29 ตุลาคม 2552 01:54 น.
โอเลี้ยง
รัก รินกรอล้อกลิ่น...เริงกราย
ฤาจ่ายคำจำขาย...จิตครื้น
เพียงพรายมัด พัดหมาย...เพลินมอบ
หลอกก่อฉับ กับฉ้อ...ก็พร้อมรับภักดิ์
รักรอเพียงเลี่ยงพ้อ...รอยแผล
จริงแล่กรังรังแก...รัดใกล้
หาแหเปลี่ยน เหียนแปร...หันปลุก
ยากสุขลอยสอยไล้...แต่ปลื้มทางเดียว
เหลียวรักไหนไล้หนัก...รานเนา
ดูเจ่ารัดจัดเหลา...เจ็บร้อน
รอบเลาคัดรัดเขลา...รองคู่
ตัวห่อนตักหักต้อน...รัดเข้ามุมพรำ
คำคอยรัก คลักร้อย...ขานลวง
รักถ่วงหักทักหวง...ท่วมหุ้ม
เรียงลวงปร่าลาปวง...เริงป่าย ใจนา
รายรุ่มกักรักกลุ้ม...หล่อเศร้าพันใจ
ไกลกลรักกักล้น...กลหลอน กลัวเหงา
จากซ่อนขมสมคอน...โศกเคล้า
ความขอนซุ่มขุมสอน...ครองสุข
จริงข่าวซุกคลุกเศร้า...ก่ายซ้อนปองโกรธ
โปรดปันรอยปล่อยรั้น...แปรแรง
คิดแบ่งจิตบิดแจง...บทจ้ำ
ยามแยงขัดยัดแคลง....ยำขุ่น
รักพร่ำชิดพิศช้ำ...ก่อคล้อยชวนหวน
27 ตุลาคม 2552 19:50 น.
โอเลี้ยง
วางรักเหมือนวักร้าง...คลอเคียง
เพียงร่ายกลับผายเรียง...ขื่นช้ำ
เสียงอวลหว่างสวนเอียง...คือโศก
นำกลบดังนบกล้ำ...แต่งไห้กรายหวน
ทวนรอยจมถ้อยร่วน...จากใจ
ในแกร่งพลันแหนงไกล...ชื่นล้วง
ขายอาบแต่คราบไอ...ปวงปร่า
กลวงห่อในกอห้วง...พรั่งล้วนโศกสุม
กุมใจบทใกล้จุ่ม...นัยน์รอน
ตอนวุ่นเหมือนตุนวอน...เจ็บเร้า
สอนลุกไพล่ซุกหลอน...นอนแอบ
ยาวโศกมัวโยกเศร้า...จึ่งสร้อยเกินถอน
คอนอวลดุจข่วนอ้อน...รักผัน
วันร่ายเกิดวายรัน...จิตย้อย
พลันแปรแต่แผลปัน...มาสู่ จินต์นา
พลอยริดตัดพิศร้อย...จากปลื้มทรวงสาน
ฐานรางยากถ่างร้าน..ใสสวย
ขวยรบเกินขบรวย...อุ่นกว้าง
กรวยอุดเพราะกุดอวย...จึงผ่าว
ครางข่าวยามคราวคว้าง...เพราะพลั้งสุขสาว
หนาวรอถักหน่อร้าว...รำไร
ดายกรุ่นพาดุนไกล...ลุ่มช้ำ
ไฟหวังฝากฟังไว...เพียงขื่น
ดำยักมุงดักย้ำ...แต่ต้องตรมสวม
26 ตุลาคม 2552 19:20 น.
โอเลี้ยง
ยืนยลฝนหลั่งพ้อ...ฟังรน
ฤาเร่าหลอนรอบน...หล่อร้อน
ฝนปลายกรุ่นไอวน...ไกลอุ่น
นัยวุ่นรอยเขลาซ้อน...เร่าคล้อยโหยหา
พาราวรอยท่วงกล้า...ลวงถอย
ใจคลักกลปรอยซอย...กร่อยปล้น
ไฟหวังอุ่นกวนหงอย...อวลกรุ่น
พัดพรั่งตอนแลด้น...แต่ร้อนหวนไหว
ใจรอนเงาเพียบคล้าย...เงียบเผา
ไกลอุ่นพลันหลอนเมา...ผ่อนรั้น
ในคอยเดี่ยวปันเหลา...ดันเปลี่ยว
สุดเหนี่ยวรอยคึกกั้น...ลึกคล้อยคลำขม
ลมหนาวไหลวูบพร้อม...ลูบไหว
สอนหวั่นแซงกรายไป...ส่ายแกล้ง
โรยโหยล่องเชิงไช...เริงช่อง
อกคร่ำกรังรอนแล้ง...กร่อนรั้งเหลือไข
ใจแปลบเบนข้นเลื่อน...บนเข็ญ
เหมือนย่างเคียงรอนเลน...ค่อนเลี้ยง
ในจินต์เหน็บจับเจน...นับเจ็บ
กรอเก็บฤาหมดเกลี้ยง...ลดมื้อหมอกหมอง
ครองขมตรมล่ามร้าว...ตามลม
เหงาแผ่วรอลนพรม...ร่นล้อ
วังเวงกักไหวจม...ไกลวัก
จึงนั่งเหงาเลียบพ้อ...เงียบเร้าเคียงหนาว
25 ตุลาคม 2552 13:37 น.
