1 กรกฎาคม 2551 12:52 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
ดวงใจแม่ลอยลับนับวิปโยค
แม่ตรอมโศกเศร้าสร้อยเฝ้าคอยหาย
เจ้าจากไปให้ระทมตรมมิวาย
เหมือนฝันร้ายอสนีบาตฟาดกลางทรวง
กรรมใดใยเจ้าพรากจากอกแม่
เหลือเพียงแค่ธุลีเถ้าเฝ้าแหนหวง
สูญสลายคล้ายควักใจไปทั้งดวง
แม้นเลยล่วงเลือนลางมิจางใจ
แม่เฝ้าถามตัวเองวังเวงแว่ว
โอ้..ลูกแก้วอาลัยหาน้ำตาไหล
วิญญาณเจ้าสถิตย์สถานวิมานใด
แม่ห่วงใยใคร่เจอเพ้อพร่ำวอน
เจ้าอยู่ดีมีสุขหรือทุกข์โศก
ฤาเหมือนโลกภพนี้ที่สังหรณ์
แม่ทำบุญตรวจน้ำพร่ำอาวรณ์
ยังอาทรถอนสะอื้นกลืนน้ำตา
แม่หวลไห้จนสายเลือดแทบเหือดหาย
เริ่มคลี่คลายหมายมาตรพึ่งศาสนา
สงบนิ่งเพ่งพิศจิตภาวนา
กล่อมชีวาคราคะนึงซึ้งดวงจินต์
น้ำตาใจใสสะอาดทุกหยาดหยด
ช่วยราดรดรินหลั่งชำระสิ้น
เมื่อครวญคร่ำร่ำไห้สมใจจินต์
ได้ยลยินรสพระธรรมนำพ้นทุกข์
แม่ยิ้มได้ใจผ่องแผ้วแล้วลูกรัก
ธรรมพิทักษ์ถักทอพะนอสุข
ดวงใจแม่กลมใสดั่งไข่มุกข์
ดุจเทพรุกข์เทวดามาคุ้มครอง
28 มิถุนายน 2551 13:21 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
ฟ้ามึดครึ้ม ทึมเทา เคล้าเงาฝน
โปรยสายชล คดเคี้ยว เชี่ยวลึกไหล
ม่านเม็ดฝน พรมพรำ ชุ่มฉ่ำไอ
กระทบใจ คว้าดาว พราวฟ้าคราม
คอย คอย คอย เฝ้าคอย น้อยใจนัก
นึกทึกทัก ตามดาว เฝ้าทวงถาม
รอ รอ รอ ผ่านแล้ว แก้วตางาม
สุดนิยาม เหมาะสม ขื่นขมใจ
ขวัญเอย..ขวัญจงอยู่ คู่ฟ้านี้
ปลอบชีวี รอทิวา ฟ้าสวยใส
เหมือนทิ้งขว้าง เคว้งคว้าง ร้างราไกล
รอวันใหม่ โอบเอื้อ เกื้อการุณย์
ฟ้าหลังฝน บนถนน แห่งดวงดาว
สุกสกาว พราวระยิบ กระพริบหมุน
เฝ้ามองฟ้า คอยดาว พราวละมุน
ไม่ค้ำจุน หนุนนำ คนกรำงาน
โลกนี้หมุน วนเวียน แกนเอียงเฉ
น่าสนเท่ห์ ทวนคำ ลำนำขาน
ยุติธรรม ฤาร้าง ตามตำนาน
ผ่านเลยผ่าน ดาลดล ฉงนใจ
จงทำดี ต่อไป ให้ประจักษ์
หมายสมัคร รักสมาน ไม่หวั่นไหว
ขอมุ่งมั่น ไขว่คว้า ฝ่าฟันไป
นานเพียงใด ไม่ท้อ ตัดพ้อรอ
22 มิถุนายน 2551 12:28 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
แอบมองเธอ ละเมอหา ยามคราเผลอ
เธอเขินเก้อ เมินหลบ ยามพบฉัน
เธอรู้ไหม ฉันอยากให้ สายสัมพันธ์
สบตากัน ฉันนั้น แอบรักเธอ
วอนเธอรู้ สักนิด คิดเกินเพื่อน
ยังลางเลือน ผูกพัน กันเสมอ
คิดถึงเธอ ทุกวัน ฝันละเมอ
เฝ้าพร่ำเพ้อ เหม่อคอย แสนน้อยใจ
ฉันคนหนึ่ง ซึ่งยืน อยู่ตรงหน้า
รู้ไหมว่า คนนี้ ที่หวั่นไหว
หรือเพียงพี่ คนดี ที่ห่วงใย
ยามอยู่ใกล้ ใคร่เอ่ย เผยความจริง
เธอทำตัว น่ารัก ฉันชักหวั่น
ได้เพียงฝัน เธอนั้น เหมือนเจ้าหญิง
เฝ้าละเมอ เพ้อพร่ำ ตอกย้ำยิ่ง
ว่าทุกสิ่ง จริงใจ ใช่เพื่อนกัน
อยากตะโกน กู่ก้อง ร้องบอกว่า
ละเมอหา คร่ำครวญ รัญจวนฝัน
เพียงใกล้ชิด เป็นสุข ทุกคืนวัน
เฝ้ารำพัน รักเธอ เพ้อเพียงลม
19 มิถุนายน 2551 20:20 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
อ้างมโนธรรมซ่อนเร้น ความโลภ
หลอกล่อฉ้อละโมบ ชั่วร้าย
แสร้งประจบบ่เอื้อโอบ หลอกเหยื่อ หลงคำ
เรียบง่ายภายในคล้าย นิ่งน้ำ ลึกไหล
วจีกรรมนำเนื่องโน้ม เพทุบาย
ยุแหย่แตกสลาย ค่ำเช้า
บ้านเมืองแตกสลาย เพราะแบ่ง พวกผอง
โปรดอย่าได้ปลุกเร้า เร่งแก้ สถานการณ์
15 มิถุนายน 2551 09:16 น.
ไหมแก้วสีฟ้าคราม
วันเหงาเหงาเช้าอุ่นกรุ่นลมหนาว
น้ำค้างพราวยอดหญ้าฟ้าทอแสง
กุหลาบใจซ่อนคมฝ่าลมแรง
คมหนามแทงเกี่ยวเกาะเลาะห้วงใจ
น้ำตาไหลรินร่วงรดทรวงร้าว
คืนแผ่วผ่าวหนาวเย็นเพ็ญผ่องใส
แว่วเสียงหยอกเยาะเย้าเหงาจับใจ
ใช่ไม่รัก ไม่อาลัย ใฝ่คะนึง
จากเธอมาใจผวาห่วงหาอยู่
เคยขึ้นภูชี้ชมสมคิดถึง
ไม่หนาวลมเหมันต์ฤดูภูกระดึง
ยังซบซึ้งไออุ่นหนุนตักเธอ
ผีเสื้อสวยดอมดมชมเกสร
หมู่ภมรชอนไชใคร่พลั้งเผลอ
วันนี้ร้าวรานใจคล้ายละเมอ
เมื่อเสียงเธอโทรมาขอลาเลือน
ตั้งนโมหลายจบสยบจิต
หักใจคิดปลอบใจหาใครเหมือน
มือสั่นอกประหวั่นพรั่นใจเสทือน
แม้นกลบเกลื่อนปลงตกตลกจัง
สายน้ำมิไหลกลับลาลับแล้ว
เสียงขลุ่ยแผ่วแว่วไพรละไมหวัง
รุ้งทอแสง แดดทอสาย ไร้ภวังค์
สร้างวันหวังแห่งสุขทุกข์จากจร