14 พฤศจิกายน 2550 19:58 น.
ไม้หอม
คิดถึงเธอนะรู้ไหม
แม้ระยะทางแสนห่างไกลอย่างนี้
หวั่นไหวบ้างไหมในบางที
เมื่อไม่มีใครอยู่ข้างเคียงกัน
ฉันรู้บางที่เธอเองก็หวั่นไหว
ใช่ฉันเองก็ร้าวหวั่น
คิดถึงเธอมากมากเหมือนกัน
และเฝ้ารอทุกวันรอเธอกลับมา
กลับมาตรงนี้ถ้าเธอท้อ
ฉันยังอยู่เฝ้ารอเธอมาหา
เธอยังคือใครที่ฉันยังศรัทธา
และจะเป็นอย่างนี้ตลอดมาตลอดไป
กลับมานะถ้าเธอยังสับสน
ฉันอยู่ที่นี่อีกคนไม่ได้ไปไหน
เฝ้ารอเสมอไม่ว่าเธอจะกลับมาหรือไม่
ไม่เป็นไรฉันจะรออย่างที่เคย
11 พฤศจิกายน 2550 16:26 น.
ไม้หอม
ฉันคิดถึงเธอนะธารา
อยากให้เธอรู้ว่ายังอยู่ตรงนี้เสมอ
ขอโทษที่เคยทำร้ายใจเธอ
แม้วันนี้ไม่อาจพบเจอในคืนวัน
อยากบอกเธอนักว่ารักยิ่ง
เธอยังหยุดนิ่งในใจฉัน
หากย้อนเวลากลับไปได้
จะไม่ยอมพรากให้จากกัน
เธอยังเป็นหนึ่งในนั้นที่ผูกพันด้วยหัวใจ
หากขอโทษแล้วทุกอย่างจบก็คงดี
ฉันยังไม่รู้เลยวันนี้เธออยู่ที่ไหน
แววตาฉันเฝ้าคอยแม้รู้ว่าไม่มีทางใด
ที่จะได้พบเจอใครที่รักจริง
คิดถึงเธอนะคุณเธอ
หวังไว้เสมอสักวันไม่หยุดนิ่ง
แต่การรอคอยมันเนิ่น
นานนานจับใจจริงจริง
อยากสัมผัสเธอที่อุ่นอิงด้วยอุ่นไอ
เธออยู่ไหนนะธาร ธารา
ฉันอยากรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน
ไม่ค่อยได้เห็นงานของเธอก็ปวดใจ
ได้โปรดอย่าทำให้ฉันหวั่นไหว
แม้ไม่ใช่ใครที่เธอแคร์
อยากให้เธอรู้ไว้ว่าคิดถึง
ยังจำถ้อยคำรำพึงยามท้อแท้
ยังจำได้ครั้งที่เธอคอยดูแล
และถึงแม้จะผ่านมาหลายปี
งานหนังสือเดี๋ยวนี้มันว่างเปล่า
ไม่มีเงาของเธออยู่ที่นี่
งานหนังสือเงียบเหงาลงทุกปี
พอพอกับที่ฉันท้อใจ
เจ้าผีเสื้อหนุ่มขี้อาย
เป็นผู้ชายที่มีแววตาหวานไหว
ปากเธอสวยได้รูปกว่าใครใคร
และหัวใจของเธอก็งดงาม
11 พฤศจิกายน 2550 15:14 น.
ไม้หอม
เพราะอยู่ไกลเกินกว่าเอื้อมมือถึง
เอ่ยรำพึงในคืนวันเลยหวั่นไหว
เพราะไกลเกินเหินห่างร้างหัวใจ
เพราะเป็นได้แค่ใครที่ธรรมดา
เพราะธรรมดาเกินไปใช่หรือเปล่า
ระหว่างเราจึงเป็นได้แค่เหว่ว้า
ระยะทางห่างไกลในเวลา
ใช่สำคัญหากแต่ว่าเราจริงใจ
แต่เพราะว่าเธอไม่เคยคิด
ฉันจึงเป็นเพียงหนึ่งชีวิตที่หวั่นไหว
เธอผ่านมาเพียงเพื่อจะผ่านไป
ผ่านมาเพื่อลองใจในรักลวง
เพราะไกลเกินเหินห่างเอื้อมคว้าถึง
จึงรำเพยเอ่ยรำพึงในความหวง
แม้จะรู้ที่ผ่านมาแค่ลมลวง
แต่ก็ยังคงห่วงไม่ล้างลา
เพราะแพ้จิตแพ้ใจแพ้ในรัก
เธอสูงส่งเกินจักประมาณค่า
ระดับจิตของเธอไม่ธรรมดา
ความงามเธอเกินกว่าคำว่างาม
10 พฤศจิกายน 2550 19:27 น.
ไม้หอม
ขอเป็นบทสุดท้ายที่จะเขียน
จากอารมณ์จวนเจียนจะแตกหัก
หมดสิ้นแล้วความรักเคยทายทัก
วันนี้จักจบสิ้นหมดเยื่อใย
ฉันไม่เหลือหัวใจให้ใครแล้ว
แค่ลมแผ่วแว่วมาก็ร้าวไหว
แค่ฝนตกลงมาก็ร้าวใจ
แค่ลมหนาวผ่านไปใจก็ชา
ฉันไม่เหลืออะไรแล้วในโลก
แค่ลมโศกโบกมาก็เหว่ว้า
สิ่งที่ข้าเคยหวังและศรัทธา
วันนี้กลับเรือนพร่าในหัวใจ
หมดสิ้นแล้วหัวใจในความรัก
จนมิอาจหยุดพักความร้าวไหว
หลั่งน้ำตาลงมาแทบสิ้นใจ
วันนี้ฉันหม่นไหม้ใจร้าวราน
ขอเป็นบทสุดท้ายที่จะเขียน
จากอารมณ์จวนเจียนจนตายด้าน
ไม่หลงเหลืออะไรในวันวาน
แม้คืนผ่านน้ำตาไม่พราเลือน
10 พฤศจิกายน 2550 18:43 น.
ไม้หอม
โค้งรุ้งคุ้งเรียวเป็นเคียวโค้ง
แสงยอดสอดโยงลำโก่งแสง
แดงแสดแดดสาดผุดผาดแดง
สีพวยสวยแพงพรายแพร่งสี
.........................................
เฝ้ามองหมองเศร้าร้าวล้า
โค้งรุ้งเบื้องหน้าพาหวั่นไหว
แสงยอดสอดโยงเหมือนโล่งใจ
แต่ฉันกับหม่นไหม้ใจอกตรม
โค้งรุ้งคุ้งเรียวเป็นเคียวโค้ง
สีสลับกลับโยงให้เหมาะสม
แดงแสดแดดสาดผ่านตาชม
แต่ทำไมคนหนึ่งคนยังเศร้าใจ