โอเลี้ยง
ลมหนาวพัดมา...หงอยเหงาเมียงหา
วังเวงเงียบคา...ให้วุ่นกมล
ยิ่งเย็นยิ่งเพ้อ...ละเมอสับสน
ก่ายกอดเดียวดล...ยืนบ่นพึมพำ
ยามหนาวเยือนใกล้...อ้างว้างอวลไอ
หวาดหวั่นเต้นไหว...หมองหมอกงุมงำ
เงาเงื่องผุดโผล่...เกินโต้ลมกรำ
นั่งคว้างย่ำช้ำ...ระกำระอา
คราเดินโต้ลม...เหมือนขื่นแซมขม
เลาะเลียบสาดพรม...ให้น้ำปริ่มตา
เมียงจันทร์กลางหาว...ยิ่งร้าวศรัทธา
จันทร์มัวคล้ายว่า...วาดว้ามาสุม
หลุมเงียบเรียงหล่อ...หาใช่เยินยอ
แต่แกล้งชะลอ...ให้เศร้าฉายกุม
กาลรอนไล่เร่า...แผ่วเผาปวดชุม
จำเจ็บจมจุ่ม...ในกลุ่มเหงาหนาว
เมาลมหนาวเยือน...ร้อยเหงาเศร้าเหมือน
จิตปวดแปดเปื้อน...แต่โศกสอยสาว
ฤาจิตเพียงผ่าว...รู้ร้าวระนาว
หารู้ถึงข่าว...ลมพราวเริงเพลิน
เดินหว่างลม,เหงา...วิเวกเร่งเหลา
โดดเปลี่ยวเหลียวเย้า...ก่อทุกข์เกินเทิน
พาจิตสอนสุ่ม...แต่ชุ่มหน่ายเนิน
ยากแท้ดาเดิน...เผชิญเยียบหนาว..
23 ตุลาคม 2552 16:25 น.
โอเลี้ยง
บทนี้ถ้ามี่เขียนผิดฉันทลักษณ์ไป โปรดแนะนำได้นะคะ มี่เพิ่งดูกฎบังคับเมื่อคืน แล้วลองเขียนวันนี้เลยค่ะ...ขอบคุณล่วงหน้า ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
........................คำโกหกนั้น
ยามรับใช่พรั่น...อาจสรรค์ความหลง
เพราะสุขที่รับ...ปรับจิตเคยตรง
หลงเข้าในวง...สู่ดงบ่วงมาร
.............................โกหกมีบ่อย
พาใจเปียกปรอย...กี่ร้อยก็หาญ
ยิ่งหลอก รักมาก..เรื่องจากลืมนาน
ใจกล้าเชี่ยวชาญ...ลืมกาลลืมวัน
................................โกหกใช่ชั่ว
แม้นเกลียดแลกลัว...ฤามัวเกรงหวั่น
แล้วพ้นได้พลัน...มิปันแบ่งหยัน
มาแต้มสีสรร..แดกดันสู่ใจ
........................โกหกคือมนต์
ที่ร้ายแยบยล...พาดลหวามไหว
แลผูกลามไป...ถึงไข้หม่นไหม้
แต่ใช่ร่ำไห้...ก็คลายมนตรา
............................โกหกคู่โลก
ย่ำย้อนยอนโยก...สู่โชคชะตา
บางคนเพียรคว้า...หวังคร่าปัญหา
เพราะโศกเหนื่อยล้า...จึ่งดาฉับพลัน
.......................โกหกพกเมา
ลืมร้อนลืมเร่า..หายเศร้าราวหั่น
จึ่งพบบางคน...อยากค้นมายัน
ให้เรื่องโศกศัลย์...ลดหลั่นจางเลือน
.........................นิยามโกหก
เศร้ารกตลก...มาปรกมาเปื้อน
แต่อย่าแชเชือน...เบนเบือนกลเกลื่อน
เมื่อสุขพบเพื่อน...จนเลือนโทษรอน
..........................บางคนโกหก
ด้วยลิ้นกระดก...หาอกซึ้งซ้อน
จึงใคร่หาญสอน...ละครมากตอน
ของหลอนเริง,ร้อน...มาผ่อนหวามหวิว...