ก้าวที่ผ่าน ยิ่งนาน ยิ่งเมื่อยล้า แสงแดดกล้า แผดเผา เข้าขุมขน เสียงของพ่อ ยังก้อง ในกมล อยู่ที่ตน หาใช่ ใครทำลาย ความเจ็บช้ำ ลวงหลอก และกลอกกลิ้ง หาใช่สิ่ง สำคัญ ควรมั่นหมาย ใจของตน นั่นแหละ ไม่สบาย จึงแพ้พ่าย คิดไม่ทัน ตันปัญญา ไม่มีใคร ทำร้าย ใจใครได้ อย่ากล่าวโทษ ผู้ใด สร้างปัญหา ดูตนเอง และพิเคราะห็์ ให้เหมาะตา เป็นเวรกรรม ทำมา พาถึงตัว บางครั้งคำ พูดที่ มีความลวง หาใช่หมาย ทำบ่วง แกล้งปั่นหัว เพราะเขาอาจ เกรงใจ และเกรงกลัว หรือเขาอาจ หวังดีทั่ว กลัวเกรงใจ เหมือนกับพ่อ ล่อหลอก บอกลูกรัก อย่าดื้อนัก เดี๋ยวคนบ้า จะหมั่นไส้ อย่าร้องไห้ เดี๋ยวตุ๊กแก กินตับไต อย่าออกไป เที่ยวเล่น ผีเห็นตัว คำบางคำ เปี่ยมไซร้ น้ำใจจริง อาจผิดพลาด บางสิ่ง อย่าหนักหัว มองให้ถึง เจตนา อย่าเมามัว ตัดดีชั่ว แค่คำพูด พิสูจน์คน คำบางคำ พูดพล่อย ด้อยสติ และดำริ แต่อธรรม ไม่นำผล จงพินิจ พิจารณา ในคำคน เพ้อเจ้อหรือ เปี่ยมล้น ด้วยน้ำใจ จะหนีไป แห่งใด ก็ใจเจ้า สุขและทุกข์ ยังเร่งเร้า ตามไปได้ เพราะรู้สึก นั้นเกิดขึ้น ที่จิตใจ อย่าผลักไส เพราะโทโส และโกรธา ไม่มีใคร รังแกใคร ให้เจ
เธอไปเที่ยวกันคงสนุกใช่มั้ย แต่จะรู้ไหมว่าคนทางนี้คิดถึงและห่วงหา คอยเฝ้ามองว่าเมื่อไรจะกลับมา เหงามากนะเวลาเธออยู่ห่างไกล เธอสบายดีไหมจากคนคนนึง เป็นห่วงเธอมากจะรู้ไหม คิดถึงเธอใจแทบขาด เลยส่งแมสเสจ3บาทแทนขาดใจ เธอจะฝันถึงฉันบ้างไหมละเธอ แต่ฉันอยู่ทางนี้ฝันถึงเธอทุกวัน เห็นหน้าเธอแต่ในฝันอยู่อย่างงี้ แล้วเธอจะคิดถึงฉันบ้างไหมนะเธอ เธอจะกลับมาเมื่อไรบอกกันด้วยนะ แล้วฉันจะรอ คนเดิมเดิม รอเธอที่เดิมเดิม แล้วตอนนี้จะรู้ไหมว่าฉันทำอะไรอยู่ ก็มัวแต่คอยแต่งกลอนหวานให้เธอก่อนขาดใจ ไงล้า .-_-
เรากำลังจะจบกันใช่ไหม ท่าทีเธอถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ จะเลิกกับฉันแล้วใช่ไหมคนดี ฉันจับท่าทีเธอได้จากสายตา อย่าหลบกันได้ไหม ขอร้องเถอะคนของใจอย่าหนีหน้า หากไม่รักกัน...จะเลิกร้างก็บอกมา รู้ไหม...วินาทีที่เธอจากลา...ฉันรับรู้ได้ว่าเธอเปลี่ยนไป หากจะจบก็ขอให้มาบอกกัน อย่าปล่อยให้คนเคยร่วมฝันต้องหวั่นไหว โทรหาก็ไม่รับสาย...แบบนี้หมายความว่ายังไง ขอเหตุผลได้ไหม...หรือมาบอกกันหน่อยก็ได้...ว่าเลิกกัน...
