2 กันยายน 2548 18:31 น.
ไรไก่
เบื่อผู้คนมากมายที่อยู่รายรอบ
เบื่อผู้คนที่ชอบมาวุ่นวายในความเป็นฉัน
เบื่อกับชีวิตตัวเองที่อยู่ไปในแต่ละวัน
เบื่อกับความฝัน ฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง
หน่ายกับการชอบจำและการกระทำของตนเอง
หน่ายและเซ็งกับชีวิตที่ชอบย้ำกับทุกสิ่ง
หน่ายกับความรักชอบหลอกหลอนเป็นอย่างยิ่ง
หน่ายจนต้องอยู่นิ่งนิ่งไม่อยากท้วงติงหรือคิดทำสิ่งใด
ท้อกับการทำงานที่ไม่ประสบผลสำเร็จ
ท้อกับความเท็จในสังคมแล้วจะหาความจริงได้จากใคร
ท้อกับปัญญาต่างต่างที่เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
ท้อกับหัวใจที่รักใครแล้วมักจะรักจริงจริง
แท้จริงกับการดำรงชีวิตและความเป็นอยู่
แท้จริงกับผู้คนมากมายรายล้อมเป็นอย่างยิ่ง
แท้จริงกับการทำงานให้สำเร็จผลตามความเป็นจริง
แท้จริงกับมิ่งมิตรไม่เคยที่จะหลอกลวงใคร
2 กันยายน 2548 14:41 น.
ไรไก่
อันชีวิตคนเราย่อมมีการแปรเปลี่ยน
ทุกสิ่งเคลื่อนไหวไปตามแห่งวิถี
แต่สิ่งหนึ่งยังคงที่ สิ่งนั้นคือความดี
เป็นสิ่งที่ไม่มีแปรเปลี่ยนไปกับกาลเวลา
อันความดีความชั่วอยู่ที่ตัวกระทำ
จิตจะย้ำให้กำหนดจดจำอยุ่ทุกครา
ตั้งแต่อดีตหนเก่ามักวนเวียนมาหา
ถึงชาติหน้าก็ต้องมาชดใช้กรรม
ถ้ารักดีจงละหนีจากสิ่งชั่ว
อย่าปล่อยตัวให้กิเลสมาครอบงำ
ตั้งสติให้เกิดปัญญายั้งใจมิให้ถลำ
ไม่ให้เกิดกรรมนำพาไปให้อับจน
ถ้ารักบุญจงละทิ้งหลบหลีกบาป
อย่าหยามหยาบรักษากายไม่ให้หมองหม่น
หมั่นฝึกฝนความดีอยู่คู่กับตัวตน
จึงจะเป็นคนที่ดีและมีชีวิตงาม
1 กันยายน 2548 08:30 น.
ไรไก่
ต้นไม้ใหญ่ผลิดอกออกใบสวยสดงดงามตามธรรมชาติ
และ เป็นที่หมายมาดของเหล่านกกามาพึ่งพาอาศัย
สายฝนหลั่งรดลงมาต้นไม้สดชื่นขึ้นทันใด
สีเขียวสดใสร่มเย็นระรื่นตื่นตาชื่นใจ
แต่ต้นไม้ที่ผู้คนนำมาปลูกไว้ในบ้าน
เหมือนกับทรมานต้นไม้ไว้ในที่จำกัดใหม่
อยากได้ต้นไม้ให้สวยงามก็จัดดัดทันใด
ไม่สนใจต้นไม้จะชอกช้ำทำตามใจของคน
ต้นไม้ดัดถูกจำกัดความอิสระแห่งเรือนร่าง
เพราะคนอ้างอยากให้สวยงามทำเกิดความสุขสม
จับมามัดดัดหักงอห่อหุ้มพอใจคน
น่าฉงนทำไมคนช่างไม่นึกถึงต้นไม้จะเป็นอย่างไร
กับ ความรักก็เหมือนกับต้นไม้สักต้นหนึ่ง
ถ้าคนมีความรักให้อิสระเหมือนต้นไม้ในป่าใหญ่
ต้นความรักจะผลิดอกผลงดงามได้อย่างใจ
เพราะเราให้อิสระกับความรักดูแลคน
แต่ถ้านำความรักมาดัดแปลง และปรุงแต่ง
มาพลิกแพลงเพื่อให้ตนได้สุขสม
ลืมไปว่าชีวิตกับความรักของแต่ละบุคคล
ไม่จำนนต่อความรักที่ต้องถูกควบคุม
31 สิงหาคม 2548 20:18 น.
