11 มีนาคม 2553 19:35 น.
โอเลี้ยง
ราวโรยเหน็ดเหนื่อยแท้ .....ปวงไทย
เสพหมู่ชูหมองไหว ............กลั่นแกล้ง
ดูยากหลากรำไร ...............ฟอนทุกข์
หาปลุกสนุกแย้ง ...............ส่องให้ทรวงสรวล
มวลชนแตกต่างเฝ้า ..........โรมรัน
กลกรุ่นกรูมหันต์ ................แจกซ้อน
เดินดังด่าวโดยดัน .............ปันขื่น
หลับตื่นบนทางร้อน ...........หล่อต้อนฝอยขม
ลมรานปานปล่อยสร้อย ....เกะกะ
มนต์หม่นเหมือนชนะ .........ฝั่งใบ้
เคราะห์แข็งแบ่งสวะ ...........ชอนทั่ว
สายพรั่นจึงคลอใกล้ ..........ท่ามฟ้าแปรสี
หนีนองผองแผ่วเพ้อ ..........มอบเขลา
โหยซ่านบนเงาเหงา ...........รุดล้ำ
มิอาจซ่อมบรรเทา ............. รอนชุ่ม
จำครุ่นบนทางช้ำ ............. แช่คล้ายยากผัน
วันจึงเผลอผ่านด้วย ...........มนต์หมอง
หมดแหล่งเริงคะนอง .........แต่งแต้ม
เพราะจิตพอกพูนพอง ........นัยเยียบ
เหมือนหักกักรอยแย้ม .......ส่งยิ้มลงหลุม
10 มีนาคม 2553 22:22 น.
โอเลี้ยง
ในขณะที่สถานการณ์บ้านเรายังตึงเครียด เรามาคะนึงถึงกันด้วยโคลงรักก่อนนะคะ อิอิ
ดังหลง...รักเสพติด(2)
ตะวันเยือนผ่านพร้อม ....... ชีวา
แดดสาดประกายพา ........ อุ่นเต้น
ลมไหวกระจายมา ......... โลมริก
ทุกทิศนกกาเร้น ............. ส่งแสร้งเสียงหวน
นวลเงาเหลาเคลื่อนคล้อย ..... วางไว
พลิกวูบพลันมัวใน .............. แหล่งรู้
คือเงาเร่งขอบใบ ............. ปลิวหล่น
ลงสู่ธารใสอู้ ................... ก่อนล้ำจากหาย
ปรายรักดังคลับคล้าย ......... เครือกัน
คราเปิดประตูชัน .................. ปะหน้า
พรมมนต์กล่อมหลากสรรค์ ... ปวงปรี่
ใจยวบพาลรวบคว้า ............. ก่อนแจ้งนัยไหว
ไฟหวามกระพริบสั้น .............. พลันเลือน
ใยขื่นยาวเสมือน ................ ด่าวด้าน
เมียงทางรกเงาเตือน ........... ชวนโศก
อกผ่าวราวสุมร้าน ............... แน่นด้วยพิษผอง
กองปรอยลอยฝากพร้อม ..... คะนึง
เหมือนมีดเหน็บคอตึง ...... หยุดไว้
ยามหลับขื่นคอยคลึง ............. ลวงเร่า
จิตกรุ่นจึงเกิดไข้ ............. เหม่อเพ้อลืมขัน
งันหงอยจนสาดแจ้ง ............ แสงงาม
จิตคุดหลุดติดหนาม ............ แผ่วด้น
หวามฝันแวะชวนตาม .......... ปลุกชื่น
จากโศกจึงเป็นล้น .............. เสพซึ้งฝันหลอน
9 มีนาคม 2553 11:42 น.
โอเลี้ยง
หลง ดังเดินสู่ห้วง..............ความฝัน
รัก ยื่นทางสวรรค์............มอบให้
ใน จิตพร่างอนันต์............เปรมใคร่
ฝัน ใฝ่เหมือนดังได้...........กอดอุ้มเยือนสม
พรม มนต์เมารื่นเคลิ้ม.........หลืบหวาน
ทรวง เหลื่อมรอยลืมกาล......พลั่งฟ้อง
เพลิน ในช่วงตำนาน...............หอมกรุ่น
เนา เช่นหลงเสพต้อง.........พิษร้ายยาหลอน
ขอน คะนึงแทรกใกล้............ทุกยาม
ไฟ เหม่อมารุมตาม.............สุดห้าม
พิษ ไววิ่งทวงถาม................ชวนตื่น
แปลก ที่เรามิข้าม....................กับห้วงหลากไหว
ไย หวงหาทุกครั้ง................ทุกคืน
คอย เร่าจนยอมยืน.................ล่วงหน้า
หวน ปลอบด่าวคราฝืน...........;จำห่าง
หา เบื่อจะหยุดคว้า................แหล่งพร้อยหลอกหวาม
ยาม หดหายเกือบคล้าย.......มรคา
ขาด สื่อเติมปัญญา...............เหลี่ยมสู้
อยาก เพียงแค่หลับตา..............หนีเบื่อ
ตาย เพราะหงอยเลียบรู้...........หลอกให้ลืมสรวล
5555 อาจเพราะแผ่นดินไหวบ่อยในระยะนี้ ทำให้อากาศที่เริ่มร้อนถึง30องศา ตกลงมาที่8องศาอีกคราว ทำให้มี่นั่งดื่มกาแฟไป พร้อมเขียนโคลงรักไปได้รอด อิอิ ทั้งๆที่ "อารมณ์คิดรัก" หมดไปนานตั้งแต่เห็นชนทะเลาะกันทั่วโลกนะ .....
7 มีนาคม 2553 20:59 น.
โอเลี้ยง
คล้ายว่าลมรัก พามนต์หวาม-
ชักชวนข้ามหวั่น มาเมียงข้าง-
ตรงดงที่เคย ร่ำไรพราง-
เพื่อสร้างตำนาน รักดังจินต์-
กับใครคนที่ มักพาคล้าย-
เพลินง่ายเผลอบ่อย แม้ไกลถิ่น-
ยังปองถวิล หลงในดิน-
แดนที่หวังยิน เสียงหวานมี-
รอยยิ้มอิ่มอวล ชวนให้พิศ-
สวาทหาทิศทาง อย่างด่วนถี่-
เพื่อเห็นนัยน์ตา ที่ชวนชี้-
ให้พลีชีวี กับรักพลั้ง-
เพ้อหลงละเมอ เกินวัดลึก-
ถึงสึกหลุดหล่น ตอนรักคลั่ง-
ราวลมกระพือ หมดทางรั้ง-
จะฝังกลบขัง ห้ามรักเลาะ-