ความรักคือห้วงสมุทรอันก้วางขวาง รวมอารมณ์ต่างๆ ไว้หลากหลาย แต่หากจะเข้าไปไม่ง่ายดาย ค่าทดแทนมากมายต้องจ่ายไป หากรักคือดอกกุหลาบอาบสีสัน ตัวของฉันเปรียบใบร่วมในก้าน จะเติบโตเคียงคู่อยู่ชั่วกาล เศร้าหรือหวานอย่างใดไม่ปรารมภ์.....
หน้ากระดาษว่างเปล่า ไม่รู้จะเขียนเรื่องราวใดๆลงไปในนั้น นั่งจับปากกา..จมอยู่กับความเงียบงัน นอนซบกระดาษ..ไหวหวั่น..เหงาใจ มีเพียง..เสียงหยดน้ำสะท้อนดัง สะเทือนใจ..ตอกฝัง..ให้หวั่นไหว ไม่มีเรื่องราว..ไม่มีความทรงจำใดๆ ดำเนินชีวิตเรื่อยไปด้วยหัวใจเฉื่อยชา ลืมตามองลงบนพื้น พยายามฟื้นคืน..พยายามค้นหา หัวใจ..ไปอยู่ที่ใด..ในช่วงเวลา รู้เพียงความเจ็บปร่า..กรีดลงมาบาดข้างใน หลับไปเลยคงดีกว่า เผื่อว่าจินตนาการจะเติมความอ่อนไหว เดินทางไป..ส่งหัวใจเดินทางไกล ขอแค่ฝันให้สุขใจ..ไม่อยากตื่นมารับความเป็นจริง
@..กามเทพ เล่นตลก .@ วันที่เราเริ่มคุ้นคุณและฉัน แสงสดนั้นท้องฟ้าใส งามไล้สวย โลกดูงาม ทุกยามคุณหนุนเอออวย ช่างแสนสวยเหมือนสวรรค์บันดาลใจ แสงชีวิตสดชื่นขึ้นไล้สี ราวมณีเจิดฟ้านภาใส คือพูดจาคุ้นกันสัมพันธ์ไกล ล้วนอิ่มเอมเปรมในฤทัยเรา แล้วถึงวันรักเปลี่ยนเจียนจางสี แสงมณีก็พลันจางจากใจเขา อุปสรรครักนั้นเกินบรรเทา กำแพงแก้วตั้งรายเข้ามารอบตัว คือศรรักหักทิ้งยิ่งกว่าร้าว ด้วยปลาบแปลบแสบราวทุกข์ห่มหัว ไร้น้ำตารินรอนห่อนเมามัว ราวรื้อรั้วรักยั่วเยือกอุรา เกิดเมื่อใดไหนหนอรักหนักจารลึก ไร้สำนึกตรึกนานกาลผวา ไร้สังหรณ์ด้วยไม่มีซึ่งทีท่า แล้วรักมาแทรกซ้อนซ่อนอย่างใด..? คือชอกช้ำซ้ำจิตจนเสียขวัญ ไร้ถ้อยคำจะรำพัน...มันสั่นไหว ประมาทหน้าว่าไม่รัก..เป็นมิได้ แล้วกระไรใจเจ็บเหน็บกระนั้น เมื่อเอ่ยถึงความรักมักจะทุกข์ ไม่อิ่มสุขดั่งใครเขากล่าวขวัญ ขณะเดียวผู้อื่นเทียวมารักกัน ก็ร้องไห้รำพัน...ฉันไม่รัก นี่แหละฤทธิ์กามเทพเสพสนุก ใครเขาทุกข์รักผิดคิวอกลิ่วหัก เจ้าหัวร่อขบขันเขายิ่งนัก แล้วเจ้าจักรู้ซึ้งถึงรสร้าว แต่ละคนแต่ละใจช่างไหวหวั่น ดูเช่นฉันปลีกตัวเงียบอกร้อนผ่าว นึกถึงคุณทีไร น้ำตาพราว น้
บนถนนหนทางแห่งชีวิต โดนลิขิตขึ้นมาอย่าสับสน ให้เข้าแย่งแข่งสู้กับเล่ย์กล กับผู้คนในสังคมที่ต่างใจ มีบางครั้งเคว้งคว้าและสับสน โลกมืดมน ยังค้นหาทางฟ้าใส บนพรำพร่ำกับตัวเองสู้ต่อไป เพื่อเส้นชัยให้ก้าวอย่างมั่นคง กลางป่าหนามสังคมเมืองที่แข่งขัน แกร่งแย่งกัน ฉุดเยื้อ ดั่งประสงค์ คนไหนด้อย จะคอยย่ำให้ต่ำลง สังคมหงษ์ พวกฟูงกาไร้สิทธิบิน มองหาใครที่จริงใจในวันนี้ คงไม่มีธารน้ำใจให้ถวิล มีภาพหลอกปั่นล่อแต่งชีวิญ คำได้ยินคือวาจามาแต่งลวง
