Patisserie Mori Osakaในวันที่อากาศบ้านเราร้อนจนเกินจะทน ขอแอบหลบไอแดดเข้ามาที่ร้านขนมน่ารักๆ อย่างร้าน Patisserie Mori Osaka รร้านขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ซอย RCA ข้างๆ สตูดิโอวู้ดดี้เวิลด์ ขอแอบกระซิบว่าขนมทุกชิ้นทำโดยเชฟขนมหวานชาวญี่ปุ่นที่บินตรงมาจากโอซาก้า รับรองว่าจะได้ลิ้มรสเค้กเนียนนุ่มในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ
ชิ้นแรก Chocolate Chocolate Bavaroise เค้กมูสช็อกโกแลตคลุมทับด้วยช็อกโกแลตนมแสนอร่อย ท็อปด้านบนด้วยถั่วหลายชนิด คำแรกก็ฟินแล้ว
ชิ้นนี้ก็ห้ามพลาดกับ ทีรามิสุ ของเค้าจะไม่เน้นกาแฟมาก เอาแค่พอมีกลิ่นหอมอ่อนๆ อร่อยตรงครีมหอมเนียนนุ่ม โรยหน้าด้วยอัลมอนด์และเลดีฟิงเกอร์ อร่อยจริงๆ นะขอบอกMarron Crepe Cake เครปเกาลัดสีทอง แทรกด้วยครีมสดและเนื้อสปอนจ์เค้ก หวานนวล อร่อยสุดๆพุดดิ้งสไตล์ญี่ปุ่น บรรจุในขวดแก้วน่ารัก จะซื้อเป็นของฝากหรือจะเก็บไว้กินเองก็ได้ ขอบอกว่าเนื้อนุ่มอร่อยสุดๆนอกจากนี้ในร้านยังมีขนมอร่อยๆ อีกเพียบ ทั้งเค้กรสต่างๆ คุกกี้ เห็นว่าตอนนี้มีขายเป็นอาหารทานง่ายๆ อยากพวกครัวซองแฮมชีสด้วย ใครอยากตามไปฟินก็ลองแวะไปชิมได้ที่ร้าน Patisserie Mori Osaka ตรง RCA นะคะเข้าไปดูรีวิวแบบเต็มๆ ได้ที่ http://www.twosave.com/th/restaurants/patisserie-mori-osaka/
แค่เห็นหน้าก็ฮาแล้ว กับเจ้าเหมียวหน้าตาบูดบึ้งอย่างเจ้าทาร์ด (Tard) หรือ Grumpy Cat ด้วยใบหน้าที่เหมือนจะโกรธตลอดเวลา กลายเป็นเสน่ห์ให้กับเจ้าทาร์ดไปซะแล้วจะบึ้งไปไหนเซเลปมากๆ ><555555+ตามไปดูรูปเจ้าเหมียวหน้าบูดกันได้ที่ http://www.grumpycats.com/ แล้วคุณจะหลงเสน่ห์หน้าบึ้งๆ ของเจ้าทาร์ต <3
มารุ เนตไอดอลของวงการแมวเหมียวบ้านเกิดของเหมียวมารุอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น มารุเป็นแมวพันธุ์สก๊อตติช โฟลด์ หรือแมวหูพับ แต่เจ้ามารุกลับมีหูตั้ง หน้ากลม ตัวกลม ตาแบ๊ว เห็นแล้วอยากจะเข้าไปขย้ำพุง >M< และที่เป็นลักษณะพิเศษของมารุคือ เป็นแมวที่ชอบกล่องมากก ไม่ว่าจะเป็นกล่องกระดาษขนาดเล็กใหญ่ เห็นเป็นต้องพุ่งทะยานเข้าใส่ทุกที จึงทำให้หลายคนเรียกว่า มารุแมวกล่องแล้วที่ทำให้มารุโด่งดังกลายเป็นไอดอลของบรรดาผู้คลั่งไคล้แมว (เช่นผู้เขียน) เพราะเจ้าของได้นำคลิปวีดีโอน่ารักๆ ของมารุในอิริยาบถต่างๆ มาโพสไว้ที่ youtube ให้แฟนคลับได้กรี๊ดกร๊าดเล่นลองเข้าไปดูความน่ารักของเจ้ามารุได้ที่ javascript:nicTemp();ผมชอบกล่องจริงๆ นะ :3หน้าแบ๊วเว่อร์ผมทรงใหม่ไฉไลกว่าเดิม ;D
