11 มกราคม 2551 00:19 น.
โอเลี้ยง
ลั่นทมอวลกรุ่นกลิ่นลอยตามฝน
เหมือนถนนทุกสายต่างร้องไห้
ยิ่งลมพลิ้วกลิ่นเศร้ากระจายไกล
พาจิตใจป่วยไข้ช้ำชาชิน
ลั่นทมเอยเจ้าเหงาหรือเศร้าโศก
ไยย้ายโยกโบกกลิ่นกรายถวิล
หรือเจ้าช้ำเดียวดายเป็นอาจิณ
หรือเคยชินหลงบ่วงห่วงระทม
เสียงลมครวญคล้ายดังเจ้าซุกซ่อน
รอนร้าวร้อนหล่นเกลื่อนห่มกลิ่นขม
กลิ่นอาบอวลช่างเศร้าเคล้าระทม
ใจซับซ้อนซมซ่อนทุกข์วังเวง
กลีบเบาบางบนทางที่เดินผ่าน
เหมือนทั่วลานเรียงหนามทิ่มข่มเหง
ทั่วทุกทิศกลิ่นโศกเปิดบรรเลง
เหมือนวางเพลงคร่ำครวญหลอนบนทาง
ลั่นทมเคว้งคนคว้างบาดวิถี
ฟ้าเปลี่ยนสีหมองหม่นดูเวิ้งกว้าง
รอยเดียวดายลามไหม้ไม่จากจาง
กลิ่นสดใสเหินห่างสุดสายตา
7 มกราคม 2551 20:26 น.
โอเลี้ยง
คิดคะนึงถึงเธอใครคนหนึ่ง
ทรวงซาบซึ้งซ่อนห่วงระรุ่มไหว
รอนลามร้อนห่างตาสะเทือนใจ
รอร่ำไรร่ำร้องรั้งฤทธิ์ร้าง
ก่อนกรายใกล้อาบชื่นระรื่นสุข
ไม่เกลียดทุกข์ซุกซนกำแหงกร่าง
มาแจ่มแจ้งรู้จริงใจจืดจาง
เมื่อคนข้างห่างเคียงเลือนลับตา
รสคิดถึงตรึงตราจนช้ำหนอง
หมดคะนองขัดข้องทุกปัญหา
แสงเรืองรองเดือนเด่นดูขัดตา
พาอุราระรัววุ่นวายร้อน
คิดประเดี๋ยวคงหายลดรอยเศร้า
ลดร้อนเร่าหยุดเจ็บหมดหลอกหลอน
ยิ่งดึกยิ่งรู้สึกแค่คำวอน
เมื่อใจครวญสะท้อนผ่านราตรี
ต้นคะนึงเติบโตมิหยุดนิ่ง
จิตรุ่งริ่งบนฝันยากแซมสี
เวิ้งอ้างว้างขาดหวานพรมฤดี
บนวิถีคะนึงอวลอ่อนแอ