22 มิถุนายน 2548 14:30 น.
ไม้จิ้มฟันพิฆาตเซียน
เราเป็นเพื่อนกันมา ฉันเห็นมาแล้ว มีหลายคนที่ปรึกษาว่าจะทำไงดี
ฉันรักเขาแล้ว แต่ไม่กล้าพูด กลัวเขาจะไม่เหมือนเดิม
>แน่นอนว่าถ้าเป็นฉันเอง ฉันก้อคงไม่พูด
แค่ได้มองมันด้วยความรูสึกแบบนี้ดีกว่า
แค่ได้อยู่ใกล้แต่อยู่ใกล้หัวใจดีกว่า
แค่ได้พูดจาด้วยความสนิทแม้ว่าเขาไม่คิดอะไรดีกว่า
แค่ได้เดินกับเขาแม้จะถูกแนะเนว่าเป็นเพื่อนดีกว่าแค่ได้กินข้าวกับเขาแม้ไม่ได้มองตาหวานๆก้อดีกว่า
แค่ได้ยืนอยู่ข้างรับรู้ทุกความรู้สึกของเขาแม้ไม่ใช่ความรักแบบแฟนก้อยังดีกว่า
แค่ได้พูดคุยแม้จะปรึกษาหรือจีบหญิงให้ก้อยังดีกว่าไม่ได้คุยกันเลย
แค่ได้ช่วยแก้ปัญหาให้เขาแม้จะเพิ่มปัญหาให้หัวใจตัวเองก้อยังดีกว่า
แค่ได้เดินกอดคอกันไปแม้จะไม่ได้กอดกันด้วยความรู้สึกของคนรักก้อยังดีกว่า
แค่ได้ไปเป็นเอนเขาตอนจีบหญิงแม้จะไม่ได้เป็นเราและภาพมันบาดตาก้อยังดีกว่าไม่รู้อะไร
ฉันเป็นคนดีจริงๆ เขาก้อคิดว่าฉันเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับเขา และถ้าฉันบอกเขาไป ว่า........
ฉันคิดกับเขาเกินกว่านั้นเขาจะมองฉันยังไง
เขาคิดกับฉันยังไง
เราจะยังเป็นเหมือนเดิมมั๊ย
เราจะยังสำคัญมั๊ย
เราจะยังเป็นคนดีของเขามั๊ย
ถ้าทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง ก้ออย่าพยายามที่จะบอกรักเขาออกไป
เพราะการพยายามครั้งนี้อาจจะไม่ส่งผลต่อฉัน
บางครั้งเพื่อนที่ดี อาจไม่ใช่แฟนที่ดีก้อได้
20 เมษายน 2548 17:43 น.
ไม้จิ้มฟันพิฆาตเซียน
เด็กน้อยคนหนึ่งที่สีหน้าแสดงอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก พ่อของเขาจึงให้ตะปูกับเขาหนึ่งถุง และบอกกับเขาว่า
"ทุกครั้งที่เขารู้สึกโมโห หรือโกรธใครสักคนให้ตอกตะปู 1 ตัวเข้าไปกับรั้วที่หลังบ้าน"
วันแรกผ่านไปเด็กน้อยคนนั้นตอกตะปูเขาไปที่รั้วหลังบ้านถึง 37 ตัว และก็ค่อย ๆ
ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ ในแต่ละวันที่ผ่านไป ก็ลดจํานวนลง น้อยลง น้อยลง
เพราะเขารู้สึกว่า การรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเอง ให้สงบง่ายกว่าการตอกตะปูตั้งเยอะ
และแล้วหลังจากที่เขาสามารถควบคุมตนเองได้ดีขึ้น ใจเย็นมากขึ้น เขาจึงเข้าไปพบกับพ่อและบอกกับพ่อของเขาว่า
เขาสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้แล้วไม่มุทะลุเหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็นมา พ่อยิ้ม และบอกกับลูกชายของเขาว่า
"ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเจ้าต้องพิสูจน์ให้พ่อรู้ โดยทุกๆ ครั้งที่เขาสามารถควบคุมอารมณ์ ฉุนเฉียวของตนเองได้
ให้ถอนตะปูออกจากรั้วหลังบ้าน 1 ตัว ทุกครั้ง" วันแล้ววันเล่าเด็กน้อยคนนั้นก็ค่อยๆ ถอนตะปูออกทีละตัว
จาก 1 เป็น 2 .... จาก 2 เป็น 3 จนในที่สุดตะปูทั้งหมดก็ถูกถอนออกจนหมด
เด็กน้อยดีใจมากรีบวิ่งไปบอกกับพ่อเขาว่า "ฉันทำได้ ในที่สุดฉันก็ทำจนสำเร็จ!!"
