เมื่อหมดรัก อย่าหลอก ให้ชอกช้ำ อย่ามาทำ เป็นรัก แล้วผลักไส อย่าริคิด มาเหน็บ ทำเจ็บใจ อย่าทิ้งไว้ ใจดำ ขอนำคืน เธอรักฉัน บางครั้ง ดั่งของเล่น มองฉันเป็น เช่นลา โถอย่าฝืน ฉันเองก็ งี่เง่า เฝ้ากล้ำกลืน กับรักที่ เธอยื่น ให้ชื่นชม เพิ่งรู้แจ้ง รักนั้น ในวันนี้ ทุกวจี เอ่ยมา พาขื่นขม ลวงหลอกรัก หักใจ ให้ระบม เสพสุขสม สะใจ ก็ไกลลา ขอส่งคืน ใจหม่น ใครคนนั้น ที่บอกกัน ฉันรัก ฉันห่วงหา สุดท้ายหลอก ให้ช้ำ มีน้ำตา คงมิกล้า รักต่อ ขอพักใจ.
เพียงประโยคเดียวเท่านั้นที่อยากจะยืนยัน คือฉันยัง คิดถึง เธอเสมอ แม้ที่ผ่านมาฉันอาจไม่ใช่คนที่ดีเลิศเลอ แถมยังทำให้เธอเป็นกังวลตลอดมา แต่ก็อยากให้รับรู้เอาไว้นะ...คนดี ว่าในสายตาของคนๆนี้....เธอเป็นสิ่งที่มีค่า และในความรู้สึก..เธอยังเป็นคนสำคัญเสมอมา แม้บางเวลา..ที่เหินห่างกันไป ไม่ได้โทร.หา..ก็ใช่ว่าจะไม่คิดถึง ไม่มีคำซึ้งๆ..ก็ใช่จะหลงลืมนะ..รู้ไหม เพียงแต่วันนี้เราอยู่ห่างกัน..ไกลแสนไกล ขอให้เธอมั่นใจ..ว่าความรักที่มีให้ไม่เคยจะน้อยลง
ไม่ว่าจะผ่านไปนานซักเท่าไหร่ ... ยังทำใจ ลืมเค้าไม่ได้อยู่ดี ... ความผูกพันที่เราเคยมี ... มันมากล้น จนเกินไป ... ถึงมันจะผ่านมานานแล้ว ... และฉันเองก้อไม่เลือกจะคว้าเธอไว้... ฉันนี่แหละที่ปล่อยเธอผ่านไป .. สุดท้ายฉันไม่เหลืออะไรเลย... ถ้าวันนั้นใจอ่อนซักหน่อย ... ฉันคงไม่ปล่อยเธอไปเฉยเฉย ... คงไม่ต้องเก็บความรู้สึกดี ... เหมือนเคย ที่เราละเลยและล้นออกมาจากใจ ... เสียไปแล้วเรียกคืนก้อไม่ได้ ... คงต้องช้ำใจอยู่อย่างนี้ ... สมหน้ากับความอวดดี ... ที่คิดว่าไม่มีเธอคงไม่เป็นไร ... เจ็บมั๊ยล่ะกับทุกวันนี้ ... กับทุกวินาทีที่ผ่านไป... กับความรู้สึกที่ลืมเค้าไม่ได้ .. แม้ตราบวันสิ้นใจก้อคงไม่ลืม...
