30 มกราคม 2548 14:05 น.
มารแมงมุม
นับจากวันนี้ไปนาน ความฝันจดจาร
ไว้ย้อนรำลึกจดจำ
ทุกถ้อยที่เธอเอ่ยคำ เก็บไว้โน้มนำ
แม้นานแค่ไหนจะรอ
สามปีที่เธอเอ่ยขอ เริ่มรักถักทอ
จะบอกในวันพบเจอ
ห่างไกลฟ้ากั้นฉันเธอ ไร้คำพร่ำเพ้อ
เพราะเชื่อในสายสัมพันธ์
มองฟ้าแค่ฟ้าขวางกั้น มิอาจห้ามฝัน
ห่วงหาอาทรดูแล
กายห่างใจมั่นมิแปร เชื่อมั่นแน่วแน่
น้ำมิตรจิตเอื้อห่วงใย
จูบฝากหลังมือนี้ไป แนบแก้มเธอไว้
บอกคำสั้นสั้น...รัก...รอ
25 มกราคม 2548 22:02 น.
มารแมงมุม
ถักทอใจวางเป็นเส้นใยสาย
ขึงตาข่ายแน่นเหนียวดุจเกลียวไหม
เป็นนางมารแมงมุมขยุ้มใจ
แต่ก็ไร้ความร้ายอย่าได้กลัว
เป็นนางมารขี้อ้อนอ่อนต่อโลก
มีแต่โศกเจ้าน้ำตาดุจฟ้ารั่ว
เป็นผู้หญิงอ่อนแอแพ้ภัยตัว
และหม่นมัวหมองเศร้าใต้เงาใจ
มีคนมาให้ใจให้ความรัก
แม้อยากพักรับรู้อยู่แค่ไหน
กลัวรักเล่นรักร้างห่างกันไกล
คำบางใคร ในบางครา...อาจพาตรม
จึงนิ่งอยู่ในมุมอันลุ่มลึก
ความรู้สึกดีดีมีสะสม
เอ่ยแค่คำว่า เพื่อน เตือนอารมณ์
ใช่เพื่อนชม...รู้ทันการประมาณตน
ไม่เคยคิดยุดยื้อขอถือสิทธิ์
เจ้าชีวิตของใครไปทุกหน
ชีวิตใคร...ชีวิตมันกลั้นอดทน
เพียงแต่บ่นบอกให้ในความจริง
ฉันเป็นฉัน..เป็นอย่างนี้หลายปีแล้ว
เปราะเหมือนแก้ว บางเวลาพาใจนิ่ง
แข็งเหมือนเหล็กแกร่งเป็นหลักให้พักพิง
และเป็นสิ่งยากลืมเลือนไม่เหมือนใคร
เป็นตัวฉันแบบเดียวที่เดี่ยวโดด
เป็นไฟโชติสว่างฉายประกายใส
เป็นดังเช่นสายน้ำเย็นฉ่ำใจ
เป็นดอกไม้...เป็นตะวัน...จันทร์...ดาว..เดือน
คิดคบฉันจงเข้าใจให้ถ่องแท้
ยังแน่วแน่ในนิยามความเป็นเพื่อน
มารแมงมุมมีใจไม่แชเชือน
แต่ก็เหมือนไร้ใจในบางครา
ขออภัยทุกท่านนะคะ ต้องโพสซ้ำ
เพราะเมื่อสักครู่ไม่ได้ล็อกอินเข้ามาค่ะ
และไม่ทราบด้วยว่าจะลบอันก่อนทิ้งได้อย่างไร
22 มกราคม 2548 21:27 น.
