28 มีนาคม 2550 12:47 น.
ไรไก่
สมัยเด็กๆ..คุณ.คงชอบฟังนิทานกันบ้างนะคะ
ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะเป็นผุ้มาเล่านิทานให้พวกเราได้ฟัง
ทราบไหมว่า..นิทานเหล่านั้น..เป็นนิทานอิสป..นิทานชาดก
เป็นนิทานพื้นบ้านเล่าขานกันต่อๆมา
ซึ่งนิทานเหล่านี้..จะสอดแทรกธรรมะให้ซึมซับกับผู้คน
อย่างต่อเนื่อง..และตัวเอกของเรื่องคือพวกสัตว์ต่างๆ
ที่เอามาเป็นสื่อสอนธรรมะ..โดยให้เอาเยี่ยงสัตว์มาปรับตัว
เข้ากับการฝึกปฎิบัติตนในศาสนา
เช่น...มีเต่าตัวหนึ่งถุกสุนัขคุกคามเอาเท้าเขี่ยเต่าพลิกไป-
มาหวังจะกินเต่า..แต่เต่ากับหดหัวเข้าไปในกระดองนิ่งเงียบ
เฉยอยู่...มิใยสุนัขตัวนี้จะพยายามอย่างไรเต่าก็ไม่หลงกล
โผล่หัวออกมาจนกระทั่งสุนัขอ่อนใจเดินหนีไป
พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นว่าเพราะเต่าระมัดระวังตัวหดหัวใน
กระดองมันจึงรอดพ้นอันตรายได้
คนเราหากรู้จักสำรวมอินทรีย์(การระมัดระวังประสาทสัมผัส
ตาหูจมูกลิ้นกายใจก็จะมีสติระมัดระวัง)ก็จะปลอดภัย
เหมือนเต่าหดหัวในกระดอง
แต่พังเพยไทยว่า "หดหัวในกระดอง"เป็นคำค่อนขอดคนขี้
ขลาดเป็นสิ่งไม่ดีแต่ทางพระพุทธศาสนาหกลับมีความ
หมายในแง่บวกคือการสำรวมการแสดงออกนั้นเอง
อีกเรื่องหนึ่งของสัตว์ธรรมะ
มีเด้กเลี้ยงโคกำลังต้อนโคข้ามน้ำซึ่งกระแสน้ำเชี่ยวกราก
โคทั้งฝุงต่างก็ว่ายข้ามมามีโคจ่าฝูงว่ายนำทางจนถึงฝั่งโน้น
โดยปลอดภัย
พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นว่า
เมื่อฝูงโคข้ามฟากหากโคจ่าฝูงนำไปคดโคทั้งหลายก้
คดตามหากโคจ่าฝูงนำไปตรงโคทั้งหลายก็จะเดินตรงตาม
ฉันใดในมนุษย์ก็ฉันนั้น ใครได้รับแต่งตั้งให้เป็นใหญ่เป็นผุ้
นำถ้าคนนั้นไม่ประพฤติธรรม คนทั้งปวงจะทำตามรัฐก็เดือด
ร้อนถ้าผู้นำประพฤติธรรมคนทั้งปวงก็จะทำตามรัฐก็มีแต่
ความสมบูรณ์พูนสุข
ปราชญ์ยุคหลังๆเช่นขงจื้อก็มีความคิดเช่นเดียวกับพระ
พุทธองค์ว่าผู้ปกครองประเทศควรมีคุณธรรมความซื่อสัตย์
สุจริตแล้วประเทศก็จะสงบสุขไปเอง
คำสอนที่พระพุทธองค์ทรงใช้สัตว์ต่างๆมาเป็นสื่อธรรมะ
เป็นคำสอนที่พวกเราทุกคนสามารถนำคำสอนไปประยุกต์
ใช้ได้ถ้ารู้จักทำเพียงข้อเดียวคือ.".รู้จักเขี่ยไข่ขาง"
"การรู้จักเขี่ยไข่ขาง" คืออย่างไรคะ
ช่วยให้คำตอบหน่อยสิคะ
11 มีนาคม 2550 13:55 น.