มาบอกอีกทำไมว่ายังห่วงหา ไปฟังอะไรผิดๆมา..ว่าฉันทำใจไม่ได้ โธ่เอ๊ย !! เดด็กๆ เรื่องเล็กจะตาย เห็นฉันฟูมฟายเมื่อไหร่กัน ไม่ต้องมาทำท่า สมเพช มีเมตตา เธอไปซะได้ ฉันก็ขออนุโมทนากรวดน้ำค่ำขัน สาธุ ! ไปดีเถอะนะ อย่างจองเวรกัน มดยังกัดเจ็บกว่านั้น...ฉันไม่เป็นไร ไม่ได้คร่ำควญถึงเธอเลยซักนิด ตั้งแต่เธอออกไปจากชีวิต..โลกยิ่งดูน่าอยู่สดใส ถ้ารู้งี้ เลิกซะตั้งนาน คงดีสบายอกสบายใจ _เพราะเจ็บไม่เท่าไร_ แต่ที่แค้นไม่หาย คือ .....เคยหลงผิดไปรักเธอ
๏ ยาวนานปานสุดฟ้า...........ฤดีดาย วันล่วงคืนผ่านมิวาย.............เจ็บร้าว วังเวงแว่วแผ่วคลาย................เหงาโศก ใจเฮย ลึกลึกยิ่งอะคร้าว..................ซ่านซึ้งใจหมอง ๚ ๏ เส้นทางผ่านทุกข์ห้วง.........ยาวไกล ฟันฝ่าอีกเพียงไร...................ผ่านพ้น โศกยิ่งกว่าโศกใด..................มาเปรียบ ชลเนตรหลั่งรินล้น..................โศกนี้ยังครอง ๚ ๏ ผ่านกาลใช่ผ่านพ้น..............จารจำ นานเนิ่นที่จิตทำ.......................อ่อนล้า ประหนึ่งเพิ่งผ่านคำ...................ย้ำโศก ตะวันอาบฉาบหทัยข้า................อาจสิ้นความหมอง ๚๛ 14.20 260807
เดินทางล่องลอยดุจสายลม ใช้ฟ้าห่มแทนผ้ากันหนาวสั่น ใช้ดินรองร่างกายคลายหนาวพลัน ใช้เมฆกั้นกันตัวจากโลกา เดินทางเรื่อยๆไร้จุดหมาย ตราบฟ้าปลายยังคงทอดตัวหา กั้นตัวเองจากอดีตวันเวลา อยู่กับเมฆฝนฟ้าสบายใจ ยังคงใช้ชีวิตเดินทางอยู่ แม้ไม่รู้ปลายทางคือที่ไหน มีความสุขกับชีวิตล่องลอยไป อยู่ที่ใด อยู่ที่ใด อยู่ที่ใด เดินทางไปกับหมอกจางสีขาวๆ ที่บางคราวหมอกก็หนาน่าสงสัย แต่นี่ฟ้านั่นผืนดินนู่นเมฆไง เดินต่อไปไม่มีอะไรที่น่ากลัว แล้วช่วงหนึ่งของการเดินทาง กลับพบความเลือนลางในมุมสลัว ภาพบางอย่างค่อยๆก่อตัว ปวด ฉันปวดหัว อะไรกัน จากภาพนิ่งค่อยๆหมุนช้าๆ เวลาค่อยๆย้อนกลับห้วงฝัน เรื่องราวค่อยๆถักทอเป็นร้อยพัน ชายผู้นั้น อยู่ตรงนั้น ฉันเห็นเขา โอ๊ย โอ๊ย ปวด ปวดหัว อีกแล้ว เสียงแผ่วๆลอยเข้ามาให้คิดเหงา เห็นเมฆขาวปกคลุมทางอีกแล้วเรา ไม่มีเขา ชายผู้นั้น ภาพฝันใด ยังคงเดินทางเรื่อยๆไปต่อ ไม่คิดท้อไม่มีจุดหมายไหน นอนห่มฟ้าตากดินสุขเรื่อยไป ไม่ต้องรับรู้อะไรให้ทุกข์ทน ในห้องแคบผนังสีจางๆ มีร่างบางดูเลื่อนลอยหมองหม่น เธอยิ้มมีความสุขอยู่เพียงตน ไม่คิดสนไม่แยแสใครต่อใคร ไม่มีฟ้ากว้างโอบ
