22 มิถุนายน 2551 15:02 น.
โอเลี้ยง
กลบทนาคราชแผลงฤทธิ์
แอบมีใครในใจไม่ใช่แย่
แม้ช้ำย่ำพร่ำแพ้พบแค่เศร้า
เผาขับสุขรุกหม่นทนรนเร้า
เถ้าร้อนลวกบวกเหงาซุกเย้าเคียง
เสียงยั่วคุ้นตุนเจ็บเหน็บเก็บกร่อน
รอนใกล้กรายคล้ายอ้อนอย่าอ่อนเสียง
เยี่ยงอาบโศกโยกหวังยังรั้งเรียง
เยี่ยงร้อนรุกทุกข์เคียงใช่เกี่ยงไกล
ใช่กลัวกลืนขื่นขมจะถมทับ
จับท้อแท้แก้ปรับหวังนับได้
ไว้นอนดูรูแผลเคยแคร์ใคร
ไข้เคียงข้างอย่างไรก็ไม่กลัว
กลบทนาคเกี่ยวกระหวัด
เมื่อมีรักช้ำเจ็บต้องได้พบ
พบได้บ่อยเศร้ากลบสุมเต็มหัว
หัวเต็มไปด้วยแผลช้ำหมองมัว
มัวหมองหม่นระรัวใช่เลิกรัก
รักเลิกยากหวังมากเฝ้าฝังฝาก
ฝากฝังไว้มากมายแม้ถูกผลัก
ผลักถูกแผลเก่าก่อนเหมือนศรปัก
ปักศรซ่อนอุปสรรคให้ลิ้มลอง
ลองลิ้มร้าวหลายคราวใช่หนีรัก
รักหนีห่างไกลนักจะกลัดหนอง
หนองกลัดกร่อนเท่าไรยังหวังปอง
ปองหวังใครลองเหลียวแลคนคอย
คอยคนใฝ่ไม่เคยอยากหยุดนิ่ง
นิ่งหยุดรอกลัวอิงจิตละห้อย
ละห้อยไห้อ้างว้างเศร้าตาปรอย
ปรอยตาแดงแฝงร้อยแต่ทุกข์คว้าง
คว้างทุกข์มากหากรักเกินไกลฝัน
ฝันไกลสมไม่พรั่นเท่าจิตว่าง
ว่างจิตห่างคิดถึงคงอ้างว้าง
อ้างว้างอย่างหมกไหม้ไร้ชีพยัง..
20 มิถุนายน 2551 18:03 น.
โอเลี้ยง
แสงสีทองเรืองรองอร่ามฟ้า
เช้าวันใหม่เจิดจ้าไร้เมฆฝน
ต้นไม้เขียวสะบัดใบปลิวปะปน
ทั่วทุกหนล้นเสียงของนกกา
ลมหวีดหวิวพลิ้วผ่านหน้าภูเขา
หาดทรายเหงาร้างว่างคนไปหา
ทะเลเรียบผิวน้ำลื่นชื่นอุรา
ภาพงามตาพาจิตระรื่นไกล
ธรรมชาติลิขิตภาพสวยสม
ชวนชื่นชมนานนานอย่างหลงใหล
อยากรักษาดูแลดำรงไว้
ให้ใกล้ไกลมีต้นไม้ได้พบเจอ
ให้ความงามพรรณไม้ซ่านไปทั่ว
ให้รอบตัวหมดควันพิษชิดเสนอ
มีแค่ไอหอมหวนอวลจนเพ้อ
เป็นเช่นฝันได้เสมอคงจะดี
อยากสร้างฝันมีเมืองหมดภัยพิษ
ทั่วทุกทิศชุ่มชื้นแซมไม้สี
มองทางใดมีแต่ภาพชื่นชีวี
ทุกราตรีได้หลับนอนด้วยสุขใจ
แต่ภาพจริงเห็นแล้วซุกสะอื้น
จิตขมขื่นฝืนฝันได้นานไหม
ธรรมชาติงดงามน้อยลงไป
เพราะมือใครเราท่านฤาไม่รู้..
18 มิถุนายน 2551 22:13 น.