ทำความเข้าใจกันก่อนว่าวัคซีนไม่ใช่ยารักษาโรค แต่เป็นการฉีดเอาเชื้อโรคจำนวนเล็กน้อยเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคนั้นๆ ขึ้นมา ซึ่งไม่ใช่แค่คนเท่านั้นที่ต้องการวัคซีน เพื่อนสี่ขาของเราก็ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคด้วยเหมือนกัน ใครที่เคยเลี้ยงสุนัขคงจะรู้ว่าตอนที่เค้าเจ็บป่วยเราเจ้าของอย่างเรานี่แล่ะที่ทรมานที่สุด เพราะฉะนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่ามีวัคซีนอะไรบ้าง1. วัคซีนโรคไข้หัดสุนัข (canine distemper) - ถือเป็นโรคติดต่อร้ายแรงในสุนัข (แต่ไม่ติดต่อในคนกับแมว) สุนัขที่เป็นโรคนี้มีอัตราการตายสูงมาก ควรจะพาไปฉีดวัคซีนตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัขอยู่2. วัคซีนลำไส้อักเสบติดต่อของสุนัข (canine Parvovirus) - อีกหนึ่งโรคร้ายแรง หากเป็นในลูกสุนัขอัตราการตายจะสูงมาก อาการของโรคจะมีอาการท้องเสีย อุจจาระมีเลือดปน ปวดท้อง ทางที่ดีพาสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกันจะดีที่สุด3. วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า (Rabies Virus) - ทุกวันนี้อากาศร้อนสุดจะทน ไม่เสียชื่อหน้าร้อนของประเทศไทยจริงๆ อีกหนึ่งโรคที่มาพร้อมกับหน้าร้อนอย่างโรคพิษสุนัขบ้าที่ไม่เพียงอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงของเราแล้ว ยังสามารถติดต่อคนได้ทางน้ำลายของสัตว์เลี้ยง วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าจึงภือว่าเป็นวัคซีนที่สำคัญอันดับต้นๆ เลยทีเดียว4. วัคซีนโรคหลอดลมอักเสบติดต่อของสุนัข (kennel cough) - สุนัขจะมีอาการไอถี่ๆ ไอแห้งๆ อาการไม่ได้รุนแรงนัก แต่โรคสามารถแพร่กระจายได้เร็ว หากไม่ได้รับการรักษาอาจเกิดโรคแทรกซ้อนและตายได้5. วัคซีนตับอักเสบติดต่อของสุนัข (infectious canine hepatitis) - อีกหนึงโรคที่อันตรายและน่ากลัวมาก ชื่อโรคอาจจะคล้ายกับโรคไวรัสตับอักเสบในคน แต่เป็นเชื่้อคนละตัวกัน ไม่สามารถลามมาติดคนหรือสัตว์ชนิดอื่นได้ อาการของโรคจะมีไข้ขึ้นสูง อาเจียนบ่อย ถ้าเป็นในลูกสุนัขอาจตายได้ในเวลาไมกี่ชั่วโมง น่ากลัวจริงๆ6. โรคเล็ปโตสไปโรซิส (leptospirosis) - หรือที่เรารู้จักกันในชื่อโรคฉี่หนู แต่สุนัขก็สามารถติดเชื้อและเป็นพาหะนำโรคได้เช่นกัน อาการในสุนัขจะมีไข้สูง มีอาการปอดบวมร่วมด้วย ที่น่ากลัวคือสามารถติดไปสู่คนได้ เพราะฉะนั้นพาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคจะดีกว่าจะได้สบายใจทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงนะจ๊ะ