ชั้นคนนี้จะขออยู่คู่กับเธอ จะปรนเปรอเธอด้วยหัวใจรัก ด้วยกายพักรักดีมิเสื่อมหาย ใจจะอยู่คู่เธอจนวันตาย กายสลายคงเหลือไว้..ความทรงจำ
คำซึ้งซึ้ง ยังตราตรึง ในใจฉัน ยังแอบฝัน อยู่ทุกวัน มิผันหาย คำคำนั้น ยังเสนาะ อยู่ข้างกาย มิวางวาย ในคำนั้น ฉันรักเธอ จากวันคืน ผันแปรเปลี่ยน เป็นเดือนแล้ว ยังเจื่อแจ้ว แววสำเนียง อยู่เสมอ ถึงตอนนี้ ไม่มีแม้ แต่ตัวเธอ ยังละเมอ ถึงเธออยู่ ทุกค่ำคืน
เบื่อโลกโศกเศร้าในหนาวนึก ลึกลึกมวลมนุษย์มากปัญหา หลงวนบนบ่วงกรรมพันธนา ปรารถนาเพียงสนองครรลองใจ ไร้รักแท้เพียงหมายแน่สิ่งใดเล่า ให้หลงเฝ้าละเมอเพ้อหวามไหว รักนิรันดร์รักนานเนารักตลอดไป รักยิ่งใหญ่สร้างนิยามงามเพียงคำ เพราะทุกผู้ล้วนตั้งอยู่บนความทุกข์ ที่รานรุกจากมายาทุกเช้าค่ำ ใช้หนี้เก่าหนี้ใหม่หนี้เพรงกรรม ที่เคยทำวนย้อนให้ร้อนรน จึ่งเหน็บหนาวดายเดียวยามนึกนึก แสนรู้สึกเหนือโลกย์โศกสับสน ยิ่งนับวันยิ่งเรียนรู้กิเลสคน สร้างกุศลหนีให้พ้นวนวัฏฏรู้ตัดใจ รู้ดับไฟ....! ........................................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song389.html ไฟรัก ความ รัก เปรียบเหมือนดั่งไฟ ถ้าแม้ว่าใคร เผลอเป็นไหม้ทุกที ร้อน รน ทนเศร้าฤดี โอ้ไฟรักนี้ เผาชีวีระทม นี่ หรือ นี่หรือความรัก พอฉันประจักษ์ หนักจนร้อนชีวี รัก เอย ไม่เคยปราณี ช้ำจนเหลือที่ แทบชีวีวาย นี่ หรือ นี่หรือความรัก พอฉันประจักษ์ แบกความรักเจียนตาย ผลาญ ใจ แทบไหม้มลาย รักเดียวมาหน่าย พ่ายเกมชีวี ความ รัก เปรียบเหมือนดั่งไฟ ถ้าแม้ว่าใคร เผลอเป็นไหม้ทุกที ร้อน รน ทนเศร้าฤดี โอ้ไฟรักนี้ เผาชีวีระทม นี่ หรือ นี่หรือคว
หยุดได้ไหมเพื่อไทยพัฒนา หยุดสรรหาเรื่องราวเอามาอ้าง หยุดเสียทีแบ่งฝ่ายหรือแยกทาง หยุดการจ้างผู้คนมาชุมนุม ยั้งสติไตร่ตรองมองตนเอง ยั้งอวดเบ่งวางกล้ามย่างสามขุม ยั้งตนเองให้ได้...ใจร้อนรุ่ม ยั้งการทุ่มเพื่อคนเพียงหนึ่งคน รั้งความคิดจิตตกพกความแค้น รั้งความแน่นในอกด้วยฝึกฝน รั้งสติด้วยปัญญาอย่างแยบยล รั้งหวังผลด้วยเหตุผลแห่งความจริง รอได้ไหมเพื่อไทยพ้นวิกฤต รอสักนิดให้โอกาสรัฐทุกสิ่ง รอเวลาเหมาะสมคนชมยิ่ง รอช่วงชิงอย่างประชาธิปไตย รอได้ไหมเพื่อไทยได้รุ่งเรือง รั้งความเคืองขุ่นข้องที่หมองไหม้ ยั้งความคิดทำร้ายทำลายไทย หยุดได้ไหมเพื่อไทยพัฒนา ฯ
หากว่าฉันเป็นแม่มด ฉันจะร่ายเวทมนตร์คาถา โอมเพี้ยง....ขอให้เธอหันมามองตา ขอให้เธอรักฉันยิ่งกว่าใคร ๆ แต่ฉันเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา จึงไม่สามารถร่ายเวทมนตร์คาถาได้ เธอจึงมองฉันเป็นแค่เพียงใคร ๆ ที่ไม่พิเศษอะไรกว่าทุกคน
