนี้กลับไม่มี..สีสัน..อันถวิลมาแต่งแต้ม..แซมหวัง..ที่พังภิณฑ์ทั้งชีวิน..สิ้นหวาน..ผ่านกมล๏ เมื่อรุ้งทอง..รองเรื่อ...ไม่เหลือแล้วภาพพราวแพรว..แวววับ..ก็ลับพ้นเหลือเพียงเศร้า..เหงาใจ..ภายในตนที่ท่วมท้น..จนขวัญ..ถูกบั่นทอน๏ ยามรุ้งพราย..หายล่วง...สิ้นดวงลับใจเหมือนกับ..รับพิษ..ถูกฤทธิ์ศรหวังรุ้งงาม..ดามรัก..ที่หักคลอนช่วยรักษา..อาวรณ์..ก่อนวายวาง๚ะ๛
๏ ยี่สิบหก มิถุนาฯมาบรรจบ ขอน้อมนบอภิวาทปราชญ์อักษร เป็นเอกในใต้ฟ้าอาภากร เกริกกำจร "สุนทรภู่" ครูกวี..๚ ๏ สวรรค์ส่งลงมาเป็นอาลักษณ์ สานสลักถักกลอนอักษรศรี เรียบเรียงร้อย ถ้อย พจน์ บท วลี ฝากวจีลีลาคู่ธานินทร์..๚ ๏ กาพย์ กลอน โคลง โยงฉันท์ สรรลิขิต เลิศประดิษฐ์ไหววาดด้วยศาสตร์ศิลป์ มรดกหวงแหนคู่แผ่นดิน ร่วมสืบสานกานท์กวิน แผ่นดินไทย.๚ ๏ สำนวนคำล้ำค่าภาษาศาสตร์ กลอนนิราศหยาดพจน์งามสดใส เรื่องวิโยคโศกเหงาความเศร้าใจ จารึกไว้ในบทพจนา..๚ ๏ คือตำนานกานท์บวร "สุนทรภู่" บรมครูผู้ร้อยสร้อยภาษา เอกกวีที่ประสิทธ์วิทยา ประดับหล้าฟ้าไทยไว้นิรันดร์..๛
๏ จะเขียนถ้อย..ร้อยคำ..ควรจำไว้ สัมผัสใน..ใส่ด้วย..กลอนสวยสม เมื่ออ่านไป..ไหลลื่น..น่าชื่นชม ชนนิยม..สมค่า..สง่างาม..๚ ๏ สัมผัสคำ..ซ้ำซ้อน..จะอ่อนรส ความสวยสด..หมดไป..มิไหวหวาม สัมผัสเลือน..เคลื่อนคล้อย..ในรอยความ กลอนจะทราม..ความหมาย..อาจกลายไป..๚ ๏ ชิงสัมผัส..ตัดทิ้ง.. กลอนยิ่งเด่น เป็นหลักเกณฑ์..เน้นย้ำ..ควรจำไว้ อย่าเพียงเพียร..เขียนความ..อย่างตามใจ กลอนจะไร้..ในค่า..ไม่น่าเชย..๚ ๏ มีอีกหนึ่ง..พึงจำ..ขอย้ำขาน จะเขียนกานท์..สานคำ..เพื่อนำเผย ไม้ไต่คู้..อยู่ไหน..จำไว้เลย ต้องลงเอย..เกยอยู่..ไว้คู่กัน..๚ ๏ กฏมากมาย..หลายหลาก..แสนยาก"เข็ญ" แม้ลำ"เค็ญ".."เย็น"ยาก..สู้บากบั่น แต่งอย่างไร..ใครเห็น...เป็นโจษจัน ร่วมทอฝัน..สรรค์สาน..กานท์กวี..๛
๏ พี่รักน้อง..ปองนุช..สุดสวาท จึงบังอาจ..วาดกลอน..อักษรศรี เป็นเพลงยาว..พราวไสว...ด้วยไมตรี มอบคนดี..ที่รัก..เกินหักใจ..ฯ ๏ คิดถึงน้อง..หมองหม่น..ระคนท้อ อยู่หน้าจอ..รอนวล..อกหวลไห้ เจ้าโฉมงาม..ยามนี้..อยู่ที่ใด เจ้ารู้ไหม..ใครเฝ้า..จับเจ่าคอย..ฯ ๏ ไม่เห็นหน้า..นวลพักตร์..พี่ชักกลุ้ม ไฟร้อนรุม..สุมเอา..จนเหงาหงอย เหมือนเสพติด..ฤทธิ์ยา..จนตาปรอย ต้องนั่งเอ๋อ..เหม่อลอย..น่าน้อยใจ..ฯ ๏ เพราะว่ารัก..หนักฤดี..พี่คิดถึง นั่งคำนึง..ถึงประจำ..ช้ำไฉน เจ้าโฉมงาม..ตามมา..จะช้าไย จะทำให้..ได้สุข..ทุกคืนวัน..ฯ ๏ ทรัพย์สมบัติ..จัดหา..เอามาให้ “กว๊านพะเยา”..”เขาใหญ่”..คนใฝ่ฝัน “สนามหลวง”..พ่วงไป..ให้แจ่มจันทร์ เป็นของขวัญ..หมั้นหมาย..สายสุดา..ฯ ๏ หากว่าน้อง..ครองคู่.. อยู่กับพี่ ทุกทิวา..ราตรี..มีสุขหนา เสวยสุข..ทุกวัน..เจ้าขวัญตา แดนในฝัน..ศรีธัญญา..อย่าช้าเอย..ฯ ๏ จะพาน้อง..นวลใย..ไปอยู่บ้าน ณ สถาน..ศรีธัญฯ..มันละเหวย ดื่มน้ำผึ้ง..พระจันทร์..ที่นั่นเลย หากทรามเชย..เผยรัก..สมัครใจ..ฯ ๏ อยู่ด้วยกัน..วันหยุด.สุดที่รัก จะพาพัก..เที่ยวท่อง..สองเกาะใหญ่ ชื่อ “พีพี”..”สีชัง”..นั่นยังไง พึ่งลงมือ..ซื้อไว้..เมื่อไม่นาน..ฯ ๏ อีกหาดทราย..หมายใจ..มอบให้น้อง ที่จับจอง..สองแปลง..สองแหล่งย่าน ชื่อ”บางแสน”..แดนดิน..ถิ่นวิมาน กับหาด”เจ้า-..สำราญ”..น่าผ่านยล..ฯ ๏ ยัง “หัวหิน”..ถิ่นหอย..ทั้งน้อย-ใหญ่ มัดจำไว้..ไม่มาก..หากเจ้าสน จะลงมือ..ซื้อให้..ในบัดดล เรื่องรถยนต์..คนขับ..นับอนันต์..ฯ ๏ พี่ซื้อไว้..ให้น้อง..แทนของเล่น ยิ่งรถเบนซ์..มากมี..หลากสีสัน สองประตู..หรูหรา..กว่าหมื่นคัน หน้าต่างนั้น..มันมี..ยี่สิบบาน..ฯ ๏ มาเถิดน้อง..ครองคู่..มาอยู่ด้วย เมื่อหายป่วย..ด้วยกัน..ได้ฝันหวาน รอน้องที่..ศรีธัญฯ..อันตระการ เชิญนงคราญ..สานฝัน..ร่วมกันเอย...ฯะ