14 กันยายน 2548 20:00 น.
ไรไก่
ฝนสั่งฟ้าเดือนกันยาพาชุ่มฉ่ำ
เม็ดฝนพร่ำพร่ำพร่างขาวสดใส
ชำระล้างความเหนื่อนอ่อนของหัวใจ
ชีวิตใหม่หัวใจแกร่งก้าวให้ไกล
สิ่งต่างต่างผ่านมาพาใจหมอง
ใส่กระป๋องนำไปปล่อยสายน้ำไหล
วาดความหวังสร้างความฝันให้หัวใจ
แล้วก้าวไปด้วยหัวใจที่มั่นคง
ไม่ย่นย่อท้อถอยต่อสิ่งขวาง
ที่รังควาญกลั่นแกล้งไม่ให้เกิดผล
ที่หลอกล่อให้ติดบ่วงกับวังวน
พาอับจนหม่นเศร้าเคล้าน้ำตา
ฝนทิ้งหยาดสุดท้ายในเดือนนี้
ต่อไปมีหนาวเป็นเพื่อนเวียนมาหา
ดวงตะวันสาดแสงสวยดั่งประติมา
ท้องนภาสว่างไสวและหัวใจที่เรืองรอง
12 กันยายน 2548 21:40 น.
ไรไก่
หลบปลีกหลีกหนีวันอันสับสน
เลือกมุมสงบพบโลกอันสดใส
ปล่อยตัวปล่อยความคิดไปให้ไกล
ปล่อยใจให้ลอยล่องตามแรงลม
นั่งหย่อนขาเท้าราน้ำในแพน้อย
ลอยกลางบึงห่างไกลไร้ผู้คน
เหล่าฝูงปลาเวียนว่ายดูสับสน
ชื่นชมความงดงามยามสายัณห์
ดวงตะวันสาดแสงยามพลบค่ำ
สะท้อนผิวน้ำเป็นเงาสวยเหมือนกับฝัน
แดดอบอุ่นเสียงคลื่นน้ำกระทบกัน
เริงระบำฝูงมดคดเคี้ยวเลี้ยวไปมา
เหม่อมองฟ้าสีฟ้ากว้างต่อกว้าง
เมฆลอยคว้างยิ้มสีแดงเต็มท้องฟ้า
ฝูงนกบินร่อนเล่นน้ำกางปีกท้า
อวดสายตาผู้คนอมยิ้มพลัน
ชะโงกหน้าสบตาเศร้าเงาในน้ำ
แผ่นน้ำฉ่ำชื่นหัวใจไหวถล่ำ
เติมพลังความกล้าแขวนชีวิตขวิดคะมำ
สร้างพลังแต้มความฝันให้เป็นจริง
โลกวันนี้สดใสด้วยสองมือ
คงไม่ยื้อฉุดสิ่งใดหมายมาอิง
ต้องเป็นตัวของตัวเองในทุกสิ่ง
ชีวิตจริงไม่ใช่อิงกับนิยาย
10 กันยายน 2548 11:29 น.
ไรไก่
ยอม ลดตนเป็นคนแพ้ บางเถิด
ไม่ เกิดประโยชน์ชูเชิด เช่นใด
เป็น บ่อเกิดผิดละเมิด ศิลธรรม
เย็น เยือกชุ่มชื่นในใจ คลายเศร้า
ไม่ เกิดพิษแต่ชี้นำ ทางสว่าง
ได้ หนทางสุขพลัน แล นา
9 กันยายน 2548 21:32 น.
ไรไก่
หิ่งห้อย
ตัวน้อยนิดมีแสงระยิบระยับลอยในป่า
ยามนภามัวหม่นไร้แสงจันทรา
หิ่งห้อยตัวน้อยนิดส่องแสงเจิดจ้า
บินไปมาจากดินสู่ฟ้าดูพริ้งพราว
แล้วฉันก็เลือกเป็นหิ่งห้อย
ถึงตัวน้อยแต่แสงไม่ด้อยกว่าทุกคราว
เทียบกับดาวที่ลอยสูงแต่เงียบเหงา
ดวงดาวเศร้ามืดหม่นเมื่อไร้แสงจันทร์
ปีกบางเบาวิบวิบลอยละล่องลิบลิบไป
ไหวไหวในสายลมชมมวลพฤกษานานาพรรณ
ไล่เลาะไปตามหุบเขาร่องผาอันสูงชัญ
บนเส้นทางฝันท้าทายแสงจันทร์บนฟากฟ้า
เผชิญกับฝนฟ้ากับพายุบ้างเป็นบางคราว
ความร้อนหนาวลูบไล้กายาอย่างช้าช้า
มิเคยหวั่นไหวแม้ภัยแวะเวียนผ่านมาหา
ยังทรงคุณค่าแห่งหิ่งห้อย ณ .แดนไกล
8 กันยายน 2548 21:58 น.
ไรไก่
ชีวิตของมวลมนุษย์ยังเต็มไปด้วยความหวัง
แต่ละวันมนุษย์เผชิญชีวิตที่เต็มไปด้วยปัญหา
ล้วนแล้วแต่เรื่องดีบ้างร้ายบ้างแวะเวียนเข้ามา
อย่ามัวนั่งรอโชคชะตาเร่งรีบหากำลัง 3 ประการ
กำแรกคือกำลังกาย ใช่กายกับหน้าที่
ใช้แรงกายที่มีเข้าร่วมกับการทำงาน
มุ่งสร้างงานสร้างฐานะอย่าเกียจคร้าน
ไม่ช้านานได้ทั้งงานและได้ทั้งเงิน
กำสองคิอ กำลังความคิดพัฒนาสมอง
ไตร่ตรองสิ่งที่คิดพิจารณาประเมิน
คิดค้นสร้างสรรค์พัฒนาให้ค่าเสริม
เพิ่มเติมสิ่งใหม่ใหม่ทันสมัยให้โลกา
กำสามคือ กำลังใจ เป็นหน้าที่ของดวงจิต
ถ้าทำผิดผลาดเป็นครูมุ่งสู้แก้ปัญหา
ไม่ตอกย้ำผิดซ้ำซ้ำให้อัปมาณ
ควรสงสารชีวิตเราตัวของเราเบาให้เป็น
สร้างความหวังสร้างกำลังใจให้ชีวิต
ไม่ควรคิดท้อถอยคอยแก้ไขอย่างใจเย็น
สร้างด้วยกายสมองและจิตใจเป็นสายเส้น
ไม่ละเว้นเร่งทำกรรมดีไม่เสียทีที่เกิดมา