อันดับ 7มาดูกันที่สุนัขดุอันดับ 7 ของโลก กับสายพันธุ์ อัลเซเชียน (Alsatian) หรือ เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd) ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาในฐานะสุนัขตำรวจ ด้วยขนาดตัวขนาดใหญ่ เสียงเห่าที่ดุดัน และอุปนิสัยที่ฉลาด เรียนรู้เร็ว เชื่อฟังคำสั่งได้เป็นอย่างดี จึงถูกนำมาใช้เป็นสุนัขตำรวจอย่างแพร่หลาย
อันดับ 6
โดเบอร์แมน สุนัขพันธุ์สูง ปราดเปรียวและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ จัดว่าเป็นหมาที่แข็งแรงพอสมควร ด้วยความฉลาด แลอุปนิสัยของมันจึงมักถูกใช้เป็นสุนัขเฝ้ายามและสุนัขล่าเนื้อในสมัยก่อน แต่ความแข็งแกร่งและความดุร้ายยังคงอยู่มาถึงปัจจุบัน อันดับ 5อันดับ 5 นี้ไม่ใช่ใครที่ไหน สุนัขพันธุ์บางแก้วของบ้านเรานี่เอง เรื่องความดุนี่ไม่ต้องพูดถึง ด้วยความแข็งแรงของร่างกายและคมเขี้ยวที่ไม่เป็นสองรองใครทำให้บางแก้วมาวินอยู่อันดับ 5 ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
อันดับ 4
แค่ได้ยินชื่อ ร็อคไวเลอร์ หลายคนก็คงคุ้นหูและพอจะเคยได้ยินถึงอุปนิสัยของสุนัขพันธุ์นี้กันมาบ้างแล้ว ด้วยความดุร้ายบวกกับรูปร่างล่ำสันแข็งแรง ทำให้ร็อคไวเลอร์เป็นหมาดุติดอันดับ 4 ของของชาร์ตเราไปเลย
อันดับ 3ฟิล่า บราซีเลียโร่ สำหรับคนไทยอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อพันธุ์นี้สักเท่าไหร่ พันธุ์ฟิล่าเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศบราซิล ขึ้นชื่อเรื่องความดุร้ายกับคนแปลกหน้า แต่จะขี้อ้อนเวลาอยู่กับเจ้าของ เหมาะกับเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน รับรองโจรขโมยวิ่งหนีแทบไม่ทัน
อันดับ 2
ทิเบตัน มาสทิสส์ สุนัขตัวใหญ่ยักษ์ รูปร่างหน้าตาคล้ายสิงโต ขึ้นชื่อในเรื่องความดุร้าย ว่ากันว่าสุนัขพันธุ์มาสทิสส์สามารถต่อสู้กับหมีหรือว่าสิงโตได้เลย นอกจากจะเป็นสุนัขที่ดุอันดับ 2 ของโลกแล้ว ยังพ่วงตำแหน่งสุนัขที่แพงที่สุดในโลก ด้วยราคาสูงถึงตัวละ 1 แสนบาท บางตัวยังพุ่งสูงถึง 20 ล้านบาทเลยทีเดียว (จ๊าก)
อันดับ 1
อเมริกัน พิตบูล เทอร์เรีย คงไม่ต้องบรรยายมากถึงความดุร้ายของสุนัขพันธุ์นี้ เพราะหลังๆ มานี้ชื่อของสุนัขพิตบูลแวะเวียนขึ้นหน้าหนึ่งตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆ ด้วยขนาดกรามและกล้ามเนื้อที่ไม่ธรรมดา เรียกว่ากัดถึงตายเลยทีเดียวจึงทำให้พิตบูลเทอร์เรียพุ่งขึ้นสู่อันดับ 1 ของการจัดอันดับสุนัขสุดดุไปเลย
**ทั้งนี้ทั้งนั้นความดุของสุนัขขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของเจ้าของ หากเราเลี้ยงเค้าด้วยความรักและความใส่ใจแล้วล่ะก็ รับรองว่าเราจะได้เพื่อนที่ซื่่อสัตย์ที่สุดอย่างแน่นอน**