5 พฤษภาคม 2546 12:18 น.
13 นางมาร
ยามเมื่ออาทิตย์อัสดง ดวงตะวันกลมโตลอยลงสู่ ณ เส้นปลายฟ้า
ความมืดเริ่มโรยตัวสู่ท้องทะเล ท้องทะเลยามนี้ไม่ได้เป็นสีฟ้างดงามอีกต่อไป
หากเริ่มเป็นสี ดำปนคราม แสดงความน่าสะพรึงกลัว ความมืดมิดที่ไร้อาณาเขต
ในยามนี้ นี่เองที่เจ้าประภาคารจะได้เริ่มต้นทำหน้าที่ของตัวเอง
ส่องแสงสว่าง หมุนไปมา เพื่อเป็นสัญญาณให้ ทุกคนที่พึ่งพิงได้รู้
ว่า ตรงจุดนี้ ตำแหน่งนี้ เป็นที่ตั้งแห่ง จุดหมาย
ประภาคารเธอยังคงยืนหยัด ต้านลม ต้านฝน ผ่านเวลาเนิ่นนาน
เธอได้เรียนรู้ทุกสิ่งรอบกายมามาก ยามนี้เธอจึงสงบนิ่งไร้ซึ่งสรรพเสียง
การเป็นประภาคาร การอยู่นิ่งๆ ทำให้หลายคนคิดว่า เธอน่าจะเบื่อ
แต่ไม่เลย แท้จริงเบื้องลึกในใจเธอ ภูมิใจเหลือเกินกับการทำหน้าที่อันสำคัญยิ่งนี้
นกนางนวลชราตัวหนึ่ง เริ่มรู้สึกอ่อนล้า จากการโบนบินเรี่ย ผิวน้ำเพื่อดำรงชีวิต
นางนวลชรา บินมาเกาะตรงฐานของประภาคาร เรี่ยวแรงที่จะบินกลับรังอาจมีไม่พอ
นางนวลรู้ดีว่า ชีวิตเธอไม่ได้ต้องการอาหารมากมายเหมือนเมื่อวัยกำลังเติบใหญ่
เธอต้องการ เพียงเพื่ออยู่รอด
แล้วอะไรล่ะที่นางนวลเฒ่า ต้องการ การที่เธอบินไปมา มีอิสระเสรี ทั่วท้องฟ้า เท่านั้นหรอกหรือ
เกาะแน่นเนินนาน นกนางนวลมองไปที่ทะเลกว้างสีดำเข้ม นางนวลเริ่มตระหนักแล้วว่าค่ำคืนนี้
ประภาคารอาจเป็นที่พักใจของเธอได้
คุณประภาคาร วันนี้ขอนางนวลอย่างฉันได้ มาหลบภัย ใต้ชายคาของคุณได้ไหมค่ะ นางพูดด้วยเสียงอันแผ่วเบาราวสายลม
นั่นเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว เชิญคุณพักพิงให้ สบาย ประภาคารพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
แล้วความเงียบก็ก่อตัวขึ้นระหว่างประภาคารเก่าๆ และนกนางนวลเฒ่า ที่บังเอิญได้มาร่วมเคียง ในราตรีหนึ่ง
ในความเงียบนี้เอง ทั้งสองรู้ดี ว่า ได้ก่อเกิดมิตรภาพ มีความรู้สึกดีๆเกิดขึ้น อาจเพราะทั้งคู่ได้ผ่านโลกมามาก
ได้เจอเรื่องราว หลากล้านความรู้สึก บางครั้งถ้อยคำใดๆ ที่พรรณนาออกมาก็มิอาจ ลึกล้ำชนะความเงียบได้
คุณเป็นนางนวลที่แปลก ปรกติเหล่านกนางนวล เมื่อได้มาพักพัง ก็จะตั้งหน้า
ตั้งตา พูดคุยและเล่าประสบการณ์ อันโลดโผนที่ได้ไปเจอมา
ฉันเหมือนเป็น สถานเก็บความลับ ของเหล่านางนวล พวกเขาไว้ใจฉันยิ่งกว่าอะไร ประภาคารค่อยๆเอ่ยทำลายความเงียบ
นกนางนวลรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดเมื่อได้ยินเสียงประภาคารเอ่ยวาจา
ครั้งหนึ่ง ฉันก็เคยเป็นเช่นนางนวลตัวอื่น เมื่อได้หลัก ได้ที่พักที่รู้สึกว่า
