13 มีนาคม 2551 13:24 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
แดนนภานี้แสนจะกว้างใหญ่
ลูกฟ้าไทยพิทักษ์และปกป้อง
ศักยภาพเหนือขอบฟ้าเราคุ้มครอง
เพื่อมิตรผองของชาติพ้นมารภัย
เราโบยบินเหนือฟ้าพาดั้นเมฆ
ให้วิเวกเวิ้งว้างกลางฟ้าใส
บางเวลาฟ้าร้องก้องเกรียงไกร
แสนวาบไหวหวาดหวั่นจิตพรั่นพรึง
อยากจะได้แรงใจจากใครบ้าง
ยามเคว้งคว้างกลางฟากฟ้าพาคิดถึง
ถ้าได้ใจจากเนื้อนวลหวนรำพึง
ส่งใจซึ้งสื่อถึงกันวันฉันบิน
จะโผผินบินไปใกล้ใจเธอ
ใช่พร่ำเพ้อเผลอไผลใฝ่ถวิล
วันนี้อยู่เพื่อไผทรับใช้แผ่นดิน
พรุ่งนี้อาจสิ้นชื่อได้ใจร้าวรอน
โอ้...เสืออากาศมิอยากจะขาดรัก
ด้วยใจภักดิ์น่านฟ้ามิถอดถอน
วอนยุพินถวิลหา..(โปรด)..อย่าตัดรอน
พี่จะพาขวัญอ่อน ร่อนฟ้า คว้าดาว
12 มีนาคม 2551 12:53 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
สาวสายเดี่ยวเขี้ยวงามทรามสมร
เจ้างามงอนร้อนรักควักใจฉัน
หว่านเสน่ห์เล่ห์ลวงควงแต่ละวัน
ทำใจฉันสั่นระรัวกลัวใจเธอ
ฉันคงแห้วแอ๊บแบ๊วแล้วซินะ
เธอคงจะเป็นสก๊อยคอยทีเผลอ
เพราะเด็กแว๊นซ์เมื่อวานผ่านมาเจอ
โอ้...เพื่อนเกลอของเราเอาไปกิน..............
10 มีนาคม 2551 07:00 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
สังคมสมัยนี้ชอบมีกิ๊ก
ระรี้ระริกพลิกแพลงตามแรงร่าน
หลอกเมียนอกใจผัวมั่วกันอาน
แผ่ประจานสังคมเน่าเศร้าสิ้นดี
ต่างไม่แคร์อย่าแหย่แส่เรื่องศีล
แบ่งกันกินกันใช้ใคร่เต็มที่
ดอกงิ้วบานเต็มหัวใจไหวฤดี
มิเกรงชีวีสิ้นดิ้นดับวับวอดวาย
ศีลธรรมเสื่อมคนไม่แคร์แย่แล้วท่าน
ต้องช่วยกันต้านแฟชั่นพาฉิบหาย
โรคเอดส์รุมเร้าเศร้าหมองทั้งใจกาย
น่าอับอายฟ้าดินดูหมิ่นแคลน
กลับมาเถิดวิชาศีลธรรม
คอยตอกย้ำจำใส่ใจยากเหลือแสน
กาเมสุมิจฉาจารามาทดแทน
ฝังให้แน่นแฟ้นฟูมฟักรักใจเดียว
โลกร้อนเล่าเคล้าโลกีย์มีวิบัติ
หันเข้าวัดขัดหัวใจคราบไคลเขียว
สนิมเขลอะเกรอะกรังรุงรังเชียว
น้อมนำเหนี่ยวเกี่ยวรักหักใจปลง
รักครอบครัวไม่มั่วรักมักไปรอด
ไม่พร่ำพรอดกอดกามาพาใหลหลง
อำนวยการรักษาความภายในให้มั่นคง
จงซื่อตรงคงครองคู่รู้รัก...เอย
....................................................................................
....................................................................................
คนเขียนกลอนก็กลัวเผลอไปเจอกิ๊ก
กลัวจะปิ๊กบ้านเก่าก่อนใครเพื่อน
จึงร่ายกลอนสอนใจไว้คอยเตือน
อย่าลืมเลือนเตือนตอกดอกงิ้วงาม
จงเตือนใจของตนอย่าหลงผิด
ให้รู้ฤทธิ์เสน่หาพาวาบหวาม
ตามใจตัวมั่วโลกีย์มีใจทราม
ให้โลกหยามเหยียดได้ใช่คนดี
....................................................................................
.....................................................................................
9 มีนาคม 2551 23:28 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
ซอกหนึ่งของหลืบใจใครไม่รู้
พินิจดูครองคู่จนสู่สม
บางส่วนขาดบางส่วนเกินเพลินอารมณ์
บางเวลาทุกข์ระทมตรมน้ำตา
ปล่อยให้เหงาว้าเหว่ระเหหวล
ใช่คร่ำครวญหวลไห้ละห้อยหา
หลับแล้วตื่น ตื่นแล้วหลับสลับเวลา
ได้เห็นหน้าแก้วตาคราเที่ยงคืน
อยากจะเติมส่วนขาดไปให้เต็มเสี้ยว
ยามเปล่าเปลี่ยวเดียวดายคล้ายขมขื่น
อดทนไว้ทุกค่ำเช้าเฝ้ากล้ำกลืน
แม้นหน้าชื่นอกอย่าตรมข่มจิตใจ
ทุกครั้งที่เจ็บไข้ไม่เสบย
เขาละเลยไม่เอ่ยถามความป่วยไข้
ช่างใจร้าย ใจดำ ทำได้ไง
คนอะไร ชวนไปหย่า ก็ไม่ยอม
9 มีนาคม 2551 11:00 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
รุ่งอรุณขุนเขาพราวม่านหมอก
พริ้วระลอกเคล้านัวเนียเคลียยอดไม้
ทะเลหมอกตอกย้ำเหมือนสายใย
ที่กั้นกลางหว่างใจให้ไกลกัน
คล้ายกับว่ายังไม่เปิดใจให้
ไมตรีจิตหยิบยื่นใส่ไม่เฉิดฉัน
ตะวันเริ่มทอแสงร้อนแรงพลัน
ไออุ่นอันผันเปลี่ยนแปรแผ่ไมตรี
หลอมละลายไอเมฆหมอกออกจากจิต
มีแต่มิตรภาพอันสุขศรี
เปลี่ยนน้ำแข็งกลางใจไปสักที
เป็นน้ำทิพย์ชุบชีวีชะโลมใจ