30 พฤษภาคม 2550 08:53 น.
ไผ่ดำ
...เสียแรงเอย เสียแรงรัก สลักจิต
เสียแรงคิด ครวญใคร่ เฝ้าใฝ่หา
เสียแรงหมั่น คำนึง ถึงทุกครา
เสียแรงหลั่ง น้ำตา เพราะอาวรณ์
.....เสียแรงหลง ละเมอ หลงเพ้อพร่ำ
เสียแรงร่ำ อาลัย ไม่สังหรณ์
เสียแรงคอย เพราะหวง ห่วงอาทร
เสียแรงนอน ร้อนลุ่ม ไฟสุมทรวง
.....เสียแรงเคย ศรัทธา กว่าใครอื่น
เสียแรงชื่น ชมไว้ อย่างใหญ่หลวง
เสียแรงซื่อ สัตย์แท้ ทั้งแดดวง
เสียแรงทวง คำมั่น คำสัญญา
....กว่าจะรู้ ว่าไม่รัก ฉันสักนิด
ก็หลงผิด พลาดถลำ ช้ำหนักหนา
เชื่อคำหวาน ที่เธอแสร้ง แสดงมา
อนิจจา น้อยใจนัก แสนภักดี
.....กว่าจะซึ้ง ว่าเธอหลอก ทำบอกรัก
กว่าประจักษ์ แก่ใจ เธอหน่ายหนี
เมื่อเจ็บปวด รวดร้าว เศร้าฤดี
แล้วจะมี หัวใจสู้ อยู่ทำไม
.....จึงอุทิศ ดวงใจ อันไร้ค่า
พร้อมซากรัก อนาถา มามอบให้
เมื่อคนดี หมดเยื่อ ไม่เหลือใย
เธอจงใส่ ดอกไม้จันทน์ เผาฉันที.....
29 พฤษภาคม 2550 05:45 น.
ไผ่ดำ
...เธอเป็นใคร มาจากไหน ฉันไม่รู้
แต่เป็นผู้ ก้าวมา เมื่อฟ้าหมอง
เมื่อสิ้นแสง รังสี สุรีย์ครอง
เรืองแสงผ่อง พรายดาว เริ่มพราวพราย
.....ด้วยแรงฤทธิ์ พิษแผล แส้สวาท
คมรักบาด เธอยับ เกือบคับขัน
เธอเป็นใคร มาจากไหน ไม่สำคัญ
จะแบ่งปัน น้ำใจ ให้ดื่มกิน
.....พอแผลรัก คลายพิษ ชีวิตคืน
เธอหยิบยื่น ลั่นทม ให้ดมกลิ่น
เพลงอำลา ร่ายผ่าน ลานอาจินต์
แทบดับดิ้น ดวงใจ ยามไกลเธอ
.... เธอไปแล้ว ไปไหน ฉันไม่รู้
ยังทนสู้ ฝันหา น้ำตาเอ่อ
เจ้าของตัก พักใจ ยามใกล้เธอ
คอยพร่ำเพ้อ เพรียกหา หวนอาลัย
.....โอ้ว่าจิต คิดถึง และคิดถึง
ค่ำคืนหนึ่ง เนิ่นนาน สุดขานไข
คืนหนึ่งเหมือน หนึ่งปี ที่จากไป
ยิ่งแรมไกล เกรงแรมลับ เช่นดับดาว
.....เธอผู้มา แล้วไป ในความหมอง
ลืมเจ้าของ ตักพักฝัน คืนวันหนาว
คนคิดถึง จึงพ้อ ต่อเรื่องราว
อยากรู้ข่าว...ว่าไป ...อยู่ไหนกัน
28 พฤษภาคม 2550 17:46 น.
ไผ่ดำ
....เธอจะเกลียด เหยียดหยัน ฉันไม่ว่า
แต่อย่ามา ลวงกัน ให้ฉันหมอง
โปรดจงคิด เสียบ้าง อย่างไตร่ตรอง
ว่าใจของ คนอื่นนั้น เป็นฉันท์ใด
.....เธอจะตัด สัมพันธ์ วันเก่าเก่า
ฉันคนเศร้า ยินดี หลีกหนีให้
หากเป็นเพราะ ฉันเลว เลวเกินไป
ฉันจะไม่ วอนขอ ต่อคนดี
.... ฉันจะยอม ทนอยู่ เป็นผู้แพ้
ไม่เปลี่ยนแปร ให้ใจ ต้องหมองศรี
ฉันจะอยู่ คนเดียวไป ให้หลายปี
หรือกว่าชี..วีลับ ดับ..จมดิน.......
28 พฤษภาคม 2550 14:37 น.
ไผ่ดำ
.....พอเสียที ชีวิต ที่ผิดพลาด
ใครหนอวาด แต้มติด ชีวิตฉัน
อยู่ในม่าน หมอกหนา ยากฝ่าฟัน
ปล่อยให้ฉัน หลงทาง อยู่ข้างเดียว
.....เจ็บแผลเก่า เร้าจิต ให้คิดมาก
เหมือนดังขวาก หนามเหน็บ เจ็บจนเสียว
เมื่อความรัก สิ้นสลาย เริ่มคลายเกลียว
หลงทางเปลี่ยว ยังมีหวัง หาทางเจอ
.....แต่หลงกับ ความรัก ยากห้ามจิต
ปล่อยชีวิต บนเส้นทาง ด้วยความเผลอ
เพราะรักมาก จริงใจ มีให้เธอ
จึงต้องเพ้อ เมื่อเธอเปลี่ยน รักเวียนวน
.....ได้แต่เก็บ ความเศร้า เอาเป็นเพื่อน
ไว้คอยเตือน ยามที่ใจ ฉันสับสน
ถึงแม้เจ็บ แปลบแปลบ แสบกมล
จะขอทน ยิ้มทั้ง หลั่งน้ำตา
.....น้ำใสใส ไหลริน ลงหลายหยด
เมื่อฉันหมด ความหวัง ดั่งฝันหา
ปล่อยให้มัน ไหลหยด รินรดมา
เป็นน้ำตา ของผู้แพ้ แก่ใจเธอ.....
27 พฤษภาคม 2550 05:51 น.
ไผ่ดำ
...ด้วยผูกพัน กันมา แต่ปางก่อน
ที่บ้านกลอน จึงเกิด กวีศิลป์
ร่วมกันสร้าง ผลงาน ให้ยลยิน
จากทั่วถิ่น ทั่วแคว้น แผ่นดินเรา
...ทั้งนอก..ใน ประเทศ ไร้เขตขอบ
รวมคนชอบ เขียนกลอน ไว้คลายเหงา
บ้างก็มี ทุกข์ใจ ได้บรรเทา
เขียนกลอนเศร้า ระบาย คลายให้ฟัง
....บ้างก็ปลอบ เพื่อน..พี่ ที่ปวดร้าว
เขียนกลอนเศร้า ด้วยใจ ที่สิ้นหวัง
ที่บ้านกลอน เพื่อนใจดี ยังมีทาง
จึงมานั่ง เป็นเพื่อนใจ..คลายโศกตรม...