21 ตุลาคม 2550 07:41 น.
ไหมไทย
สายลมหนาวพรมพลิ้วแผ่วพัดผ่าน
ท่ามกลางม่านหมอกเย็นหล่นเป็นฝอย
ฟ้ามืดมัวลัวแสงคล้ายเฝ้าคอย
สุริยาเด่นลอยขอบฟ้าไกล
กลีบดอกไม้ไหวหวั่นสั่นสยิว
ม่านหมอกปลิวพลิ้วผ่านระรินไหล
เสน่ห์แฝงหมอกพรำฉ่ำชื่นใจ
เร้าฤทัยในยามเช้าหนาวมาเยือน
ท่ามกลางหนาวความเหงาจุดประกาย
ดุจละม้ายคล้ายเกิดขึ้นเป็นเพือน
หนาวเงียบเหงาอย่างนี้มิลบเลือน
แม้วันเดือนเลือนผ่านนานหลายปี
14 ตุลาคม 2550 14:26 น.
ไหมไทย
คนหนึ่งคนมองเราอย่างไร้ค่า
คนหนึ่งมาห่วงใยไม่หน่ายหนี
คนหนึ่งนั้นทำท่าไม่ไยดี
คนหนึ่งมีอาทรประคองใจ
ธรรมดาสรรพสิ่งไม่คงมั่น
ด้านหนึ่งนั้นสวยงามน่าหลงใหล
อีกด้านหนึ่งมืดหม่นร้าวทรวงใน
ทุกสิ่งไม่คงตัวอยู่ถาวร
คนเราต่างมีหัวใจกันทุกคน
ต่างคิดค้นพ้นทางที่ไหวอ่อน
หยุดปล่อยวางทางที่มารานรอน
สิ่งกัดกร่อนผ่อนพักกับวางมือ
ต้องยอมรับกับสิ่งที่จริงแท้
ความไม่แน่แก่ชีวิตอย่ายึดถือ
ตัดมูลเหตแห่งทุกข์หลุดปล่อยมือ
สัจธรรมนำสื่อเห็นชัดเจน
6 ตุลาคม 2550 15:05 น.
ไหมไทย
ขอเวลาให้กับจิตคิดทบทวน
เฝ้าคิดครวญชวนตามถามเหตผล
ว่าความรักที่เกิดกลางกมล
ก่อสุขล้นจนยากจะห้ามใจ
เฝ้าติมตามทุ่มเทให้ไปหมด
มิละลดถดถอยเกินขานไข
ตามเกาะเกี่ยวสัมพันธ์อยู่ร่ำไป
รู้หรือไม่ใจก้าวล้ำเกินพอดี
เธออึดอัดก้าวถอยคลายจะวิ่ง
ฉันกลับยิ่งฉุดรั้งกลัวเธอหนี
คอยจดจ้องเอาใจหลายวิธี
เพื่อบ่งชี้มีใจรักไม่จืดจาง
ก้อแค่รักเท่านั้นฉันมีให้
ฉันจะไม่ต่อว่าเธอเหินห่าง
ยิ้มให้กับความสุขอันเลือนราง
ดูเธอสร้างทางรักกับคนรู้ใจ
รู้ตัวผิดคิดคบมากเกินเพื่อน
ต้องย้ำเตือนตนเองที่เหลวไหล
ปลดปล่อยวางความรักหลุดออกไป
หยุดนิ่งไว้ในรักแค่นั้นพอ