29 เมษายน 2549 20:58 น.
ไข่มุกอันดามัน
" ข้ามมิติพิศวง "
มิติแห่งกาลเวลาหรือมิติพิศวง เป็นเรื่องที่พิสูจน์ในทางวิทยาศาสตร์ได้ยาก
แต่นักวิทยาศาสตร์บางท่าน ได้คิดค้นหาข้อมูล เรื่องสิ่งลี้ลับเป็นเวลานาน แต่ก็ได้ผลเกินคาด อย่างเช่น เรื่อง ผีที่ใครหลายๆคนถึงกับขวัญผวา ข้อความนี้มาจากหนังสือนิตรสารเล่มหนึ่งที่ ปาดวาด พึงซื้อมาได้ 3 วัน ปาดวาดนั่งอ่านที่ห้องนั่งเล่น ชั้น 1ที่อยู่ติดกับห้องรับแขก ปาดวาดชอบศึกษาเรื่องราวพิศวงและลึกลับมาตั้งแต่อายุได้ 18 ปี ปัจจุบันอายุ 23 ปี เธอก็ยังคงศึกษาและหาข้อมูลอยู่บ่อยๆจากหนังสือที่เธออ่าน เพราะเธอไม่ได้เรียนหนังสือ ว่าแล้วไอ้เรื่องผีๆไม่มีจริงหรอก โกหกทั้งเพ ไอ้พวกที่กลัวผีก็ช่างจะประสาทหลอนซะจริงๆ ไร้สาระสิ้นดี ปาดวาด สาวน้อยที่ไม่เคยเชื่อเรื่องผีสางเทวดา รวมทั้งไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์และไม่เคยทำบุญเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในอดีตเธอเคยทำสิ่งที่ไม่ดีมาหลายครั้งรวมทั้งเธอติดยาเสพติดอยู่ จนเธอถูกไล่ออกจากโรงเรียนและบ้าน เธอจึงมาดำเนินชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมาตั้งแต่นั้นมา ปานวาดกำลังจะออกไปหน้าปากซอย เพื่อไปตลาดนัด เมื่อเธอได้ไปตลาดก็ซื้อกับข้าวมาส่วนหนึ่ง เธอจึงกลับมาบ้าน เธอพึงย้ายมาอยู่ที่นี้ได้เพียง 2 อาทิตย์จึงไม่ค่อยคุ่นทางสักเท่าไร ระหว่างกลับบ้าน เธอเดินหลงเข้ามาในซอยแห่งหนึ่งที่ดูเปลี่ยวมากจนน่ากลัว เธอผ่านมาเจอร้านหนังสือในซอยแห่งหนึ่งที่กำลังจะเก็บร้าน เธอคิดว่าลองลงไปดูคงไม่เสียเปล่า จะลงไปดูสักเล่มหนึ่ง เธอก็ได้พูดขึ้นว่า
ลุงค่ะ หนูขอดูหนังสือสัก 5 นาทีนะค่ะ ได้ ชายชราอายุประมาณ 60 กว่าๆ พูดขึ้น ปานวาดเดินไปดูหนังสือเรื่อยๆ จนเจอหนังสือเล่มหนึ่งที่น่าสนใจมาก หนังสือเล่มนั้นมีชื่อเรื่องว่า
ข้ามมิติพิศวง ปานวาดหยิบหนังสือขึ้นมา หนู ตาจะเก็บร้านแล้ว จะซื้อก็รีบซื้อ ชายชราพูดขึ้น เธอจึงตัดสินใจซื้อเล่มนี้ทันที่ ในราคา 100 บาทแล้วเธอก็มุ่งหน้ากลับบ้านทันที เมื่อกลับมาถึงเธอก็เปิดดูหนังสือทันที ในหนังสือมีเนื้อหาเกี่ยวกับการข้ามมิติไปอีกด้านหนึ่งที่ไม่มีใครรู้มาก่อน เธอจึงเริ่มอ่านหนังสือโดยไม่รอช้า เพราะมันเป็นเรื่องที่เธอสนใจมาโดยตลอด ขณะที่เธอกำลังจะเปิดไปอ่านในหน้าแรก ตาของเธอเหลือบไปเห็นคำเตือนว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว คุณจะพบสิ่งที่คุณไม่คาดคิดก่อน มันเป็นข้อความที่เขียนโดยปากกาหมึกซึมสีแดง
