20 กันยายน 2548 23:16 น.
ไรไก่
เขาซื้อเราเอาไปเป็นสะใภ้กาฝาก
ด้วยจนยากจำต้องรับทนหมองศรี
ผู้คนเหยียบย้ำทับถมทุกข์ทวี
ตัวเรานี้เหมือนไม่มีค่าราคาคน
ทนรับใช้เอาแรงกายเข้าไปแลก
เป็นตัวแปลกประหลาดให้สับสน
ถูกกลั่นแกล้งจากเหล่าผู้คน
สู้อดทนไม่บ่นก้มหน้าชา
น้ำคำเยาะหยันให้เจ็บช้ำ
ว่าตัวดำลูกนิโกรโก้จริงหนา
ทุ่มเทถ่างถากเหลือคณา
วาจาช่างเจ็บเหน็บในน้ำใจ
ถึงตัวดำแต่ก็ดำเฉพาะกาย
แต่หัวใจมิใช่จะดำไม่
ถึงกายดำแต่หัวใจก็สดใส
ด้วยน้ำใจมิตรไมตรีมีให้กัน
เพลงคมใจดำ
ขับร้อง พรชิตา ณ. สงขลา
เกิดมาเป็นยังไงก็คงต้องเป็นกันไป
จะบ่นทำไม ให้ปวดหัว
ไม่ว่า ว่าดำ ว่าขาว แต่เราก็ยังภูมิใจ
จะมองเรายังไงก็ไม่กลัว
จะบอกว่าดีว่าร้ายมันไม่ใช่ดูกันที่ตัว ต้องดูกันที่หัวใจ
คนตัวดำไม่เกี่ยวกะคนใจดำ คนใจดำบางทีก็ตัวไม่ดำ
คนตัวดำยังดีกว่าคนใจดำ เธอใจดำมาทำให้คนเขารัก
ได้ไงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ยังงี้เขาเรียกว่าคนใจดำ
หากมีตอนกลางวัน แต่มันไม่มีกลางคืน
ไม่หลับไม่นอนกันเลยเหรอ
ต้องมีดำกะขาวก็เขาให้มาเป็นคู่
ไม่เคยรับรู้บ้างหรือเธอ
ดำ ดู ดี ดำ ดู ดี ดำ ดี ดำ
ดำ ดู ดี ดำ ดู ไม่ ดี ก็ ดำ ด้ำ ดำ
ดำ ดู ดี ดำ ดู ดี ดี ก็ ไม่ ดำ
19 กันยายน 2548 13:57 น.
ไรไก่
เขาคือชายชรา
ทำหน้าที่รับใช้ท่านเศรษฐี
และทำความสะอาดสนามให้ดูดี
พร้อมหน้าที่ตามบัญชาของเจ้านาย
ตะวันสายบ่ายคล้อยลอยลับ
ชายชรานั่งพักหลบเอนกาย
ลมเย็นพัดผ่านดับร้อนผ่อนคลาย
สุขสบายหายปวดเมื่อยดั่งปลิดทิ้ง
นกกระทาตัวน้อยเดินลงเล่น
ชายชราเห็นรีบตะครุบจับหนีบให้นิ่ง
มือซ้ายบีบมือขวานำมีดหมายหั่นเป็นชิ้น
ทำท่ากินนกน้อยรีบเปล่งวาจา
"โปรดเถิดท่านเจ้าขา อย่าฆ่าฉัน
แล้วฉันจะให้สิ่งมีค่า
ท่านปล่อยฉันไปเถิดโปรดกรุณา
สิ่งมีค่าฉันให้เพื่อแลกกับชีวิต"
"บอกมาซิเจ้านกน้อยอย่าได้ชักช้า
เราจะกรุณาไว้ชีวิตเจ้าอย่างที่คิด"
นกน้อยรีบบอกสิ่งมี"ค่าควรครองชีวิต"
ต้องพินิจถึงสิ่งสำคัญ สามประการ
หนึ่ง.....พยายามรักษาของดีที่หาได้อย่าให้สูญหาย
สอง......อย่าเศร้าโศกเสียใจเมื่อต้องเสียสิ่งดีไปบ้าง
สาม......จงฟังหูไว้หูอย่าเชื่อสิ่งใดง่ายหุไม่เบาบาง
สี่..........ท่านสร้างสิ่งดีโดยปล่อยฉันไปฉันจึงจะกล่าวอ้าง
ชายชราตกลงปล่อยนกน้อยไป
นกน้อยไซร์บินไปเกาะไกลห่าง
แล้วพุดว่า"ท่านความจำจาง
ท่านนี้ช่างลืมง่ายจริงสิ่งฉันเตือน"
ชายชราได้คิดและแค้นใจยิ่ง
กับทุกสิ่งที่นกน้อยกล่าวคิดเคือง
"ไม่เป็นไรกล่าวข้อสี่อย่าแชเชือน
อย่าทำเหมือนกับสิ่งที่ผ่านมา"
นกน้อยกล่าวข้อสี่เป็นข่าวดี
ตัวฉันมีเพชรงามล้ำค่า
ในช่องท้องของฉันถ้าท่านผ่า
นำออกมาท่านจะได้เพชรนี้ไป
ชายชราเสียใจร่ำไห้ที่สูญเสียสิ่งมีค่า
นกกล่าวว่าท่านลืมข้อสองแล้วหรือไม่
และข้อสามจงฟังหูไว้หูคิดครวญใคร่
แล้วทำไมท่านไม่คิดพิจารณาคำบอกกล่าว
ตัวเรานั้นไม่มีเพชรแต่อย่างใด
ฉันหลอกให้ท่านไว้ชีวิตฉันชั่วคราว
อย่าเสียใจไปเลยหรือทำตัวเหมือนคนเขลา
ฉันจะกล่าวให้ข้อคิดสะกิดเตือนใจ
คิดเสียก่อนจึงค่อยถาม
ตรองเนื้อความก่อนตอบ
ตรวจหาให้รอบคอบก่อนทำ
17 กันยายน 2548 15:12 น.
