7 กรกฎาคม 2551 16:36 น.
โอเลี้ยง
ฝอยฝน-หล่นหลั่ง-พรั่งพรูพลิ้ว
โปรยปลิว-หวิวไหว-ไล้รดรื่น
ขื่นคลาย-คล้ายคลุม-ชุ่มแฉะชื้น
ดาดดื่น-ตื่นตา-ฝ่าฝนฟ้า
พบพื้น-ลื่นไหล-ไฉนนิ่ง
เก็บกิ่ง-กลิ้งกล่น-หล่นรกหล้า
แมกไม้-ใบบาง-ต่างต้องตา
จิตจับ-ปรับปร่า-พาผ่านพ้น
ใส่สุข-รุกร้าว-ก้าวไกลกร่อน
นิ่งนั่ง-หวังวอน-ร้อนลุกล่น
เหยียบย่ำ-น้ำนิ่ง-วิ่งวกวน
ซุกซน-ล้นรื่น-ชื่นชุกชุม
กลิ่นกวน-หวนหอม-ล้อมเลาะไล้
ไม้แมก-แบกใบ-ไซ้ซุกสุม
กล่นเกลื่อน-เปื้อนป้าย-ส่ายซุกซุ้ม
รวยรุม-คุมเคลิ้ม-เพิ่มพ้อเพ้อ
ดงดิน-กลิ่นใกล้-ไออวลอาบ
ยืนยิ้ม-พิมพ์ภาพ-หาบหวงเห่อ
เหม่อมอง-คลองคู-รู้เลิศเลอ
สุขซบ-พบเผลอ-เหม่อมื่นมน
ฝนฟ้า-พาผล-ค้นเคลิ้มคิด
ทุกทิศ-ปิดป้อน-ซ่อนสับสน
คืนค่ำ-ด่ำดื่ม-ลืมร้อนรน
ผ่านพ้น-ต้นตอ-ทอทุกข์ทัก
โลกหล้า-น่านอน-สอนสุขสรรค์
ใฝ่ฝัน-พลันพบ-ทบถมถัก
อย่าอยู่-คู่ขม-ชมช้ำชัก
เดินดัก-ผลักผ่าว-ร้าวเลิกรา
5 กรกฎาคม 2551 16:36 น.
โอเลี้ยง
ประจักษ์แจ้ง แสดงดล ปะปนแปลบ
ชะลอรั้ง กระทั่งแทบ แฉลบหลอน
หทัยทัก สลักร้อน สลอนรอน
ละเมอเหมือน สะเทือนทอน ตะลอนร้าว
ผละผลักเพ้อ เสนอหนี ละพลีภักดิ์
สลัดรัก สมัครใหม่ ไฉนหนาว
เสมือนหม่น คละคนค้น จะยลยาว
สลดราว ผะผ่าวผุด สะดุดดัน
ประสานสู้ ประตูตรม คละขมขื่น
สะอื้นอิง สะอิ้งเอ่อ เสมอสรรค์
แสวงวัน สะบั้นเบื่อ ละเชื่อชัน
พนันหนัก จะกักกด สลดรัก
ประเดิมเดิน เผชิญช้ำ ระกำกร่อน
ระรัวร้อน สะท้อนท้อ ชะลอหลัก
ปะเปล่าเปลี่ยว เฉลียวเลือน สะเทือนทัก
ชะงักเงียบ ละเลียบล้ม ระทมท้อ
ประกาศไกล ละไหม้หมอง ประลองรุก
ละลุกลน ระคนคาย สลายล่อ
ประจัญเจ็บ กะเก็บกลืน ผละขื่นคลอ
กระหน่ำหนัก ละรักรอ พะนอนาน
ประสงค์สร้าง ระวางว่าง สว่างหวัง
ระวังไว้ กระใดดล กะหนหาญ
จะกรายไกล ละไล้แล กระแสซาน
ประดิษฐ์ด้าน ผสานสุข สนุกนิจ
ฉบับแปลกลอนกลบทกินนรรำอีกทีค่ะ
ได้รู้เห็นรักของเราแค่ลมหลอก
ที่เข้าออกมีแต่ช้ำจนจิตหลอน
ในหัวใจมีทุกข์ท่วมซุกหลายตอน
พบแต่ร้อนกับละเมอทุกเวลา
อยากปลดรักผลักหนีความพลีภักดิ์
แล้วตั้งหลักมีใหม่ไยโหยหา
หรือความหมองมีมากเกินลบลา
จึงไขว่คว้าได้แค่ช้ำอยู่เรื่อยมา
เคยนะเคยต่อต้านต่อสู้ทุกข์
แต่ทุกครั้งถูกรุกจนหมดท่า
แต่ยังหวังปลดทุกข์แม้เหนื่อยล้า
ถึงชีวาหมดรักก็จะลบ
เมื่อเดินหนีรักร้าวใช่ไม่เจ็บ
น้ำตาเล็ดเหน็บหน่วงจนจำหลบ
มักเปล่าเปลี่ยวเหมือนโง่ไม่น่าคบ
เกิดท้อแท้หลายตลบกับทุกข์นี้
ประกาศแล้วครั้งนี้จะลารัก
แม้ตระหนักความอาวรณ์พาเจ็บถี่
จะเดินต่อแม้รอยท้อยังรอรี
สิ้นชีวีก็จะหนีรักเคยมี
อยากสร้างลานมีฝันใหม่ที่สดใส
กับดูแลหัวใจครบทุกที่
จะก้าวไกลไม่มองคนเคยราวี
จะอยู่แค่ในที่มีสุขนาน
3 กรกฎาคม 2551 18:22 น.