พ่อไม่ได้พูดอะไร แต่จูงมือลูกของเขาออกไปที่รั้วหลังบ้าน และบอกกับลูกว่า
"ทำได้ดีมาก ลูกพ่อ และเจ้าลองมองกลับไปที่รั้วเหล่านั้นสิ เจ้าเห็นหรือไม่ว่ารั้วนั้นมันไม่เหมือนเดิม
ไม่เหมือน..กับที่มันเคยเป็น จำไว้นะลูกเมื่อใดก็ตามที่เจ้าทำอะไรลงไปโดยใช้อารมณ์
สิ่งนั้นมันจะเกิดเป็นรอยแผลเหมือนกับการเอามีดที่แหลมคมไปแทงใครสักคน
ต่อให้ใช้คำพูด ว่า "ขอโทษ" สักกี่หนก็ไม่อาจลบความเจ็บปวด ไม่อาจลบรอยแผลที่เกิดขึ้นกับเขาคนนั้นได้ฉันใดก็ฉันนั้น
"กับเพื่อน" .. เพื่อนเปรียบเสมือนอัญมณีอันมีค่าที่หายากเป็นคนที่ทำให้เรายิ้มเป็นคนที่คอยให้กำลังใจ
และยินดีเมื่อเราพบกับความสำเร็จเป็นคนที่คอยปลอบใจเราเมื่อยามเศร้า
ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเราและจริงใจกับเราเสมอ ... แสดงให้เขาเห็น ว่าเราห่วงใยเขามากแค่ไหนและระวังสิ่งที่เราทำไป
ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ และจงจดจำไว้เสมอว่า "คำขอโทษ " ไม่ว่าเขาจะยกโทษให้เราหรือไม่ก็ตาม
แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้น คือรอยร้าวที่เขาคงไม่อาจลืมมันได้ ...... ตลอดไป"
หวังว่านิทานนี้คงช่วยให้พวกเราอยู่ร่วมกัน ทำงานร่วมกัน คบกัน ด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกันขึ้นเรื่อยๆ ตลอดไป.....
22 มีนาคม 2548 18:56 น.
ไม้จิ้มฟันพิฆาตเซียน
วันนี้....เกิดอะไรขึ้น
เหมือนมีบางอยางมันกำลังจะเปลี่ยนไป ....จากหน้ามือเป็นหลังมือ
อะไรเกิดขึ้น มันเกิดจากอะไร
ตัวเราก็รู้ดี รู้และเข้าใจ
แต่สิ่งที่ทำไม่ได้คือกลับไปแก้ไขมัน...มันเกิดขึ้นแล้ว
ไม่อยากให้ใครรู้สึกอย่างนั้นเลย
วันนี้เราทำให้คน 2 คนน้อยใจ
เราก็เสียใจไม่ได้ตั้งใจอยากจะให้มันเป็นอย่างนั้นเลย
ก็รู้ตัวอ่ะนะว่าที่ทำอย่างนั้น มันก็ต้องน้อยใจ
แต่ตอนนั้นเราก็ไม่ได้ตั้งจะทำให้ใครรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
เราแคร์ความรู้สึกของพวกเธอทั้ง 2 คนนะ
ตอนนี้เราก็รูสึกแย่
เราก็ไม่ชอบการแก้ตัว
เอาเป็นว่าเราขอโทษและเสียใจ ในการกระทำของเรา
ที่ทำให้ รู้สึกอย่านั้น ...
ไม่รู้ว่าเราคิดมากไปรึป่าว
แต่เรารู้สึกได้อย่างนั้นจริง
ตอนนี้เราไม่ต้องการอะไรมาก
แค่ขอความรู้สึกดีๆของเพื่อนกลับคืนมาเหมือนเดิม
มิตรภาพกว่าจะสร้างขึ้นมาได้อาจจะต้องใช้เวลาที่ยาวนาน
และการจะรักษามันไว้ก็ต้องใช้ความเข้าใจ และอดทน
แต่การจะทำลายนั้นใช้เวลาแค่ชั่วพริบตา
หากคำขอโทษ 1 คำ จะแลกกับเวลาเก่าๆที่เคยใช้ร่วมกัน
ให้อภัย 1 ครั้ง จะแลกกับการได้คนใกล้ชิดมา 1 คน
ขอโทษ
เฮ้อ......การที่จะเข้าใจความรู้สึกของทุกคนเนี่ยมันเป็นเรื่องยากนะ แล้วจะทำให้ทุกๆคนมาเข้าใจความรู้สึกของเรามันก็เป็นไปไม่ได้จริงๆ ต้องทำใจ...
