4 ตุลาคม 2549 15:21 น.
ใบคาน
เธอทิ้งฉันไปใช่ไหม
แล้วไปบอกใครต่อใครว่าฉันทิ้ง
ใจเธอก็ทราบดีเรื่องที่จริง
ไม่เป็นไร เธอเป็นผู้หญิง ฉันยอม
แต่เธอควงเขา อันนี้....อธิบายมา
ถ้าฉันทิ้งฉันว่า เธอคงยังไม่พร้อม
แต่นี้ควงออกหน้า ทั้งที่เพิ่งรอมชอม
อย่าได้เป็นขี้ใหม่หมาหอมก็แล้วกัน
ไม่เป็นไรหรอกถ้าเราเข้ากันไม่ได้
แต่นานหน่อยได้ไหม...ก่อนจะควงคนนั้น
มันขายหน้าเหมือนไร้น้ำยาและรู้ไม่ทัน
ทิ้งก็ทิ้งแต่อย่าให้ฉันต้องเป็นคนโง่เลย
ตกลงความเป็นเรา....ไม่หลงเหลือ
ไม่น่าเชื่อรักกันได้หายกันเฉย
ไม่เป็นไรถึงฉันจะไม่เคย
แต่สุดท้ายต้องลงเอย....กับการเวลา
ลงเอย บ่าย4-10-06
2 ตุลาคม 2549 10:29 น.
ใบคาน
เธอ...ถูกใจแต่ทำไมมาทีหลัง
เธอ...มีพลังแต่อ่อนไหว
เธอ...มีไฟและลงตัว
ฉัน....มีเขาและรักเธอ
ฉัน....รู้สึกเสมอว่าฉันมั่ว
ฉัน....ยิ่งผูกพันธ์ยิ่งหวั่นกลัว
ฉัน....ไม่อยากให้ใครชั่ว เหมือนฉันเป็น
เธอและฉันรักกันด้วยใจ
แต่ความรับผิดชอบยิ่งใหญ่กว่าที่เห็น
รักเธอแต่ทิ้งเขาไม่ได้....สองประเด็น
ไม่อยากให้ใครลำเค็ญ....เพราะฉันทำ
ถึงเวลาที่ต้องเลือกและต้องเจ็บ
ถึงเวลาที่ต้องเก็บความเจ็บช้ำ
ถึงเวลา ไถ่บาป และรับกรรม
แต่หลักธรรมย้ำให้....เดินสายกลาง
เมื่อเช้า2 ต.ค. 49
29 กันยายน 2549 18:35 น.
ใบคาน
เบื่อเบื่ออยากอยาก
คิดมากปวดหัว
งาน เงินไม่ลงตัว
เธอก็มัว เอาแต่ใจ
ไปไหมไปดูหนัง
ไปนั่งให้เมื่อยหาย
ไปไหมไปป่าไพร
ไปทิ้งใจไว้ดงดอน
ไปไหมไปเลกว้าง
ไปปล่อยวางอย่างพักผ่อน
ไปตะโกนโยนตะกอน
ให้ใจร้อน มันเย็นเย็น
ปล่อยสนิทปิดมือถือ
ให้โลกนิ่งอยู่ในมือ ที่อยากเห็น
เป็นตัวเองอย่างที่เป็น
ไม่ต้องเล่น....ละครกัน
ไม่ต้องแย่งกันทุกเรื่อง
ไม่ต้องเปลืองสมองปั่น
พักร่างกายใต้แสงจันทร์
ทิ้งเรือ่งราวเหล่านั้น....ไม่พาไป
27 กันยายน 2549 16:18 น.
ใบคาน
ปาดเหงื่ออีกครั้ง หลังเงยหน้า
แล้วก้มลงอีกครา ดำนาต่อ
ก่อนหันมองลูกชาย ที่ให้รอ
บนคันนา หน้างอ เพราะหงอดิน
อีกสองกำดำนา เสร็จแล้วลูก
โถบุญปลูก ใจเย็น เป็นเหยื่อริ้น
ทนหน่อยน่ะลูกรัก ได้พักกิน
จะพาเจ้าออกจากถิ่น ที่เจ้ากลัว
ชีวิตแม่ เกิดกับนา อยู่กับนา
เห็นคุณค่า ของข้าว เท่าเหนือหัว
คุ้นกลิ่นดิน ชินเลน เล่นใบบัว
ตาเจ้ากลับ มืดมัว ไม่เห็นนา
โถลูกแม่คอนกรีต มันรีดเจ้า
จนลืมเงารากเง้าดั่งเจ้าว่า
งานนาแม่เมื่อใด ไม่ค้างคา
แม่จะไปก่นด่า...คอนกรีตมัน!
เมื่อมองนา ปลาย ก.ย. 49
27 กันยายน 2549 11:54 น.
ใบคาน
มีความรู้สึกมากมาย อยากให้เห็น
จึงแค่นเค้นอักษรเป็นกลอนเสริม
ไม่ค่อยเก่งเรื่องภาษามาต่อเติม
แต่ก็เพิ่มความจริงใจให้เธอจำ
อยากบอกความรู้สึกที่นึกไว้
พอเจอหน้าตาลาย อายเกินพร่ำ
ไม่มีเลยเอ่ยออกบอกสักคำ
ได้แต่นั่งทำใจ... เธอไปแล้ว
ยังหวาดหวั่นว่าใครคาบไปกก
ไม่โกหก นอนไม่หลับ ครับน้องแก้ว
เฉยไม่ได้พูดไม่ดี เลยมีแวว
จึงต้องเขียนกลอนแซว ไปตามทรวง
ภาษาไม่ภาษีเท่าที่เห็น
บอกใบ้อย่างจำเป็น เช่นห่วงหวง
ภาษาใจ ชัดเจน เน้นหนักหน่วง
ภาษากลวงแต่ใจเต็มใบจัง
ร่มไม้บัง 27กันยา