ตัวเองปลอดภัย ได้มีคนเข้าใจและไม่จากไปไหนเช่นเธอ
พวกเค้าก็จะเล่าเรื่องราวให้ฟัง
ทั้งที่ปรกติธรรมชาติของฉัน แสนรักอิสระเสรี การบินไปในโลกกว้างทำให้พวกเรา ต้องใช้ชีวิตที่เป็นส่วนตัว
หากแม้เกิดอารมณ์ความรู้สึกใด บางทีพวกฉันก็ไม่อาจเล่าให้ หมู่นางนวลกันเองฟังได้
เกียรติ เป็นเรื่องใหญ่สำหรับ หมู่นางนวลอย่างฉัน นกนางนวลเริ่มเล่าความในใจ
และความลับของนกนางนวล
เธอพูดต่อไปว่า
การที่ได้โบยบินกางปีกออก ร่อนลม กลางเวหา มันทำให้พวกฉันมีอิสระ ที่จะไป
ที่ไหนก็ได้ ที่ไม่เกินขอบเขตธรรมชาติ พวกหมู่นกนางนวลมีความภูมิใจ
ในปีกของตัวเสียเหลือเกิน ว่าเป็น สิ่งที่โดดเด่นกว่าสิ่งมีชีวิต
ที่บินไม่ได้ เช่นปูเสฉวน ที่คลานอยู่ตามชายหาด หรือฝูงปลาที่คอยแต่ว่ายในน้ำ
ประภาคารหลับตาลงแล้วนึกถึงอดีตอันเนิ่นนานที่ยังฝังอยู่ในความทรงจำ
นานมาแล้ว ยามสายของวันสบายๆวันหนึ่ง ฉันเคยได้ยินเรื่องความภูมิใจที่เธอว่า
จากนกน้อยที่เริ่มบินตัวหนึ่ง
ที่เพิ่งหัดบิน ในยามนั้น นกน้อยมาแวะพัก ที่ฐานของฉัน
น้ำเสียงเค้าตื่นเต้นมากที่จะได้รู้จักโลกกว้าง เค้าภาคภูมิใจกับปีกนั้น
อ่อนบาง2 ปีกนั้น ช่างเป็นนกน้อยที่น่ารัก และมีความใฝ่ฝันที่ชัดเจน
เค้าบอกกับฉันว่า หนูต้องตามหาจุดหมาย ให้ได้
เป็นนกที่แปลกกว่านกตัวอื่น จริงๆ เมื่อนกน้อยได้บินจากไป
ฉันได้เก็บขนปลายปีกที่เธอได้สลัดไว้ อยู่ที่ฐานของประภาคาร เพื่อเป็นที่ระลึก
ในความ มุ่งมั่นของ เหล่านางนวล
ภาพในอดีตเริ่มย้อนเข้าสู่ความทรงจำของทั้งคู่
ขอฉันดูขนอันงดงามอันนั้นจะได้ไหม นกนางนวลพูดขึ้น
ได้สิ เธอจงเดินไปที่มุมขวาของฐานประภาคาร มีช่องว่างเก็บความ
ประทับใจของฉันอยู่ เธอลองเดินไปดู ขนเส้นเล็ก ขาวบริสุทธิ์
เมื่อนางนวลค่อยๆ เดินไปมอง ปลายขนเส้นนั้น นางนวลชรา จึงได้รู้ว่า
ประภาคารแห่งนี้นี่เอง ทั่นี่นี้เอง ประภาคารที่แรกที่เธอเริ่มหัดบิน
แต่การบินของเธอได้ไปไกล การเดินทางรอนแรม กว่าที่จะกลับมา
ที่เดิมที่ ที่มีความอบอุ่นให้เธอได้พักพิงก็ค่อนชีวิต
ความสุขความทรงจำของทั้งคู่ได้กลับมา
นกนางนวลเฒ่าและประภาคาร เคียงกันในความมืด
ทั้งสองต่างเป็นสุขที่ได้เจอกันอีกครั้ง เบื่องลึกในใจทั้งคู่รู้ดีว่า
เธอได้พบส่วนที่เติมเต็มความผูกพันแล้ว
ประภาคารถามคำถามสุดท้ายกับนกนางนวลเฒ่า
เธอเจอจุดหมายที่ใฝ่หาหรือยัง นางนวล
นางนวล หลับตาลงและพูดว่า........ ฉันเธอแล้ว จากนั้นเธอก็หลับสนิทชั่วนิรันดร์ที่
ฐานของประภาคาร ที่แรกที่เธอได้บินสู่โลกกว้างนี้เอง
3 พฤษภาคม 2546 09:59 น.
