8 มกราคม 2547 19:54 น.
โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
คิดครวญจะทวนแบบ
ให้อวลแอบประดิษฐ์ตาม
คิดคร่ำประจำยาม
ก็บ่ตก บ่ตามใจ
อึดอัดให้ขัดข้อง
กมลหมองลบองนัย
ระลึกล้วน ละร่ำไร
กว่าจะไข จะคายฉันท์
เห็นสดายุประสิทธิ์
ธ ลิลิตคิดเสกสรรค์
ก้าวตาม บ่ทาบทัน
จิต โศกวิโยคใจ
หวังอย่าระคางคน
หลีกกมลไปหนไกล
สถิตย์เพียรเขียนขีดไซร้
จะเรียนตาม จะทำตาม
8 มกราคม 2547 13:51 น.
โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
จักมุ่งหมายพินิจปองพิริยะเพียร
จะวนจะว่ายบ่ หน่ายจะเขียน...........คำฉันท์
อ้างองก์อิงบุราณ คติขาน
ประกาศประลองลบองผสาน...........ณ บรรพ์
เรียงรจน์ร้อยมธุพากย์ รสประพันธ์
พิสิทธิ์พิเศกเอนกอนันต์................กวี
แช่มชื่นไซร้ ณ หทัย กลทวี
สดายุวอนสะท้อนไมตรี...................วิไล
ข้าฯขอนิมนต์วิมลรัตนไกร
พระธรรมประสิทธิ์มหิทธิไตร..........ประณาม
โปรดปกป้องอุปัทวะ นิราศ์พละนิยาม
เจริญวรรณะสุขะก็งาม..................เสมอเทอญ
8 มกราคม 2547 10:48 น.
โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
โครมครันคะครึกพละคำราม
ตละยามอกหวามไหว
โชติช่วงสว่างภวประลัย
ปฐผืนสะครืนครั่น
เดชวายุปัดบ่ละ พิโรธ
พฤกษะโคตรสยายสั่น
อวลโอย ก็โดยพละวสันต์
ดุจ ขาดออกเป็นสาย
ลมเพียงกระโชกอุทกล้าง
ศศิลางละเลือนหาย
เมฆคลุมดุจดั่งทรุอบาย
ฤ สลายสิ้นสังขาร
7 มกราคม 2547 20:10 น.
โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
ร้อนแดด สิแผดวน จะครวญ
ระดะรวนระคางกาย
ผิวเรียมจะเกรียม พละ จะวายต์
ก็นุช ขาดสวาทเลือน
ผิวขลุ่ยระริกสรรพสำเนียง
จรัสเสียงเพียงเสมือน
พรายพัดระบัดนุสติเตือน
กาล เยือนจึงแปรใจ
รอนรอน พยับทิวะผงาด
สุริย์สาดสว่างไพร
เหมื่อมอง ณ ทุ่ง ตละไสว
อติตาให้ปรารมย์
7 มกราคม 2547 10:38 น.
โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
ครูเฒ่าเจ้าปัญญา
ศิษยาน้อมด้วยใจ
ประดับเกียรติประดิษฐ์ไว้
ค่าคำกลอนไว้สอนคน
เถลิงเกียรติเถกิงหล้า
ปรมาชนาชน
ยอกย้อน ธ กลอนกล
ผิว์จะแปรจะเปลี่ยนผัน
ดุจสูรย์สาดแสงกล้า
สว่างหล้าทิวานั่น
จรัสแจ่มแต้มอรัญ
ณ ไพรพร่างสว่างตา
เป็นเปลววะวับแสง
ส่องสำแดง แจ้งกังขา
สถิตย์เทิศประเสริฐค่า
อวิชชานิราศ์ไป
ครูเฒ่าเจ้ากลอนกานท์
นิรวาณ ณ ทุกข์ใด
อุปัทว์กรายมลายไกล
ระคายสิ้น เพียงยินดี