มารแมงมุม
เป็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งโดดเดี่ยว
ตัวคนเดียวเที่ยวท่องล่องทั่วหล้า
หยิ่งนิดยโสหน่อยร้อยศรัทธา
แกร่งและกล้าในกรอบความบอบบาง
หลายเวลาอ่อนล้าน้ำตารื้น
ทั้งหลับตื่นในความชืดมืด-สว่าง
เสาะแสวงหาดวงไฟฉายส่องทาง
ความอ้างว้างหนาวร้อนเก็บซ่อนไว้
เพื่อเชิดชูศรัทธาแห่งหน้าที่
ยิ้มที่มีซ่อนรสกำสรดไหม้
น้ำตาไหลย้อนตกในอกใจ
จะมีใครรู้เห็นความเป็นมา
อีกทั้งความเป็นไปในวันพรุ่ง
จะมีรุ้งงดงามที่ถามหา
หรือว่างเปล่าให้สองเท้าก้าวจากลา
เดินเชิดหน้าโดดเดี่ยวและเดียวดาย
เพื่อดำรงความเป็นคน...เพื่อค้นพบ
เริ่มเพื่อจบ-จบแล้วเริ่มเพิ่มขยาย
คนเดินดินธรรมดาที่ท้าทาย
แบกความคล้าย...มาเยี่ยมเยือนเป็นเพื่อนเธอ
มิได้แกร่งได้กร้านปานหินผา
ธรรมดาเหมือนซ้ำซ้ำสม่ำเสมอ
ทระนงในศักดิ์ศรีที่เลิศเลอ
คงจะเจอหากเธอเหงา....จะเฝ้ารอ
15 มกราคม 2548 16:08 น.
มารแมงมุม
วัดระยะจากใจไกลเหมือนใกล้
มีเธอในดวงตามาเสมอ
เหลือแค่ก่อต่อเติมเพิ่มในเธอ
รอวันเจอ รอวัน ฉันจะรอ
แต่แอบหวั่นพรั่นใจในส่วนลึก
ความรู้สึกเทียมเท่าหรือเปล่าหนอ
ใช้เครื่องวัดหัวใจเท่าไหร่พอ
เพื่อจะก่อจะสร้างทางของเรา
เพราะว่าเราแตกต่างและห่างเหิน
ต้องเผชิญกับนิยามของความเหงา
ฤๅหลงรูปจูบกระดาษวาดแสงเงา
ความจริงเปล่า..เปลี่ยวดาย...อยู่ปลายตา
ที่จริงไกลเกินตาทอดตาเห็น
ที่จริงเป็นแค่เพ้อละเมอหา
ที่จริงแจ้งชัดเจนแน่แค่มายา
ที่เน้นว่าเราฝันมันไม่จริง
แต่ยังไม่อยากตื่นคืนจากฝัน
ยังยึดมั่นอยากรู้เกินอยู่นิ่ง
มายาโลกโศกเศร้า...เฝ้าประวิง
ดิ้นรนยิ่งหมองหม่นจนซึมเซา
วัดระยะของกายแม้ไกลอยู่
ขอจงรู้ระยะใจไม่ไกลเท่า
โลกวันนี้ไม่ใช่ของโลกสองเรา
เติมสีเศร้าแต้มดวงตาพาอาดูร
จึงระยะจากใจเท่าใจคิด
เป็นน้ำมิตร..กันไปไม่สิ้นสูญ
มีน้ำจิตมาเอื้อมาเกื้อกูล
ก็เพิ่มพูนในความงามนิยามใจ
13 มกราคม 2548 23:09 น.
มารแมงมุม
สองเท้าก้าวตามแสงแห่งดาวเหนือ
และที่เหลือคือหัวใจอันไร้ค่า
หนามดอกรักทิ่มตำช้ำอุรา
หนาวน้ำตาดอกรักกลายคล้ายลั่นทม
เพราะว่าแสงแห่งดาวเหนือเหลือเพียงนิด
ฉากชีวิตก็เหลือน้อยพลอยผสม
ในเงามืดเดินพลัดหลงดงอารมณ์
จึงขื่นขมหลงทางเกือบวางวาย
ปรารถนาคนนำทางมาข้างหน้า
ให้นำพาถึงฝั่งฝัน...หวั่น...จะสาย
จะมีใครมาอาสามาท้าทาย
ไม่อยากตายวันนี้...นี่..คำวอน
ธารหัวใจที่ถูกย่ำช้ำพอแล้ว
แม้แน่แน่วก็ยังแพ้...แย่..ขออ้อน
กลัวโดนซ้ำถูกกำจัดฆ่าตัดตอน
เพราะยังอ่อน..ไร้เดียงสา...มานานเนา
สองเท้าก้าวตามแสงแห่งดาวเหนือ
ใครจะเอื้อมานำทางให้สร่างเศร้า
ดาวยังมัวใจยังหมอง..ร้องเบาเบา
จะถึง เขา คนนั้นไหม..ใจอยากรู้