ปานวาดไม่รู้สึกอะไร เพราะปกติเธอก็ไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้มาโดยตลอด เธอเริ่มอ่านจากหน้าที่ 1 ในหนังสือมีข้อความทักทายผู้อ่าน สวัสดีครับ ผมขอแนะนำตัวก่อน ผม คือ นายปกรณ์ ผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องผีๆสางๆ หรือ นรก สวรรค์ จนวันหนึ่ง ผมได้มาเจอหนังสือเล่มนี้ แต่ก่อนหน้านี้ ผมเป็นคนเสเพล เกเร จนพ่อแม่ไล่ออกจากบ้าน ผมจึงเป็นเด็กมีปัญหาและไม่เคยคิดจะเปลี่ยนตัวเองเลยครับ แต่พอผมมาเจอหนังสือเล่มนี้มันไม่ใช่หนังสือธรรมดาครับ เพราะคุณจะพบกับสิ่งที่คุณไม่คาดคิดมาก่อนในชีวิตก็ว่าได้ คุณพร้อมหรือยังที่จะข้ามมิติพิศวงไปกับเรา ? ปานวาดมีความรู้สึกตื่นเต้นกับข้อความดังกล่าวมาก แน่นอน ฉันพร้อมแล้ว เมื่อเธอพูดจบ สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับเธอ รอบๆตัวของเธอดำเนินอย่างรวดเร็วเหมือนกับการย้อนเวลา เวลาก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกตื่นตกใจมาก จนมาหยุดที่สถานที่แห่งหนึ่งที่เรียกว่า นรก บรรยากาศในขณะนั้นมันช่างน่ากลัว น่าผวามาก มีแต่เสียงร้องจากคนที่ถูกลงโทษร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา บุคคลที่กระทำบาปต่างถูกทรมานด้วยวิธีต่างๆ เช่น ใช้หอกแทงตามร่างกายจนเป็นรูพรุน ซึ่งมีชายรูปร่างสูง ผิวดำแดง น่าเกรงขาม นุ่งกางเกงสีแดงกำลังลงโทษผู้ที่ทำบาปอยู่ ความรู้สึกของปานวาดในขณะนั้น เธอเริ่มที่จะเชื่อในสิ่งที่เธอไม่เคยเชื่อมาโดยตลอด เธอถึงกับร้องไห้ออกมา ขณะนั้นภายในสมองของเธอสั่งการให้เธอหาทาง หนี ในขณะนั้น เธอพยายามจะกลับไปยังโลกมนุษย์ เธอเดินไปเรื่อยๆพร้อมกับร้องไห้ไปด้วย วิญญาณที่ถูกลงโทษคลานมาหาตัวเธอ บางดวงวิญญาณก็ร้องขอความช่วยเหลือ ปานวาดจึงรีบวิ่งหนีเข้าไปยังป่าแห่งหนึ่งซึ่งเธอไม่รู้ว่าที่แห่งนี้ คือที่ไหน ในป่าเป็นป่าที่รกทึบ ฟ้าก็มืดดำน่ากลัว ต้นไม้ผิดแปลกจากปกติ เพราะต้นไม้ไม่มีใบไม่มีดอก เป็นต้นไม้ที่เหี่ยวแห้ง ที่โคนต้นมีหนามแหลมเหมือนต้นงิ้ว แต่ไม่ใช่ต้นงิ้ว ขณะนั้นตาของเธอก็เหลือบไปเห็นวิญญาณผู้ตาย โดนลากโดนดึงโดยยมทูตกำลังผ่านไปยังดงหมาป่า ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้ายเหมือนเสือขวางทางอยู่ วิญญาณผู้ตายเกิดอาการหวาดกลัวมากและไม่กล้าเดินต่อไป ทำให้พวกฝูงหมาป่าก็เข้ามารุมล้อม กระโจน ขย้ำและขบกัดวิญญาณบาปจนเลือดท้วมตัว วิญญาณบาปก็กรีดร้องโหยหวน ขอความช่วยเหลือจากปานวาด ปานวาดถึงกับหน้าซีด มือสั่น ตื่นกลัวและเธอก็กรีดร้องด้วยความตกใจ สติของเธอกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้วในตอนนี้ เธอวิ่งหนีจนไปเจอกับประตูบานหนึ่งที่มีผู้รักษาด่านอยู่นั้น เมื่อเธอเห็นดวงวิญญาณคนบาปมาถึงก็โดนยมทูตทุบตี ใช้หอกทิมแทงอย่างไม่ปรานีปราศรัย ปานวาดเห็นแล้ว เธอก็ยิ่งกลัวเป็นที่สุด สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว เธอก็วิ่งหนี เพื่อหาทางกลับบ้านอีกครั้ง แต่เธอกับมาเจอหอกระจก ซึ่งมีดวงวิญญาณที่ถูกล่ามโซ่ตรวนอยู่ที่ขาและมือทั้ง 2 ข้าง กำลังโดนยมทูตบังคับให้ยืนหน้ากระจก เพื่อดูภาพที่ตนได้ทำดีและทำชั่วไว้แต่ก่อน ภาพจะปรากฏอัตโนมัติเหมือนฉายภาพยนตร์ ปานวาดได้เดินเข้าไปยังหอกระจก เธอได้เห็นตัวเธอกำลังกระทำชั่วอยู่ในขณะนั้น เธอรู้สึกสำนึกผิดในเวลานั้น ปานวาดเห็นดวงวิญญาณผู้กระทำแต่ความดีเดินทางไปยังแดนสวรรค์ เธอจึงวิ่งตามไป ในระหว่างนั้น เธอก็ตกลงไปในหลุมหนึ่ง มันทำให้เธอตกใจและไม่คาดคิด เธอทำอะไรไม่ถูกแล้ว ขณะนั้นเธอได้ยินเสียงๆหนึ่งพูดว่า ปานวาด ได้ยินแม่ไหม แม่นะลูก ปานวาด คุณพระช่วยลูกฟื้นแล้ว แม่ดีใจที่สุด ร่างของปานวาดนอนอยู่บนโซฟา เธอค่อยๆลืมตามา คุณแม่ คุณพ่อ หนูดีใจจริงๆเลย หนูคิดว่าจะไม่เจอพ่อแม่อีกแล้ว หนูสำนึกผิดกับสิ่งหนูทำ หนูขอโทษนะค่ะ ปานวาดพูดขึ้น แม่ยกโทษให้ลูกเสมอ พ่อก็ด้วยนะลูก ปานวาดได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้พ่อกับแม่ฟัง ต่อมาเธอก็เปลี่ยนทัศนคติใหม่ ตั้งแต่เธอฟื้นมา หนังสือเล่มนั้น ที่เคยพาเธอข้ามมิติก็หายไปรวมทั้งร้านขายหนังสือด้วย แต่มันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว ปานวาดก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่และกระทำแต่สิ่งดีๆมาโดยตลอด เธอได้เลิกยาเสพติดและตอนนี้เธอก็ได้กลับมาเรียนหนังสือ ครอบครัวปานวาดมีความสุขมาก คุณเชื่อไหมว่า.....จะมีหนังสือเล่มนี้อยู่จริงๆ
โดย ด.ญ.ภัทรธรณ์ แสนพินิจ