สัญชาติงูเห่าเลื้อย อาจิณ ซุกซ่อนในโพรงดิน ต่ำใต้ เอาพิษพ่นขบกิน กลืนเหยื่อ ยามค่ำแลจึงได้ ใส่ท้องโหยหิว มีพังพอนคล่องพลิ้ว โดดฟัด งูเห่าเห็นชะงัด ขู่ฟู้ พังพอนเผ่นโจนกัด งูพ่น พิษนา สองบ่ยอมสองสู้ ต่างแค้นเคืองกัน หลวงตาเกษมท่านสิ้น วัฏฏสาร กิจมุ่งพระนิพพาน ผ่านแล้ว เห็นสองต่างปองผลาญ กินฆ่า กันนา จึงเอ่ยวาจาแจ้ว อยู่ยั้งใครมัน สองสัตว์ฟังต่างย้าย หนีกัน สองเชื่อองค์อรหันต์ กล่าวถ้อย เกษมสุขต่อชีวัน สองฝ่าย ธรรมส่องสองคลาคล้อย ห่างเว้นจากเวร เป็นมนุษย์สุดเก่งกล้า จองเวร หมายฆ่ากันเพราะเหน ต่างนั้น ชีวันว่ายเวียนเจน ติดบ่วง บาปนา หยุดก่อเวรจึงดั้น สู่ด้าวโสดา
อยากถาม ว่าเหนื่อยไหม และยังไหว อยู่หรือเปล่า ชีวิต ที่ทอดยาว ขาที่ก้าว ย่อมอ่อนล้า ส่งหนึ่ง กำลังใจ จากคนไกล ข้ามขอบฟ้า ด้วยรัก และศรัทธา แม้เหนื่อยล้า อย่าท้อใจ ก้าวมั่น อย่าสั่นคลอน แม้นทุกข์ร้อน อย่าอ่อนไหว ทุกข์หนัก สักเพียงใด ขอเพียงใจ ไม่ยอมแพ้ ส่งหนึ่ง กำลังใจ จากหัวใจ ที่แน่วแน่ รักมั่น ไม่ผันแปร เป็นมิตรแท้....ร่วมทางเดิน
. . . . . . เจ้าลืมตาดูโลก เหมือนโศกเศร้า เผินผ่านรูป แสง เงา ไปลับหาย เพ้อชีวิตล้อเล่น ความเป็นตาย ล่วงพ้นความเปล่าดาย ใจทุกผู้ ล่วงแววตาอ่อนไหว กระไรนั่น ลึกลึกหวั่นหนาวร้อน ซุกซ่อนอยู่ ค้นหัวใจอ้างว้าง บางอณู พบแต่หมองหม่นดู เหมือนปวดร้าว พิสุทธิ์ใดไหววาด ปรารถนา โลกเดียงสาซ่อนเจ็บ อันเหน็บหนาว เฝ้ารอการปลดเปลื้อง บางเรื่องราว ซับน้ำตาที่ฝากดาว ดวงนั้นไว้ นานแล้ว นิทานก่อนนอน แอบความรักซุกหมอน อิงแก้มใส ปลอกหมอนเปื้อนคราบน้ำตา ร่ำอาลัย ยามโลกสิ้นอุ่นไอ จะแอบอิง กับความรู้สึกดีดี วูบสุดท้าย ก่อนละเลือนลับหาย ไปทุกสิ่ง ที่ปรากฏไม่งดงาม เลยความจริง ทุกลมใจช่วงชิง ราคาแพง เด็กน้อยเอย เดียงสาเจ้า สร้างคำถามรบเร้า โลกแสวง คำตอบจากชะตากรรม จำแลง ผลัดเพี้ยนความเปลี่ยนแปลง กาลเวลา ดอกไม้พลาสติก พลิกกลีบแย้ม รับน้ำค้างคืนแรม อย่างโหยหา เสียงเด็กน้อยคอยปลุก ตุ๊กตา ใต้เวิ้งฝันชีวา อันเดียวดาย …………………………… โดยคำ ลานเทวา
เวลาที่ผ่าน มา 4 ปี เธอเคยมีฉันคนนี้ในใจบางไหม รึ แค่เหงาหรือแค่ลองใจ รึ คบไว้ให้เพื่อรอใครบางคน ปีที่ 1 เริ่มรู้จัก ปีที่ 2 เริ่มทายทัก ปีที่ 3 เริ่มแน่นหนัก ปีที่ 4 เริ่มหยุดพัก ทบทวนความเป็น เรา ฉันควรจบความรู้สึกไว้ตรงนี้ ก่อนที่จะผุพังและหมดแรงอ่อนล้า เพราะ 4 ปีไม่เคยได้ความรักกลับมา มีแต่เศษเสี้ยวของความห่วงหาในบางคราว จากเธอ..