21 มีนาคม 2548 19:19 น.
ไม้จิ้มฟันพิฆาตเซียน
เพื่อน คุณรู้จักคำๆนี้มากแค่ไหนกัน - - - คุณจะตอบว่าอย่างไร
เพื่อน....มีเยอะแยะ พึ่งไปเที่ยวด้วยกันมาเองสนุก เฮฮาตามประสา.....
เพื่อน....ก็เจอกันแทบทุกวันแหละ ตอนไปโรงเรียน/ที่ทำงานไง
เพื่อน....นี่ไง อยู่ข้างบ้านนี่ก็ใช่
เพื่อน....แช็ตกันทุกวันแหละ หาง่ายออก
เพื่อน....เมื่อกี้ก็เพิ่งรู้จักมาคนนึง
เพื่อน....ก็เพื่อนทุกคนแหละที่รู้จักกัน
นั่นอาจจะคือเพื่อนสำหรับใครบางคน แต่เพื่อนสำหรับบางคนมีความหมายมากกว่านั้น เพื่อนแท้....เพื่อนที่จริงใจของเราสักคนมันหาได้ยากแค่ไหนใครรู้บ้าง แต่คงไม่หาได้ง่ายตามข้างทาง หรือเก็บตกได้ตามถังขยะหรอกนะ เพื่อนแท้ต้องใช้เวลาเก็บสะสมความรู้สึก...ความผูกพัน คงพอๆกับคนรักเลยล่ะหรืออาจจะมากกว่า
บางคนอาจมีเพื่อนเยอะแยะมากมาย แต่ในบางเวลาที่ต้องการคนปลอบใจสักคนกลับไม่มี...ถึงจะโกรธ จะเกลียดกันไป...สักวันก็ต้องกลับมาคืนดีกันจนได้....ก็เราเป็นเพื่อนกันไงล่ะ เพื่อนมักมีความทรงจำดีๆด้วยกันเสมอ แล้วมีใครจะช่วยเหลือเรายามลำบากได้อย่างเพื่อนไหม???
คนที่คอยปลอบเรา อยู่ข้างๆเรา......ยามเราอกหัก
คนที่คอยด่าเรา....ขัดใจเรา(เตือนสติ) เวลาที่เราทำไม่ถูก
เวลาเสียใจบางทีเราอาจมีคนร้องไห้เป็นเพื่อนก็ได้ (น้ำตาท่วมพอดี)
เวลาดีใจก็มีคนดีใจด้วยกับความสำเร็จของเรา
เวลาที่เหงา.....เพื่อนอาจมาหาในตอนนั้น
แม้จะอยู่ห่างกันไปบ้าง แต่ความเป็นเพื่อนไม่เคยห่างไกลตามหรอกนะ
คนที่เมื่อเรามีเรื่องไม่สบายใจ เราสามารถโทรหาได้ทุกเมื่อ
คนที่พร้อมจะรับฟังเราทุกเรื่อง แม้จะไร้สาระแค่ไหนก็ตาม
คนที่พร้อมจะให้เรายืมตังค์...และยังไม่มีกำหนดคืน (ดีนะไม่ทวง)
คนที่คอยช่วยเราทำงาน...ไม่บ่นซักคำ (ก็มันทำไม่ทันจริงๆนี่นา)
อยากได้เพื่อนที่ดีพร้อมซักคน...เราต้องพิสูจน์ความจริงใจนานแค่ไหน เพื่อที่จะได้เพื่อนแท้ที่จริงใจ เพื่อนตาย ที่จะมีแต่ความหวังดีให้เราเสมอๆ ใครเจอแล้วก็คงโชคดีกว่าคนที่ยังไม่เจอนะ ขอเอาใจช่วยให้เจอเพื่อนแท้เร็วแต่....ถ้าอยากได้อะไรก็ควรให้สิ่งนั้นไปก่อนนะ อย่าหวังที่จะได้อยู่ฝ่ายเดียวมันไม่ดีหรอเอาเปรียบกันนี่นา!!!