27 มีนาคม 2554 23:38 น.
โอ้ละหนอ
ซัมเมอร์นี้แทนที่จะไปเที่ยว
ลูกคนเดียวของฉันขยันยิ่ง
ลงซัมเมอร์นะแม่จ๋าอย่าประวิง
ไม่หยุดนิ่งลงไปหลายวิชา
พรุ่งนี้จะเปิดเรียนวันซัมเมอร์
ไม่เผลอเรอเตรียมตัวถ้วนทั่วหน้า
ขยันฝึกตรึกตรองท่องตำรา
อีกกีฬาก็ขยันหมั่นฟิตซ้อม
ทั้งดนตรีกีตาร์หามาดีด
เรียนสังคีตเพลงใหม่เก่าเจ้าถนอม
ฝึกฝนไว้อนาคตเจ้าอดออม
สาวสาวตอมหนุ่มน้อยกลอยใจแม่
เป็นขวัญใจของเพื่อนเพื่อนไม่เลื่อนลอย
เจ้าหนุ่มน้อยเป็นเด็กดีที่แน่วแน่
แม่นี้แสนภูมิใจเจ้าดวงแด
ลูกของแม่นี้คนดีที่หนึ่งเลย
ซัมเมอร์นี้ขอให้มีความสุขนะ
ลูกนี้จะทั้งเรียนเล่นเช่นเฉลย
ก็ขอให้สนุกสนานเช่นอย่างเคย
ให้ทรามเชยสุขสมหวังซัมเมอร์นี้............
16 มีนาคม 2554 23:48 น.
โอ้ละหนอ
ฝนพรำพรำพร่างพรายพรูพราวฟ้า
ฝนหลั่งลาล้างโลกที่โศกเศร้า
ฝนหลงฟ้ามาค่อนคืนดึกดื่นเอา
ฝนหลงฟ้ามาจนเช้าหนาวเยือกเย็น
จนค่อนคืนดึกดื่นในคืนนี้
ฝนยังมีหลงฤดูอยู่ให้เห็น
ฝนจ๋าฝนรู้ไหมคนเขาลำเค็ญ
ตั้งแต่เย็นเช้าสายบ่ายวันวาน
พายุพัดโหมกระหน่ำฝนซ้ำซัด
ทุกข์ยากหนักนักหนาน่าสงสาร
ฝนจ๋าฝนวอนเถิดหนาอย่ารำคาญ
โปรดบันดาลหยุดเถิดหนาข้าขอวอน
เพียงเท่านี้มนุษย์โลกก็โศกเศร้า
ทุกข์รุมเร้าหลายประเด็นเป็นอุทธาหรณ์
ธรรมชาติถูกทำลายหลายขั้นตอน
จึงยอกย้อนมาลงทัณฑ์ผู้ทำลาย
รู้สำนึกเมื่อสายไปเสียแล้ว
คงไม่แคล้วถูกลงทัณฑ์กันมากหลาย
จะมีอีกกี่ลงโทษพิโรธคลาย
คงล้มหายตายจากอีกมากครัน
ฝนพรำพรำพร่างพรายพรูพราวฟ้า
หลั่งลงมาชะโลมโลกที่โศกศัลย์
น้ำตาฟ้าคงร้องไห้หลายคืนวัน
ประโลมโลกที่โศกศัลย์วันโลกราน
16 มีนาคม 2554 14:00 น.
โอ้ละหนอ
ปรุงอาหาร ให้อร่อย คอยเติมรส
ปรุงมธุรส ให้หวานหู มิรู้หาย
ปรุงจริต กิริยา เหลือบตาชาย
ปรุงร่างกาย คอยประแป้ง และแต่งตัว
แต่จะ"ปรุง" "จิต"อย่างไร ให้ถูกจิต
นิรมิต จิตว่าง ห่างความชั่ว
จิตที่ไม่ ปรุงแต่ง เช่นแต่งตัว
จิตไม่มัว เมาปรุงแต่ง แข่งอบาย
จะผดุง ปรุงจิต คิดฉงน
จะเช่นคน ปรุงสิ่งอื่น นั้นอย่าหมาย
เพราะจิตว่าง วางให้เป็น เช่นอุบาย
ลองขวานขวาย ค้นคิด หา"จิต"ตน
จะปล่อยว่าง วางเฉย เลยได้ไหม
ไม่ต้องไป "ปรุง"แต่งจิต คิดฉงน
ปล่อยแล้วว่าง วางอยู่ อย่างรู้ตน
"จิตหลุดพ้น" ปล่อยว่าง วางจาก"ปรุง"
13 มีนาคม 2554 16:11 น.
