25 สิงหาคม 2549 12:38 น.
ไรไก่
[IMG]http://thaimate.sanook.com/webboard/love/images/2549-8-25-123445-5827.jpg[/IMG]
ทำไม ต้องสวมแหวน แต่งงานที่ นิ้วนาง ด้วย?
ไม่ใช่แค่เพราะเราเรียกมันว่า ring finger แน่ๆ
มันต้องมี ความหมาย มากกว่านั้น
ทดลองพิสูจน์ความมหัศจรรย์ด้วยตัวเอง
ลอง แบมือ 2 ข้าง เข้าหากัน แล้ว งอนิ้วกลางลง เอา
หลังนิ้วกลาง ทั้ง 2 ข้าง
มาชนกัน
ทีนี้นิ้วที่เหลือ ก็คือ โป้ง/ ชี้/นาง/ ก้อย ให้เอาปลายนิ้วมาชนกัน
ลองปล่อยนิ้วที่เอาปลายชนกัน ให้ออกจากกัน ทีละนิ้ว
โดยที่ นิ้วกลางยังคงงอแตะกันอยู่
จะพบว่า นิ้วชี้ ก็ปล่อยจากกันได้ / นิ้วโป้งก็ปล่อยจากกันได้/ นิ้วก้อย
ก็ปล่อยจากกันได้ อย่างสบายๆ
แต่นิ้ว นาง กลับ ปล่อย ออกจากกันไม่ได้
นั่นเป็นเพราะ
- นิ้วกลาง แทน ตัวเราเอง
- นิ้วโป้ง แทน พ่อแม่ ซึ่งวันหนึ่งท่านก็ต้องจากเราไป
- นิ้วชี้ แทน พี่น้อง ซึ่งเขาก็ต้องไปมีชีวิตของเขาเอง
- นิ้วก้อย แทน ลูก พอโตขึ้น ลูกก็ต้องไปมีชีวิตของตัวเอง / มีสังคม,
ครอบครัว ของตัวเอง
- นิ้วนาง แทน "คู่ชีวิต" ทีนี้ก็เหลือแค่ "คู่ชีวิต" แล้วล่ะ
ที่จะอยู่กับเราไปจนแก่
til death do us part
หรือเพราะว่านิ้วนางข้างซ้ายมีเส้นเลือดออกมาจากหัวใจโดยตรงอยู่เส้นหนึ่งเขาเลยนิยมจะส่วมแหวนหมั่นหรือแหวนแต่งงานกันที่นิ้วนี้
จริงป่าวน๊ะ
ในทางการแพทย์ประยุกต์ การสวมแหวนไว้ที่นิ้วนาง ถ้าเป็นแหวนทอง จะทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวย ถ้าแหวนเงิน จะทำให้หัวใจเต้นสม่ำเสมอ ถ้าเป็นหยกไม่นิยมค่ะ เพราะจะทำให้หัวใจเย็นเกินไป และมีแนวโน้มที่จะเจ็บป่วยได้ อิอิอิ ที่พูดมาจำมาถูกหรือเปล่าวไม่รู้ แต่ โลหะที่มาสวมอยู่บนนิ้วเราไม่ว่านิ้วไดนิ้วหนึ่งมีอิทธิพลต่อร่างกายค่ะ ......โลหะบำบัด...............
23 สิงหาคม 2549 16:23 น.
ไรไก่
.ได้ดูข่าวช่วงเช้าเวลา 06.00 .นช่อง 11 ได้ทำการถ่ายทอดถึงภาวะน้ำท่วมที่จังหวัดน่าน ชึ่งความจริงก็มีการถ่ายทอดตลอดเวลาพร้อมการให้ความช่วยเหลือของทางการแต่ที่มานั่งเขียนวันนี้ก็เพราะว่ามีช่วงหนึ่งที่ถ่ายทอดถ่ายให้เห็นพระและสามเณรจำนวน 10รูปพากันเดินลุยน้ำนำเรือที่บรรทุกอาหารแห้งและของใช้ต่างๆนำไปแจกให้กับชาวบ้านที่ถุกน้ำท่วมทุกหลังเรือนและที่เห็นคือท่านเดินเข้าไปให้กับมือชาวบ้าน
ทุกบ้านแม้แต่บ้านที่เรามองดูแล้วว่าเป็นบ้านที่มีฐานะดีมากบ้านใหญ่โต
มีรั้วรอบขอบชิดบ้านนำไม่ท่วมเพียงแต่ถนนทางสัญจรเท่านั้นที่ท่วมพระท่านเดินเข้าไปเคาะประตูนำอาหารไปให้.ท่านเมตตากับทุกคนไม่ว่ายากดีมีจน.ทำให้คิดว่าคนไทยเรานั้นแม้จะอยู่สถานะใดก็ตามยังมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับกันและกันเสมอ.
17 สิงหาคม 2549 10:00 น.
ไรไก่
จริงหรือที่ว่า
มีเงินมหาศาล"ตายแล้วเอาไปไม่ได้"
คุณเชื่อไหมว่า"เงิน"สามารถยึดเวลาเกิดและตายได้จริงๆ
มีหลักฐานปรากฏแน่ชัดในรายงานประจำปีของทางการที่ประเทศออสเตรเลียเมือปี2547
โดยเมือ่ปี2547รัฐบาลออสเตรเลียประกาศในพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี2547ว่ารัฐบาลจะให้โบนัสพิเศษ(อย่าไปรู้เหตผลเลย)แก่ทารกที่เกิดในวันที่ 1 กรกฏาคม 2547หรือหลังจากนั้นเป็นมูลค่า 3000ดอลลาร์ออสเตรเลียหรือประมาณ85100บาท
ผลก็คือในปีนั้นมีทารกที่เกิดวันที่1 กรกฎาคมและหลังวันที่1นั้นเพิ่มขึ้นกว่าปกติถึงพันคนที่เป็นเช่นนี้เพราะพ่อแม่เด้กไปขอร้องให้แพทย์ยืดกำหนดการคลอดออกไปจนกว่าถึงวันที่1กรกฏาคมหรือหลังจากวันที่1เพื่อโบนัสที่จะได้รับ
เป็นไงคะ เงินทำให้คนเกิดช้าได้จริงๆ
สำหรับความตายเงินก็ยืดเวลาได้เหมือนกัน
ก็ที่ประเทศออสเตรเลียนั่นแหล่ะ
เมือปี2519 รัฐบาลประกาศยกเลิกการเก็บภาษีมรดกมีผลตั้งแต่วันที่1กรกำคม2519
พวกมหาเศรษฐีทั้งหลายที่อยู่ในวัยใกล้จะลาโลกและห่วงใยลูกหลานไม่อยากให้สมบัติเงินทองต้องไปตกเป็นภาษีมรดกของรัฐ.เลยไม่ยอมตายก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2519
และปรากฏว่าสถิติตัวเลขที่บ่งบอกถึงจำนวนผู้เสียชีวิจในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายนนั้นเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดยิ่งกว่าทุกปีที่ผ่านมาและตัวเลขของจำนวนผู้เสียชีวิตในสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม2519ก็สุงที่สุดกว่าช่วงเวลาเดียวของทุกปี
คำโบราณที่กล่าวๆไว้" พระจะสึก ฝนจะตก ลุกจะออก คนจะตาย ห้ามไม่ได้ " คงใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้วเนาะ