16 พฤศจิกายน 2553 18:26 น.
โอ้ละหนอ
ปลายฝนต้นหนาวที่ราวฟ้า..............
ดารกาเปลือยอารมณ์ห่มลมหนาว
ล้อกระพริบยะยิบยั่วทั่วสกาว
น้ำค้างพราวพริบพร่างอย่างเดียวดาย
ที่ราวฟ้าพาดอารมณ์บ่มความเหงา.............
เอาความเปล่าเปลี่ยวอารมณ์ห่มให้หาย
แม้หนาวลมห่มรักคงจักคลาย
ห่มอารมณ์บ่มให้หายที่ปลายฟ้า
เก็บความเหงาแขวนไว้ที่ปลายฟ้า.........
เก็บความว้าเหว่ไว้ไม่กังขา
แม้ปลายฝนต้นหนาวเราเอ้กา
ยังหวังว่าหนาวนี้คงมีเธอ
คงเป็นหนาวที่ราวฟ้าเป็นสีฟ้า.............
ดารกาเปลือยอารมณ์พรมเสนอ
กระซิบบอกว่าหนาวนี้มีฉันเธอ
นอนละเมออาบน้ำค้างกลางแสงจันทร์
จะอบอุ่นกรุ่นละไมที่ปลายฟ้า...........
ละมุนปานประหนึ่งว่าทั่วฟ้านั่น
มีเพียงสองเรานั้นใต้เงาจันทร์
ละเมอฝันวันต้นหนาวราวฟ้าไกล
16 พฤศจิกายน 2553 10:20 น.
โอ้ละหนอ
เธอรู้ไหม.........
ในโลกฉันนั้นมีเหงามหาศาล.............
มันเบ่งบานผลิดอกและออกผล
แม้ไม่รดน้ำพรวนดินก็อดทน
ออกดอกผลเบ่งบานตระการตา
เธออยากได้ไหม.......
ดอกไม้เหงาในดวงใจใครใฝ่หา
ยังชูช่อไสวไปทุกครา
ใครอยากได้ก็เชิญมาไขว่คว้าไป
ในสวนฉันนั้นมีดอกไม้เหงา..........
ให้เปล่าเปล่าเธอนั้นเล่าจะเอาไหม
แม้ให้เปล่าใช่ไร้ค่าแต่อย่างใด
มากคุณค่าด้วยน้ำใจใครคนนี้........
ในสวนศรีนี้มีดอกไม้เหงา........
เชิญเพื่อนเชิญมาเอาไปประดับที่
แจกันทองของหัวใจใครที่มี
เหงาประดับในชีวี...........ที่นี่เลย........(เชิญเลือกเก็บนะคะ......)
15 พฤศจิกายน 2553 09:47 น.
โอ้ละหนอ
มีเงิน.... มีทอง.... มีทุกข์..........
มีสุข... ไม่มีเงิน- ทองกองให้
เลือกเอาเถิด มนุษย์เจ้า กำเนิดไป
จุติไซร้ แล้วจะรู้ ดูเอาเอง........
ก่อนกำเนิด เกิดไป ให้เจ้าเลือก
จะไปเกลือก-กลั้วสิ่งใด ใช่ข่มเหง
ทุกสิ่งนั้น เจ้าเป็นผู้ กำหนดเอง
อย่าตะเบง โทษนั่นนี่ ชี้ชะตา.......
อย่าโทษดิน โทษฟ้า ว่ากล่าวโทษ
อย่าเคืองโกรธ สิ่งที่เลือก ไปแล้วหนา
เมื่อเลือกแล้ว ได้บังเกิด กำเนิดมา
ก็ก้มหน้า ยอมรับ ไปกับมัน......
จะจริงเท็จ แค่ไหน ไม่รู้แจ้ง
แต่ทุกแห่ง ที่เห็น เป็นเช่นนั้น
มีเงินแล้ว ก็มีทุกข์ ไปโดยพลัน
ไร้เงินนั้น ไยมีสุข เสียทุกคน.......
ไม่เข้าใจ ว่าทำไม เป็นเช่นนี้
เป็นสิ่งที่ ฉันเห็น และสับสน
เป็นสิ่งที่ กำหนดไว้ ในวังวน
ของผู้คน ที่ฉันพบ ประสบมา........
12 พฤศจิกายน 2553 18:03 น.
โอ้ละหนอ
ไม่มีใจในคืนหนาวอีกคราวแล้ว......
รำพันแผ่วเบาเบาเจ้าจอมขวัญ......
เงียบสนิทนิทราค้างหว่างคืนวัน......
น้ำตาพลันพรูพร่างค้างแก้มนวล......
ไม่มีใจในคืนหนาวคราวนี้หนัก.......
เธอที่รักอยู่ไหนไม่คิดหวน.......
นวลแก้มน้องหมองช้ำน้ำตานวล......
ไม่ทบทวนความหลังบ้างหรืออย่างไร.......
นวลแก้มน้องหมองนวลครวญหาพี่........
ไม่มีใจในหนาวนี้หรือหนาวไหน........
หนาวไหนไหนก็ไม่มีแล้วหัวใจ.......
พี่กระชากพรากหัวใจนวลไปแล้ว........
12 พฤศจิกายน 2553 11:23 น.
โอ้ละหนอ
ฉันเขียนกลอน ร้อนฝนหนาว กี่คราวแล้ว
ยังเจื้อยแจ้ว พร่ำคำกลอน ทุกร้อนหนาว
เขียนไปเรื่อย- เปื่อยไปได้ หลายเรื่องราว
ร้อนฝนหนาว รัก-อกหัก พักลงกลอน
เพราะ-ไม่เพราะ ฉันก็มัก อยากจะเขียน
ใช่พากเพียร ที่เขียนไป เพราะใจสอน
คิดอะไร ก็คิดได้ เป็นบทกลอน
อาจจะอ่อน- ด้อยเชิงชาญ กลอนกานต์กล
เขียนก็เพราะ หัวใจ สั่งให้เขียน
ฤดูกาล ผันเวียน เปลี่ยนทุกหน
ก็ยังเขียน เขียนอยู่ได้ ให้ชอบกล
ไม่แยบยล เขียนไม่เก่ง เช่นครูกลอน
ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน นั้นใช่ไหม
ขอให้มี เพียงใจรัก มาพักผ่อน
ได้เขียนบ้าง ได้อ่านบ้าง ทุกวรรคตอน
ในบ้านกลอน.... ก็มีสุข......ทุกฤดู.........