ไม่เคยรักใคร แบบไม่ใช้หัวใจรัก.. และไม่เคยแน่นหนักในอะไรเท่ากับรักที่มอบให้ อุโมงค์ที่มืดมิด ยังกล้าจะเดินชีวิตเสี่ยงเข้าไป หวังจะพบสมบัติที่ซ่อนไว้คือหัวใจที่รักกัน ไหน ๆ ก็ ยึดมั่น ว่าจะฟันฝ่า จึงทนทุกหยดน้ำตาพี่จะคว้าสมบัติชิ้นนั้น ได้โปรดอย่าก่อไฟ..แล้วแกล้งเป่าให้ดับไปพร้อม ๆ กัน อย่าทำร้ายฉันด้วยการทรมานที่หัวใจ ถ้าไม่รัก..ก็อย่า มาทำเป็น ห่วงหา เธอรู้บ้างไหมว่ามันเจ็บล้ามากเท่าไหร่ ให้เธอได้ทั้งหมดที่มี...ก็เท่าที่จะสามารถให้ไป แต่เธอกลับใช้คำรักเพื่อคร่าใจ ใช้มันอย่างที่คนมักง่ายชอบทำ
ที่ตรงนี้ เคยเป็นที่ จุดจุดจุด ทุกวันพุธ เราต้องนัด มาตีแบตฯ นัดอีกที ก็คงเป็น วันนั้นแหละ เพราะชอบแวะ ไปเซเว่น เป็นประจำ พอวันจันทร์ ทีไร เป็นต้องหยุด เพราะวันพุธ ไปมาแล้ว ที่นัดมันส์ เจออีกที วันศุกร์ ก็แล้วกัน เพราะเป็นวัน ที่สุดแสน จะสุขเอย เป็นไงค่ะไพเราะไหมครั้งที่2เองนะเนี้ยจาบอกทำไมไม่มีใครสนใจอยู่แล้วนิ อิอิ
ผมรู้ว่าหลายอย่างในวันนี้ของเราเริ่มเปลี่ยนไป คุณคงสังเกตุและสัมผัสมันได้เช่นกัน ผมขอโทษ . . . . คำบอกรักที่เคยพรั่งพรูในวันนั้น ยังคงดังก้องอยู่ในทุกความรู้สึกผมตราบจนวันนี้ คุณยังคงเป็นเงาในสายตาผม...เสมอ แม้วันนี้เราจะยังคงไกลกัน มากจนมือผมไม่สามารถคว้ามันได้ถึงอีกแล้ว แต่คุณรู้ไหม...คุณจะยังอยู่กับผม ทุกที...และทุกความทรงจำ . . . . . หน้าต่างดีมุมกว้าง อากาศเย็นจัดที่อุณหภูมิ 20 องศา ที่ๆเราเคยมองฟ้าผืนเดียวกัน คงมีดาวซักดวงที่สายตาเราสัมผัสได้พร้อมๆกัน เสียงรถจักร ระยะทาง และช่วงเวลา วันนั้น...จะยังอยู่กับผมเสมอ...อย่างดี ผมสัญญา . . . . ที่วันนี้ ที่เธอเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เธอเมื่อวาน และจะยังรักไปอีกแสนนาน ไม่มีวันเปลี่ยน
...ไม่รู้ว่าเราคบกันแบบไหน เพราะเธอไม่เคยให้ความมั่นใจอะไรสักอย่าง มองเห็นเพียงแค่...สายใยบาง-บาง ที่เก็บเกี่ยวเอาความอ้างว้าง...ไว้เต็มใจ เราจะเป็นอย่างนี้ต่อไปหรือ นี่คือ...คำถามที่ทำให้ฉันหวั่นไหว เฝ้าถามตัวเองอยู่ซ้ำ-ซ้ำ...เรื่อยไป ว่า...ฉันหรือเธอที่ไม่มั่นใจ...ในตัวเอง ไม่ได้ต้องการคาดคั้นเอาคำตอบ เพราะฉันเองก็ไม่ชอบ...อะไรที่มันรีบเร่ง แค่อยากอยู่กับความมั่นใจเท่านั้นเอง ไม่ใช่คบกันแบบเซ็ง-เซ็ง ...........หรือ......ผ่านไป......วัน-วัน..........