ไรไก่
ไม่ใช่.........ปาฏิหารย์
ไม่ใช่.........พรหมลิขิตอย่างที่ใครๆใฝ่หา
มันเพียงแค่..........
แค่............. ความเหงาเข้าประชิดในหัวใจ
แค่............อยากมีใครสักคนเข้ามาเป็นเพื่อน
แค่............สุมตัวอย่างเข้าทักทายหายเหงาก็ลืมเลือน
แค่............อยากเหมือนคนอื่นที่เขาต่างมีกัน
แค่............อยากอวดอ้างกับใครใครฉันก็แน่
แค่............ทำให้เธอได้แคร์ฉันก็เหลิงจนเกินฝัน
แค่.............หลอกล่อหยอกเหย้ากันเล่นให้มันมัน
แค่.............แกล้งทำจริงจังแล้วก็ผันตัวจากไป
ตัวเธออาจคิดเพียงแค่.........
แต่ฉันไม่ได้เพียงคิดแค่นั้น
ฉันคิดเรื่องต่างๆอย่างจริงจัง
และฉันมั่นใจเสมอในตัวเอง
17 กันยายน 2548 09:56 น.
ไรไก่
คือวันนั้น
วันที่ฉันแสนยินดีปรีดา
ที่ฟ้านำพาให้ฉันได้รู้จักเธอ
หยอกล้อคุยเล่นกันอยู่เสมอ
ฉันเธอผูกมิตรจิตผูกพัน
นานวันความสัมพันธ์แนบแน่น
เปรียบแม้นเกลียวเชือกกระชับมั่น
ความรู้สึกความเข้าใจของหัวใจกันและกัน
ซ่อนลึกสุขล้ำล้นเปี่ยมด้วยความหมาย
เราพบกันนานวันผันความรู้สึก
เคยนึกนับเป็นเพื่อนกลับเลือนหาย
เป็นความรักแทรกซ้อนจับทักทาย
เริ่มละอายกับหัวใจที่เปลี่ยนแปร
แสวงหาทางออกอย่างสับสนบนทางผ่าน
หัวใจร้างสร้างทางรักใช่รักแท้
ถูกขว้างทิ้งไม่ใยดีเธอไม่แคร์
ใจท้อแท้แพ้ความรักมีต่อเธอ
คือวันนี้
วันที่มีความเศร้ามาเป็นเพื่อน
มาย้ำเตือนไม่เว้นแต่ละวัน
หวนคิดคืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น
รันทดท้อเพลงตรมหลงงมงาย
และยังคงมานั่งอยู่ที่เก่า
แม้ไร้เงาของใครคนหนึ่งมากล้ำกราย
รู้ทั้งรู้ว่าใช่จะมีความหมาย
เดียวดายอยู่ภายใต้แสงจันทร์
ความเงียบและเหงารุมเร้าจิต
เมื่อคิดถึงตัวเราเศร้าโศกสัน
เหม่อมองฟ้าไร้ดาวโดยฉับพลัน
หัวใจหวั่นพลั่นเร้นคนแพ้ทาง
คงเป็นแค่อันทางผ่าน
ไม่ทันนานก็ผ่าน-ผลาญ
ปล่อยชีวิตรอไปอีกคงไม่นาน
จักสานความแข็งแกร่งให้จีรัง
15 กันยายน 2548 22:11 น.
ไรไก่
วิถีชีวิตของผู้คนล้วนหลากหลาย
สุขสบายหรือทุกข์ยากเกินขับขาน
ต่างคนต่างเดินตามเส้นทาง
ปลายทางแต่ละคนล้วนผูกพัน
บางคนเกิดในครอบครัวที่อบอุ่น
ด้วยค้ำจุนจากพ่อแม่ที่มีใจรักมั่น
เฝ้าฟูมฝักดุแลและห่วงใยสารพัน
เสกสรรค์ให้ทุกอย่างตามปรารถนา
แต่บางคนเพราะเลือกเกิดไม่ได้
ใช่จะอยากเกิดในครอบครัวมีปัญหา
ถุกปล่อยปล่ะละเลยเกิดโดยไม่เจตนา
ดั่งลูกไม่มีค่าในสายตาของครอบครัว
ลูกจะดีเพราะมีพ่อและแม่คอยสั่งสอน
เฝ้าคอยมองประคับประคองไม่หมองมัว
เป็นตัวอย่างที่ดีให้รู้จักความดีความชั่ว
ไม่หลงตัวว่าดีเลิศทำเชิดใส่ใคร
เป็นลูกไม้ที่ไม่หล่นไกลจากต้น
ปลูกกี่หนต้นอะไรดินตรงไหน
สภาพอากาศสิ่งแวดล้อมใช่อื่นไกล
ต้นไม้ใหญ่เป็นอย่างไรผลที่ได้ก้เหมือนกัน