ไรไก่
นาทีที่ยิ่งใหญ่คือวัคซีนใจแห่งชีวิต
ไม่ว่าฉันหรือคุณต่างเคยสัมผัสเสี้ยวนาทีที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตมาแล้ว
จำได้ไหม
ในวันที่ รู้ว่าสอบเข้าเรียนต่อในสถานศึกษาที่ต้องการได้
ในวันที่ ทีจดหมายหรือโทรเลขมาบอกให้ไปรายงานตัวเข้าทำงาน
ในวันที่ ได้รับชัยชนะจากการแข่งขัน
ในวันที่ ได้พบบุคคลอันเป็นที่รักและรอคอย
ในวันที่ ลูกน้อยเรียนว่าแม่เป็นคำแรก
คุณจำปฎิกิริยาตอนนั้นได้ไหม คุณยิ้มหรือหัวเราะ..น้ำตาไหล..แววตาของคุณสิ่งต่างๆที่แสดงออกมา
คือความปลื้มปิติ ยินดี ความภาคภูมิใจ คิดไม่ออกให้นึกถึงการประกวดนางงามที่ยืนรอฟังการประกาศ
ผลว่าได้เป็นผุ้ชนะเลิศ
นาที่ที่ยิ่งใหญ่ของคนหนึ่งอาจไม่ใช่นาทีที่ยิ่งใหญ่ของอีกคนหนึ่ง
ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับความคาดหวังและระดับของความเหมาะสมที่มีต่อ
ปรากฏการณ์ในนาทีแต่ละคนต่างกัน
แต่สิ่งที่ไม่ต่างกันคือความรู้สึกภาคภูมิใจนั่นเอง.
ความภาคภูมิใจเป็นความรู้สึกปลาบปลื้ม ปิติ ยินดี อิ่มเอม เบิกบานใจ
ซึ่งจะเกิดขึ้นภายในจิตของบุคคล
เป็นสภาวะที่สารแห่งความสุขเอนดอร์ฟีนหลั่งออกมาอย่างเต็มที่
ความภูมิใจที่ดีและมีคุณภาพเป็นสิ่งที่เกิดจากตนเองภายใจ
ไม่ได้เกิดจากสิ่งแวดล้อม
การสร้างนาทีที่ยิ่งใหญ่และความภูมิใจในชีวิต
ต้องสร้างที่ตัวเราเองโดยบริหารความหวังให้เป็นต้องรู้จักสร้างความหวัง
และยืดหยุ่นในการตั้งความหวัง
ปรับเปลี่ยนความหวังให้เหมาะสมกับกาลเทศะและ
มุ่งมั่นพยายามไปให้ถึงฝั่งฝันแล้วนาทีที่ยิ่งใหญ่จะ
ปรากฏในใจคุณ
9 มีนาคม 2550 09:38 น.
ไรไก่
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีกษัตริย์ผู้ปกครองนครเล็กๆที่แสนสงบสุข
วันหนึ่งกษัตริย์ได้ออกเดินทางเพื่อไปยังดินแดนส่วนที่ห่างไกลของนครนั้น เมื่อกษัตริย์กลับมาถึงพระราชวัง พระองค์รู้สึกไม่สบายกับอาการปวดเท้าเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พระองค์ต้องเดินทางไกล และถนนที่ผ่านไปนั้นก็ขรุขระ เต็มไปด้วยก้อนหิน ดังนั้นพระองค์จึงสั่งให้ข้าราชบริพารไปปูถนนทุกสายด้วยพรมหนังวัว งานนี้ทำให้ต้องฆ่าวัวจำนวนมาก และใช้เงินมหาศาล
ยังมีคนรับใช้ของกษัตริย์คนหนึ่งมีสติปัญญาหลักแหลม ได้รวบรวมความกล้าแล้วเข้าไปทูลกษัตริย์ว่า " เหตุใด พระองค์จึงทรงต้องเสียราชสมบัติจำนวนมากเพื่อปูพรมหนังบนถนน ไฉนจึงไม่ทรงใช้หนังเพียงชิ้นเล็กน้อยเพื่อรองรับพระบาทของพระองค์เอง " กษัตริย์อัศจรรย์ใจด้วยตำแนะนำนี้ ในที่สุดพระองค์จึงทรงรับสั่งให้นำหนัง มาตัดเป็น"รองเท้า"สำหรับพระองค์เอง
ขอให้เรากล้าเปลี่ยนในสิ่งที่เราเปลี่ยนได้ เหมือนกับคนรับใช้ผู้ฉลาดและกล้าหาญคนนั้น และให้เรายอมรับในสิ่งที่เราเปลี่ยนไม่ได้ โดยเปลี่ยนที่ตัวเราและท่าทีในใจของเรา ไม่ใช่โลก.