ไกลกันขนาดนี้ คนดีจะรู้บ้างไหมว่าเหงา รู้ไหมว่าฉันแอบร้องไห้กับดาว ระบายความเศร้าด้วยน้ำตา ขอโทษนะคนดี ที่ฉันไม่เข้มแข็งพอรอวันเธอกลับมาหา หัวใจขี้แย ... อ่อนแอเกินเยียวยา ขอโทษที่ต้องกล่าวคำอำลากับเธอ ฉันผิดเอง ... ฉันรู้ แต่อย่างไรหัวใจก็ยังรักเธอเสมอ ถ้าทำบุญร่วมกันมา โอกาสหน้าคงกลับมาเจอ ความทรงจำดีดีเรื่องเธอ จะเก็บไว้ในใจตลอดกาล
ในวันหนึ่งวันนี้ที่ได้พบ เธอช่วยลบรอยร้าวให้เลือนหาย ที่เคยอยู่ลำพังอย่างเดียวดาย ค่อยคลี่คลายเป็นไปในทางดี ยามท้อใจมีเธอคอยโทรหา ซับน้ำตาไม่ห่างไม่คิดหนี เธอคือคนของใจที่ฉันมี พร้อมเต็มที่เคียงข้างและหยัดยืน ยามทุกข์ท้ออ่อนแอและหวั่นไหว ยามร้องไห้เสียใจไม่เคยฝืน ร้องออกมาให้หมดทั้งวันคืน เธอหยิบยื่นห่วงหาและห่วงใย ยามที่เหงาเศร้าใจในดวงจิต เธอใกล้ชิดช่วยคลายให้ผ่องใส โดยส่งยิ้มอันอบอุ่นและละไม ช่วยให้ใจแช่มชื่นขึ้นเป็นกอง
เส้นขนาน.... หวาน...เกิ๊น แซมจะรับไหวไม๊เนี่ยะ... โอ๊ะ....แซมขออนุญาต มาแบ่งปันอีกนะคะ.... หกคะม่ำคว่ำหงายหลายตลบ วาดแล้วลบจบแล้วเริ่มเติมแล้วตัด บนตารางโลกหมุนวุ่นเกินวัด ขีดบรรทัดยาวนานขนานใจ อารมณ์ล่มจมเปลี่ยวอยู่เดี่ยวด้าน จนคลุกคลานรวยรินเกินบินไหว ในทำนองพลิ้วสยบที่จบไป คีตะใหม่เริ่มบรรเลงเป็นเพลงทวน ตะกายฝันยันตนจนกล้าแกร่ง แม้สิ้นแรงแสงใจก่นไห้หวน ขับลำนำกล่อมชีวิตเฝ้าคิดครวญ ซับแก้มนวลลบน้ำตาที่อาลัย เส้นขนานแนวคู่อยู่เคียงข้าง ยามอ้างว้างมีกันไม่หวั่นไหว ทุกสายตายังอุ่นด้วยกรุ่นไอ แม้เป็นได้แค่ขนานก็หวานเกิน ขอบคุณภาพจาก Internet ค่ะ