พึ่งหัดแต่งโคลง ครั้งแรก อย่าว่ากันครับ แบบว่า ภาษาสำนวน คงยังไม่ได้ ขอบคุณ น้องมี่ ที่ช่วยแนะ คำตาย ก ด บ และ สระ อะ อิ อุ อึ เสียงเอก ถ้างั้น คงลำบากมะน้อย ครับ ช่วยให้เข้าใจขึ้นมาระดับหนึ่ง และยังช่วยวิจารณ์คำผิด ทุกๆ บท 1 มองดาวเดือนเคลื่อนคล้อย คอยใคร ดาวอยู่สูงปานใด ฟากฟ้า เราชนม์ต่ำต้อยไป เกินเอ่ย แม้รักสุดแหล่งหล้า ยากคว้ามาครอง 2 เพราะรักเธอเท่าฟ้า แรมปี จนหมดทั้งวจี เอ่ยอ้าง รักเกินเปรียบคนดี รักยิ่ง แท้นา ตั้งแต่เห็นรูปสล้าง พร่ำเพ้อนานวัน 3 หากบุญปางก่อนสร้าง อำนวย ย่อมอยู่คู่คนสวย ชาตินี้ หายใจออกรินรวย ยังสุข ใจนา หวังเทพบันดาลชี้ ขีดเส้นทางใจ 4 เพ่งพิศดาวส่องหล้า แสนครวญ แอบเหม่อจนแปรปรวน กระนั้น อยากอยู่แนบข้างนวล เคียงชิด น้องนา เอื้อนเอ่ยถ้อยอดกลั้น อัดอั้นตันทรวง 5 เหม่อดวงเดือนเคลื่อนคล้อย ลอยไหล สูงสุ
เธอกับฉัน รู้จักกัน นั้นเมื่อไหร่? คิดหวนไป ดูสับสน อลหม่าน ไม่อาจจำ ยิ่งเพ่งคิด จิตลนลาน มองเหมือนนาน ผ่านวันเดือน เคลื่อนคล้อยไป .................( ๑ ) . เธอกับฉัน รู้จักกัน กี่วันแล้ว? เริ่มข้ามแถว แล้วทักทาย กรายมาใกล้ ขอเธอช่วย เธอก็ทำ ซ้ำตั้งใจ มอบส่งให้ ทุกทุกอย่าง ดั่งใจเตือน ................( ๒ ) เธอกับฉัน เริ่มสนิท เริ่มชิดเชื้อ ดูไม่เบื่อ จะทักกัน มันเกินเพื่อน ฉันลองใจ เธอทุกวัน ยามยลเยือน นับกี่เดือน ......วันผ่านไป.........ได้พัฒนา............( ๓ ). จากเครือข่าย.....สากล ....วนมือถือ ยินเย้ายื้อ.......สนุกหัวใจ.....ให้เริงร่า มีตัวตน.........ออกจากจอ.........ล่อจินตนา เพียงรู้ว่า........เธอสนใจ.........ให้ติดตาม............( ๔ ) เสียงใสใส.....ใคร่ทักทาย.....สายจากเช้า หัวเราะเย้า...บอกห่วงหา ในคำถาม คำทักทาย...........บ่งบอกคล้าย .....ไม่ลุกลาม ไม่ต้องปราม.....ด้วยตั้งใจ.....ให้เกียรติกัน..............