22 พฤศจิกายน 2550 10:31 น.
ไหมไทย
พวกเราเหล่าชนคนพันธ์อา
รวมใจมารณรงค์การเลือกตั้ง
กระตุ้นเตือนปวงประชารวมพลัง
ด้วยมุ่งหวังเลือกเฟ้นคนเด่นดี
ไม่ต้องไม่เอาไม่รับไม่ขาย
ไม่ต้องจ่ายเงินตราเสียศักดิ์ศรี
ขอใช้สิทธิ์ให้เหมาะสมกันเสียที
พวกคุณผีหนีไปอย่ามาลวง
ไปเลือกตั้งดีกว่าอย่ามัวหลับ
อย่านอนทับสิทธิ์ตนน่าเป้นห่วง
ได้คนชั่วมัวเมาเฝ้าตักตวง
คนดีล่วงหล่นไปใครรับกรรม
คนพันธ์อามาเชิญชวนไปเลือกตั้ง
อย่ามัวนั่งเมินเฉยใจกลืนกล้ำ
ไปใช้สิทธิ์เลือกสิ่งที่ควรทำ
คนพันธ์อาแนะนำทำเพื่อไทย
21 พฤศจิกายน 2550 21:09 น.
ไหมไทย
ครั้นเมื่อพบสบตาคราครั้งแรก
รู้สึกแปลกแรกเจอคิดสงสัย
หน้าละมุนคุ้นเคยมากกว่าใคร
สังหรณ์ใจใยรู้สึกถูกชะตา
ครั้นได้พบพูดจาพารู้สึก
จิตสำนึกผูกพันเป็นนักหนา
ยามเธอยิ้มทายทักจับอุรา
ยามเดินเคียงคู่มาอบอุ่นใจ
เธอคือครึ่งของฝันที่ตามหา
เพียงพบหน้าพาจิตคิดหวั่นไหว
อารมณ์เหลิงเตลิดเปิดหัวใจ
อยากรู้ในใจเธอคิดตรงกัน
หากเราเกิดมาเพื่อครองเคียงคู่
และมาอยู่ดูแลสร้างสุขสันต์
ส่งหัวใจกระชับซับสัมพันธ์
ดั่งหมายมั่นอีกครึ่งฝันฉันเฝ้าคอย
11 พฤศจิกายน 2550 16:12 น.
ไหมไทย
ดอกไม้ใช้ช่วยวัดความโศกเศร้า
เมือตัวเราเขลาขลาดกับทุกสิ่ง
มองดอกไม้ไม่เห็นตามเป็นจริง
เห็นดอกไม้ร่วงดิ่งทิ้งจากใบ
มองดอกไม้ให้สะท้อนถึงความคิด
ด้วยดวงจิตหดหู่รู้หวั่นไหว
อาจร้าวร้อนหนาวเย็นอยู่ภายใน
จึงปล่อยให้สิ่งลวงตามาพนอ
มองท้องฟ้าว่าเมฆล่องลอยไป
หรือไม่ใช่เห็นนิ่งอย่างนั้นหนอ
เพราะดวงจิตคิดวุ่นมากเกินพอ
จึงเกิดก่อภาพแห่งจินตนาการ
หากพิเคราะห์สรรพสิ่งด้วยความสุข
ปลดปล่อยทุกข์ทุกสิ่งบนพื้นฐาน
ทั้งชื่อเสียงยศศักดิ์พันธนาการ
ให้มองผ่านข้ามไปใจมั่นคง
หม่าหยินซู กล่าวว่า "จะรู้ว่าตนตื่นกลัวหรือไม่ ให้มองดอกไม้ที่ชานเรือนว่าดอกไม้บานหรือดอกไม้ร่วง หากจะรู้ว่าจิตใจตนหดหู่เพียงไร ให้ดุก้อนเมฆกำลังล่องลอยหรือหยุดนิ่ง"
ท่านตู้ผู่ กล่าวว่า" ดอกไม้ช่วยวัดความเศร้า เสียงนกร้องช่วยบอกความกลัว หรือการไปสงครามนานสามเดือน จดหมายจากบ้านมีค่าหมื่นตำลึง"
10 พฤศจิกายน 2550 09:32 น.
ไหมไทย
ในความเงียบยังมีการเคลื่อนไหว
นี่คือกฏความไม่มีเที่ยงแท้
ธรรมชาติล้วนต่างช่างผันแปร
กระทั่งแม้ชีวิตของคนเรา
และภายใต้ก้อนหินนิ่งสงบ
จะค้นพบการเคลื่อนไหวในตัวเขา
หมุนวนเวียนเปลี่ยนแปลงตามเป็นเงา
มานานเนาว์เราเห็นเพียงมายา
ในความเงียบยังมีความสว่าง
แสงนำทางปัญญาแก้ปัญหา
ความสงบสยบสิ่งค้างคา
ทิ้งอัตตาพาสดใสไร้ตัวตน
4 พฤศจิกายน 2550 13:07 น.
ไหมไทย
ม่านหมอกหล่นเป็นฝอยลอยละลิ่ว
สัมผัสผิวเย็นเฉียบยะเยือกหนาว
ลมหนาวเยือนสายฝนผ่านดั่งทุกคราว
ทุกย่างก้าวเหยียบย่ำน้ำค้างพรม
และทุกครั้งที่ลมหนาวพัดผ่าน
ละอองม่านหมอกปลิวหล่นทับถม
มวลดอกไม้โชยกลิ่มกลางแรงลม
เปิดอารมณ์ชมชิดคิดถึงใคร
ความรู้สึกโหยหาอ้อมอกอุ่น
เกิดว้าวุ่นครุ่นคิดจิตหวั่นไหว
ฝากถ้อยคำเอื้อยเอ่ยคนแดนไกล
รู้บ้างไหมใจหนึ่งซึ่งอาวรณ์
รักเสมอแม้ไม่เจอยังคิดถึง
ห้วงคำนึงตรึงติดมิถอดถอน
อยากบอกว่าห่วงหาและอาทร
เหมือนครั้งก่อนตอนพบสบสายตา