โอเลี้ยง
นอกหน้าต่างมีฝนกำลังไหล
ในหัวใจมีไข้กำลังสุม
บนใบหน้าน้ำตากำลังรุม
รอยกลัดกลุ้มกระจายโรยเบาบาง
อยากลบรักหักใจไร้เงื่อนไข
โยนความโง่หายไปในที่ว่าง
สร้างความฝันเจิดจ้ามาปูทาง
แล้วแปลงลานเคว้งคว้างให้สวยงาม
ตั้งนาฬิกาเอาไว้เวลาใหม่
ผูกแพรใสวนรอบสวนเป็นเขตห้าม
ตำตะวันโปรยโรยทางให้ส่องตาม
ทุกเขตข้ามให้ไร้เธอคนพาช้ำ
เพราะหัวใจอ่อนแอแพ้ทุกข์เศร้า
อุราเร้าร้อนเจ็บเหน็บครวญคร่ำ
สุขวันวานกลายเป็นควันลอยลิบล้ำ
เหลือเพียงเถ้าขัดคาตำไล้กลางทรวง
เพราะปลดเหงาเกลาอ้างว้างไม่อาจหลุด
ใจชำรุดทรุดโทรมใกล้กรอบร่วง
จึงสร้างฝันหวังปลดเศร้าหลอนลวง
หวังแค่ช่วงบางเวลาหลงลืมเธอ
ยอมรับว่ารักเธอไม่รู้สิ้น
แม้ถวิลของฉันผูกพันเก้อ
ใจดวงดื้อยังพร้อมพลีบำเรอ
ส่งเสนอคนใจร้ายที่เมินเรา
ดวงดาวเดือนหล่นกล่นลามทั่วฟ้า
น่าอิจฉาท้องนภาไม่หงอยเหงา
แค่มองฝนมองดาวยวนยั่วเย้า
ฉันก็เศร้านั่งคร่ำครวญท่ามคะนึง
ซุกตรมตึงดึงไม่หมดหดหู่เผา
ราตรีเทาสีแสนเก่ายากหยุดทึ่ง
ยามมองฟ้าจึงเห็นช้ำออเอ็ดอึง
ให้ต้องตรอมไร้ซาบซึ้งกับดวงดาว
18 มิถุนายน 2551 18:01 น.
โอเลี้ยง
โลกมนุษย์ผุดโผล่หลากเรื่องเล่า
มีดีเศร้าเผาผลาญเกินประสงค์
ลอบด่าตีฆ่าปล้นราวแร้งลง
หวังแค่ตนยืนยงเย้ยโลกา
ครั้นผู้รู้ตอบโต้โชว์เรื่องเสีย
โกรธดังไฟลามเลียหวังดับหล้า
สั่งสมุนขุนโจรโรมรันท้า
ไล่เข่นฆ่าผู้กล้าพูดความจริง
หาได้คิดสักวันกรรมรุมล้อม
กดจ่อมจมนรกหมดทางวิ่ง
ถึงเก่งกาจหาญกร้าวเกินอ้างอิง
คราถูกยิงทิ้งซากยากใครแล
หวังเด่นดังเป็นหนึ่งตึงผืนหล้า
หาได้สร้างศรัทธาคนเห่อแห่
สร้างแต่ชั่วมั่วเลวเป็นหลักแท้
เกินเกลาแก้ยั้งหยาบคราบโจรคา
อย่าคิดว่าตนแน่แช่ทั้งชาติ
เรื่องผิดคาดอาจดลซ้อนมาหา
แค่ดื่มน้ำยังสำลักหมดทางลา
ด้วยชีวามรณาก่อนรู้ตัว
กรรมที่ก่องอกงามติดดอกแน่
จิตติดแผลยากนะจะลบชั่ว
แม้วันนี้เดินไปไม่รู้กลัว
แต่พรุ่งนี้เงาหัวอาจขาดเลือน...
ปล. ภาพจากไทยรัฐ
17 มิถุนายน 2551 20:43 น.
โอเลี้ยง
เดินตามหาสิ่งสำคัญที่หล่นหาย
ที่คลับคล้ายซุกซ่อนด้วยห่วงหา
อยู่ที่ใดไกลใกล้นอกสายตา
หรืออยู่เขตสุดหล้าใจอยากรู้
อยู่ที่ไหนคนนั้นที่คิดถึง
คนซาบซึ้งตรึงตราจิตร่ำกู่
อีกนานไหมถึงพบคนชื่นชู
คนที่อยู่กลางทรวงหน่วงเรี่ยวแรง
ฝนพลิ้วมาอีกคราเธอเห็นไหม
ใจเหน็บหนาวสุมไข้คล้ายกลั่นแกล้ง
เสียงลมหวิวไหวไวดังทิ่มแทง
พาใจแห้งหดคดเหมือนเจ็บครวญ
เหม่อท่ามฝนมองฟ้าส่งใจเพ้อ
เหมือนเห็นเธอชวนชิดส่งเสียงสรวล
วิ่งเข้าไปหมายกอดคนชักชวน
ภาพพลันเปลี่ยนล้วนหยดน้ำจากฝนโปรย
กับความเหงาหนาวสั่นปนอ้างว้าง
คือที่ว่างหว่างใจซ่อนระโหย
แต่เหนื่อยล้าสิ้นแรงแทบร่วงโรย
ใจยังดื้อฉายโชยซ่านรอยคอย
อยากหยุดตามใครคนหนึ่งที่ใจภักดิ์
เศร้าทะลักกักล้อมไม่ผละปล่อย
จำเพ้อพ่ายเหม่อแพ้ตามจิตลอย
เดินร่ำบ่อยคอยใครเขากลับมา...