โอเลี้ยง
กลบทอักษรล้วนแบบที่๑
เพียงพานพบพลันเพ้อพ้อพกผ่าว
ซ่อนซุกเศร้าสาวโศกสรรค์สร้างสร้อย
ร้อยรสร้าวรานร้อนหลงรูปรอย
คร่ำครวญคอยเคียงข้างใคร่ขมค้ำ
หนักในนัยนึกนานน้ำนองหน้า
แต้มเต็มตาตรมตำต้องตกต่ำ
ภักดิ์เพียงพ่ายพร้อมแพ้เผลอพึมพำ
ทนถ่อทำทักทุกข์ถากถางทาง
ใช่ชอบชักเชิญชวนชิดเชยช้ำ
แค่คืนค่ำคิดถึงคนเคยข้าง
ไร้รู้รสรักรื่นหลงเลือนลาง
เหมือนหมางเมินหมดมั่นไม่หมายมี
กลบทอักษรล้วนแบบที่๒
เพราะพบคนคิดใคร่ตกหลุมรัก
ท่ามตระหนักคนเดิมเคียงข้างถี่
กลัวคน ใช่เลือนห่างลาลับลี้
พาชีวีว่ายวนเจ็บจ่อมจม
ครั้นจะลาคนเก่าเกินกรายห่าง
เพราะคนข้างคนเดิมเคยพาสม
รักทั้งสองซ่อนซุกรุกอารมณ์
ให้กอดทุกข์ทับถมทุกค่ำวัน
จำครวญคำตำเจ็บจับจิตเศร้า
ร้อนรุกเร้าแผดเผาระรัวสั่น
ซ้ายก็รักขวาเพ้อพร่ำพัวพัน
ทุกคืนวันแวะเวียนเฝ้าไล้รอน
อนิจจารักหลงไล้พาหวง
เจ็บทุกช่วงชิดช้ำท่ามรักหลอน
ซ้ายรักรอลามขวาเฝ้าเว้าวอน
ฝันทุกตอนตรมตามเกินหลับตา...
2 กรกฎาคม 2551 14:59 น.
โอเลี้ยง
นกกางปีกแบบที่๑
เมื่อจิตท้อพ้อแพ้แพร่แพ้ทั่ว
ร้อนรุกรัวรุกลามตามทับนิ่ง
ฝันหวามวาบพลันวาบมีพรั่นพิง
ทุกข์อวลอิงอวลอาบซ่านเคียงคลอ
จิตซ่อนหวังสรรค์ใฝ่สรรค์ลานฝัน
เริ่มรอรั้งกั้นดันกั้นฝันก่อ
ท่ามตะวันสาดแสงสาดหยอกล้อ
จิตร่ำพ้อร่ำย่ำย้ำกรำกลัว
ท้อลามรุกปลุกเร้าปลุกขมขื่น
จิตเก็บผ่าวเก็บฝืนไหลหล่นรั่ว
หวังยืนหยัดยั้งหยุดยั้งหมองมัว
คิดตั้งตัวตั้งใจดันหลุดท้อ
นกกางปีกแบบที่๒
เพียรบอกตนแพ้พ่ายพ่ายแพ้บ้าง
ได้สร้างเสริมเสริมสร้างรอยฝันต่อ
ทุกข์มารุกรุกมาอย่าพร่ำพ้อ
ต้องกล้าก่อแรงสู้สู้แรงรอน
เพื่อสร้างลานไต่ใฝ่ใฝ่ไต่ฝัน
พาคืนวันวันคืนผ่านเหม่อหลอน
เป็นคนใหม่กล้าแกร่งแกร่งกล้าย้อน
กล้ากร่อนกดกดกร่อนปัดแผลแพ้
ไม่มีใครพานพบพบพานสุข
โดยไม่ทุกข์ทุกข์ไม่เหยียบย่ำแย่
แต่เมื่อพ่ายกล้าเดินเดินกล้าแล
ทุกข์ท้อแพ้แพ้ท้อก็หมดแรง
แค่ล้มล้มแค่ครั้งอย่ามัวช้ำ
คิดประจำย้ำย้อนย้อนย้ำแฝง
ทุกข์ลดถอยถอยลดหมั่นเปลี่ยนแปลง
กล้าตัดแต่งดันท้อท้อดันไกล