โอ้ละหนอ
ฉันเรียบเรียงเสียงประสานผ่านหัวใจ
บรรเลงไว้เป็นทำนองของเพลงหวาน
หวังให้ซึ้งถึงหัวใจของนงคราญ
อย่าฟังผ่านแล้วยิ้มหยันฉันหวั่นใจ.............
ทั้งเนื้อร้องและทำนองของใจฉัน
ทุ่มเทพลันฉันนั้นหวังเธอหวั่นไหว
ท่วงทำนองแสนเสนาะเพราะจับใจ
เธอเข้าใจบ้างไหมนะใจเธอ...............
หรือเพียงฟังแล้วผ่านเลยเฉยเฉยอยู่
เธอรับรู้บ้างไหมใครเสนอ
ใจทั้งดวงล่วงรู้ไว้ฉันให้เธอ
เฝ้าละเมอเพ้อพร่ำทุกค่ำเช้า............
ถ้าเธอยังฟังแล้วและนิ่งอยู่
ฉันคงรู้อยู่ไว้ในใจเศร้า
ว่าเพลงรักที่บรรจงหลงแต่งเอา
มันไม่เข้าไปซึ้งถึงใจเธอ...........
หรือเพราะเธอไม่รักก็ไม่รู้
จึงเฉยอยู่ปล่อยพี่นี้รอเก้อ
ฉันคงฝันเพ้อพร่ำร่ำละเมอ
เพราะว่าเธอไม่รู้ซึ้งถึงทำนอง...........
คงจะเป็นบทเพลงนี้ที่ไร้ค่า
บรรเลงมานานเท่าใดให้หม่นหมอง
เธอไม่เข้าใจรู้ซึ้งถึงท่วงทำนอง
เก็บลงกล่องห้องหัวใจไม่ต้องฟัง..............
แล้วบทเพลงของหัวใจที่ไหวหวั่น
ก็ถึงวันจบลงตรงจุดฝัง
ฝังมันไว้ในใจให้ชิงชัง
ไม่อยากฟังบทเพลงเก่าแสนเศร้าใจ.............
12 มีนาคม 2554 17:20 น.
โอ้ละหนอ
ระบัดใบ ไหวเอน ล้อเล่นลม
ระบัดใบ ไหวชม ล้อลมไหว
ระบัดใบ ไหวช่อ ระดะไกว
ระบัดใบ ไหวเอน เล่นลมล้อ
ระบัดไหว ใจวาบ กำซาบซึ้ง
ระบัดไหว ใจจึง คะนึงต่อ
ระบัดไหว ใจหวน ครวญคอยรอ
ระบัดไหว ใจพ้อ คอยรอเธอ
ระบัดใจ ใจพลัน ก็พลิกพริ้ว
ระบัดใจ ใจปลิดปลิว พริ้วเสนอ
ระบัดใจ ใจเพรียก พร่ำหาเธอ
ระบัดใจ ใจเพ้อ ละเมอครวญ
ระบัดใด ไม่เหมือนใจ ไหวระบัด
ระบัดใด ไม่ชี้ชัด ลมพัดหวน
ระบัดใด ไม่เหมือนใจ ที่คร่ำครวญ
ระบัดใด ไม่พัดหวน ทวนใจคืน
จึ่งระบัด ผลัดใจ ดั่งใบร่วง
จึ่งระบัด ผลัดพวง ดวงใจขื่น
จึ่งระบัด ผลัดผลัก รักนั้นคืน
จึ่งระบัด ผลัดพลิกฟื้น คืนรักไป