ไรไก่
สายธารที่ทอดยาวจากขุนเขา
นานเนาโบราณที่กล่าวขาน
มีเรื่องราวหญิงหนึ่งตามตำนาน
วังบัวบานสาวงามแห่งเวียงพิงค์
สาวบัวบานแรกรุ่นสวยสะอาด
ชายหมายมาดเกี้ยวพาหวังแอบอิง
พร้อมกับการเอาใจทุ่มเทให้ทุกสิ่ง
บอกรักจริงสัญญาไม่ทิ้งให้ร้าวรอน
วันหนึ่งมีหนุ่มรูปงามจากบางกอก
มาลวงหลอกใจบัวบานให้สั่นคลอน
บัวบานรักเกินห้ามใจมิถอดถอน
เธอจึงยอมทอดกายให้เชยชม
และแล้ววันหนึ่งบัวบานต้องซ้ำจิต
เมื่อมิ่งมิตรลาจากไกลให้ขืนขม
ลืมบัวบานไว้แดนดินถิ่นตรองตรม
บัวบานต้องระทมก้มหน้าตั้งตาคอย
เธอยึดเอาธารน้ำใสฝั่งเรื่อนร่าง
เมื่อรักจางจากไปไม่เหลือแม้แต่น้อย
พลีร่างลงสู่สายธารน้ำตกเพื่อรอคอย
หนุ่มน้อยชาวบางกอกตราบจนถึงวัน.
เพลงวังบัวบาน(ผู้ร้องจำไม่ได้แล้วค่ะ)
ร้อนลมหน้าแล้งใบไม้แห้งร่วงลอย
หล่นทยอยเกลื่อนตาไหลตามกระแสน้ำพา
ลอยมาทั้งกลีบดอกไม้
จากภูพาไหลมาสู่ในวังน้ำ
สุสานเทวีผู้มีความซ้ำเหนือใครดอกไม้ใบไม้ไหลมา
คล้ายพวงหรีดร้อยมาลาไหลมาบูชาบัวบาน
น้ำวังนี้หนอ
เป็นที่ก่อเหตุการณ์ที่บัวบานฝั่งกาย
ยึดเอาเป็นหอเรือนกายรองกายไว้ด้วยแผ่นน้ำ
จากหุบเขาแนวไพล่สู่ใน เวียง ฟ้า
ฝากไว้เพียงชื่อเลื่องลือเนิ่นช้า
ฝังจำฝากคำสัตย์สำนึกตรอง
หลงทางสุดหวังคืนครองหลงตัวจึงต้องลาระทม
เอาวังน้ำใสเย็นนี่หรือมาเป็นเมรุทอง
เอาน้ำตกก้องเป็นกลองประโคม
เอาเสียงจักจั่นลั่นร้องระงมเป็นเสียงประโลมร้องต่างแตรสังข์
เพดานนั้นเอาเมฆฟ้าภูพานั่นต่างม่านบัง
ประทีปแสงจันทร์ใสสว่างอยู่เคียงท่ามกลางดงดอย.
31 สิงหาคม 2548 11:23 น.
ไรไก่
เมื่อไหร่หนอที่ฉันจะลืมเธอได้
ครวญใคร่ไปมาวันละหลายหลายหน
จิตไซร์ รวนเร วนเวียน วกวน
ลุ่มหลงใจรักปักแน่นทรวง
ใจยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุใจให้รัก
ไม่แปรพักตร์ยิ่งซ้ำหนักใจใหญ่หลวง
ไม่ทันเล่ห์กลอุบายกิเลศลวง
ถูกทะลวงใจสลายแทบวายชีวี
อันความรักทำให้เหมือนตาบอด
ไปไม่รอดกับความรักมักเป็นฉะนี้
เหมือนกับจมอยู่ในห้วงเหวอเวจี
ไม่พาทียังเร่หารักใฝ่มาครอง
ใจยิ่งเจ็บก็ยังไม่รู้จักจำ
ช่างน่าขำกระไรหนาพาใจหมอง
รักซ้ำจิตตอกย้ำใจใช้ใจมอง
ให้ใจถอนเลิกใจรักออกจากทรวง
เมื่อไหร่หนอฟ้าของฉันจะสดใส
สวยอำไพเจอกระจ่างดั่งแมนสรวง
ไร้เมฆหมอก บดบังดังใจกลวง
ค่าใหญ่หลวงเมื่อตัดรักออกจากใจ