13 นางมาร
ท่ามกลางท้องน้ำสีคราม ใต้ผืนฟ้าสีฟ้าเข้มจัดไม่แพ้ท้องน้ำ ดวงตะวันสาดแสงแรงกล้า
สาดส่องท้องน้ำให้เป็นประกายระยิบเมื่อสะท้อน ระลอกคลื่น
สิ่งก่อสร้างชิ้นหนึ่ง ยืนโดดเดี่ยวกลาง เวิ้งน้ำ คอย ทำหน้าที่ให้แสงไฟแก่ผู้ที่ต้องการ
คอยชี้นำทาง ให้แก่คนที่อยู่ในความมืดมน ทั้งยังเป็นหลักที่พักพิงแก่เหล่าฝูงนกนางนวลที่รอนแรมกลางทะเลใหญ่
ท่ามกลางความเงียบของสรรพสิ่ง
มีเสียงเล็กๆ พูดขึ้นว่า
ประภาคาร เธอมีความสุขดีไหม ประภาคารมองลงไปยัง เบื้องล่าง เสียงจากทะเลนี่เอง
ฉันมีความสุขดีที่มีเธอ คอยเคียงข้าง ประภาคารตอบ
เธอชอบให้ฉัน อยู่รอบตัวเธอหรอ แต่ว่าฉันก็มักจะเอาคลื่นไปกัดกร่อน เซาะเธอน่ะ ทะเลถามคำถามที่สงสัยมานาน
ฉันรู้ทะเล ฉันเข้าใจธรรมชาติของเธอ ประภาคารนึกแปลกใจที่วันนี้ทะเลส่งเสียงถามความในใจ
เธอเข้าใจหรอ ประภาคาร ฉันเองก็โดนพัดไป พัดมา เป็นเพียง ทะเลตัวเล็กๆที่อยู่ในท้องทะเลกว้างใหญ่
ประภาคาร มองดูทะเล ละลอกเบาๆ ที่กำลังรายล้อมรอบตัวเธอ เธอเอ็นดู ทะเลอ่อนวัยเช่นนี้
นัก เธอยิ้ม และพูดว่า
ฉันยืนหยัดเป็นประภาคาร มาเนินนาน ฉันเข้าใจจิตใจ ของท้องทะเลเป็นอย่างดี
ทะเลน้อยสาดระลอกคลื่นไปที่ ประภาคารส่งเสียงดังซ่า เป็นฟองขาว เหมือนจะให้ประภาคารกระซิบถึงความลับของทะเล
ยามนี้เธอไม่แปรปรวน เธอจึง แจ่มใส น่ารัก งดงาม สงบนิ่ง เธอเป็นสิ่งที่มีพลังในตัวเอง
ยามนั้นฉันชอบที่จะแอบชื่นชมเธอ เธอจะส่งคลื่นน้อยๆ มากระแทกรากฐานของฉัน ทำให้ฉันได้อุ่นใจ ว่ามีเพื่อนคอยเคียงข้าง
แต่ยามใดที่เธอ มีลมพายุ ด้วยลมและคลื่นทำให้ทะเล อย่างเธอคลั่ง ยามนั้น ก้อนคลื่นลูกโต
จากเธอจะถาโถม เข้าใส่ ประภาคารอย่างฉัน
ฉันยอมรับว่า บางขณะฉันรู้สึกเหนื่อยที่ต้องคอย ต้านแรงกระแทก คลื่นอารมณ์จากเธอ
ทะเลได้แต่ฟัง ประภาคารพูด ไม่บ่อยนักที่ทะเลจะได้ยิน แม้ทะเลจะเดินทางไปหลากหลายที่
ได้เจอสิ่งต่างๆมากมาย แต่ก็ไม่เคยมีใครบอกเช่นนี้กับทะเล
ทะเลได้ฟังแล้ว ก็พูดว่า
ฉันเป็นทะเล ที่แสนอิสระ ธรรมชาติของทะเลอย่างฉัน รักก็รักแรง
เกลียดก็เกลียดแรง อาจทำให้ประภาคาร เหนื่อยไปบ้าง
เอาเป็นว่า ต่อไปนี้ ทะเลอย่างฉันจะพยายามให้ ทะเลราบเรียบพอประมาณ จะพยายามอยู่บนทางสายกลาง
ไม่เป็นพายุลูกใหญ่ที่ถาโถมใส่เธอ แต่ฉันจะเป็นคลื่นลูกเล็กๆ ที่อยู่เบื้องล่างเธอ ให้เธอไม่รู้สึกว่าเธอ
ยืนโดดเดี่ยวท่ามกล้างท้องทะเล น่ะ
ประภาคาร ฉันถามคำถามสุดท้ายก่อนที่ฉันจะต้องเคลื่อนตัวไปตามกระแส
เธอ เคยอยากให้ฉันเป็น นกนางนวลที่เกาะ และหยอกล้อเธอ อยู่เบื้องบนบ้างไหม
ประภาคาร อบยิ้ม และ นึกถึง ฝูงนกนางนวลที่มักจะบินมาเพื่อหลบภัยและพักพิง
เธอเป็นทะเลอย่างนี้ละดีแล้ว เพราะว่าเจ้านกนางนวล บินมาพักพิง
ใช่ เหล่านกทำให้ฉันร่าเริงคลายเหงาได้มาก เหล่านกนางนวล มักมีเรื่องเล่ามากมาย
เสียง ดังเซ็งแซ่ แต่คนรักสงบอย่างฉันก็ไม่ได้ต้องการให้นกนางนวลมาอยู่ใกล้และทำรัง
บนตัวฉัน และเจ้านกนางนวลบินมาแล้วก็จากไป แต่เธอเป็นทะเลที่อยู่เคียงข้างฉันเสมอ
ประภาคารก็ยังคงยืนหยัดอยู่กลางท้องทะเลกว้าง ยังคงมีระลอกคลื่นขาวมากระทบ
ฐานของประภาคาร มีหมู่นกนางนวลบินไปมา แลดูงดงามอยู่รายล้อมรอบประภาคาร
********แล้วคุณล่ะ หากชีวิตเลือกที่จะเป็นได้จงตัดสินเองว่า คุณอยากเป็นประภาคาร ทะเล หรือว่า นกนางนวล *********