19 มกราคม 2551 13:46 น.
โอเลี้ยง
ดุจห้องหม่นมืดมิดขังใจฉัน
รอนทุกวันว่างวุ่นกรุ่นเสมอ
แม้นอนลงหลับใหลไหวละเมอ
เพรียกพร่ำเพ้อเหม่อลอยกระจายไกล
ยิ่งค่ำนี้หนาวเหน็บเก็บแต่คิด
รุ่มในจิตจดจ่อระรุ่มไหว
ตามองเหม่อเหมือนดาวเดือนห่างไป
มองฟ้าไกลใกล้กลืนรสระทม
มองดูดาวเดือนเคลื่อนสว่างพร่าง
รอยอ้างว้างวุ่นวายคล้ายมาข่ม
เดือนดาวงามเหงาหงอยมิคล้อยจม
ราวระทมตรมตรอมติดเคว้งคว้าง
จิตกังวลหวงห่วงให้ทุกข์หนัก
มิเว้นพักพอเพียงเรียงใจว่าง
เวิ้งว้างว่ายในจิตมิหยุดวาง
ให้เหินห่างรื่นเริงเยือนมืดมน
18 มกราคม 2551 22:50 น.
โอเลี้ยง
เศร้าเพราะเผลอเผลอหวังจึงโศกเศร้า
ไหวรุมเหงาเหงาซ่อนเจ็บหวั่นไหว
ใจเริ่มเงียบเงียบนิ่งเหมือนขาดใจ
เดียวดายเปลี่ยวเปลี่ยวใจอยู่คนเดียว
สูงเกินใฝ่ใฝ่ฝันด้วยหวังสูง
เที่ยวชักจูงจูงใจหวังหลายเที่ยว
เลี้ยวหลายหลายเส้นทางก็ยังเลี้ยว
ใจเบี้ยวเบี้ยวคิดใกล้คนในใจ
เพ้อพ้อพ้อหลายหนว่ารักเพ้อ
ไม่ตอบเลยเก้อเก้อพบแต่ไม่
ไปนั่งรอรอนานไม่เห็นไป
รอสิ้นใจใจจางหมดแรงรอ
จบสิ้นแล้วแล้วไปรักต้องจบ
ก่อรักรบรบรักสิ้นแรงก่อ
คลอเคียงคู่คู่กันไม่อยากคลอ
คอยเตือนตนพอพอเลิกคิดคอย
18 มกราคม 2551 18:26 น.
โอเลี้ยง
ใจคอยร่ำจำคำร้องจองคิดรัก
จิตเหมือนเพ้อเจ้อมิพักจักมัวพร่ำ
ลุ่มหลงคลอรอหลงคอยร้อยหลงคำ
เคลิ้มละเลยเคยร้องร่ำคร่ำรักร้าง
ลืมเคยเศร้าเล่าความโศกโรคครวญสร้อย
ลืมหน้าหม่นล้นหน้าม่อยรอยหน้าหมาง
ลืมเขาแคลงแรงคำค่อนร้อนครวญคราง
ยังวุ่นหวังยังวุ่นวางย่างวันวาน
เมื่อมีรักมักมีรามามุ่งหลอน
รักคอยสร้างร้างคอยสอนรอนคอยสาน
รสรักทุกข์รุกรานท่วมร่วมรับทาน
ให้ครวญครางห่างคำค้านหาญเคียงคลอ
ทุกที่รักทักท้วงเราเท่าที่รู้
รักคึกคักรักคล้ายครูรู้ไขข้อ
คิดถลำคลำถลาคาค้างรอ
อาจต้องตรมอมตรอมต่อออแต่ตรม
17 มกราคม 2551 01:30 น.
โอเลี้ยง
ลมไหวไหวไล้หวาดวุ่นใจเวิ้งหวั่น
มองจันทร์หม่นหม่นจนหมองละห้อยหา
คล้ายคลอคลอครวญคร่ำครางข้างเหว่ว้า
หยดน้ำตาหยดหนาหนาตกเร็วพลัน
ลมพัดพัดเร่งเพ้อพ้อลอยเกาะแน่น
ทุกข์ถมแทนแทนท่วมท้นล้นใจสั่น
เมฆหม่นหม่นมามุงมิดปิดตะวัน
พาใจพรั่นพรั่นจิตพุ่งกระเจิงลี้
ฝนพลิ้วพลิ้วฝนพัดพร่างละอองสวย
จิตรวยรวยใจรุมรุ่มมิหลีกหนี
ปวดปร่าปร่าปั่นป่วนเปล่าหลายนาที
คิดหนีหนีคลายเหนื่อยหน่ายรสระทม
เพลงเพราะเพราะพลิ้วผลักพลันดันเหงาหงอย
นั่งนิ่งหน่อยนึกนึกนานคลายขื่นขม
เพลงพลิ้วพลิ้วพลันพลุกพล่านครอบอารมณ์
ใจตรอมตรอมจมติดตามพัวพันเพลง
16 มกราคม 2551 00:23 น.
โอเลี้ยง
ดึกคืนหนึ่งคืนนั้นยากเห็นหน้า
ทั่วฟ้ามัวฟ้าหม่นพาใจหมอง
ฉันนั่งนึกนั่งนิ่งไร้คะนอง
ปากอ่านท่องอ่านทวนพลางมองทาง
ฟ้าคล้ำมืดคล้ำมัวสีหมึกหม่น
ใจกระเสือกกระสนวุ่นมิสร่าง
กลอนที่ร่ายที่เรียงเริ่มเลือนราง
ใจเริ่มจืดเริ่มจางเหมือนจ่อมจม
สายลมเย็นลมเยือกผิวยิ่งเยียบ
ยากเทียบบ่งเทียบบอกลมที่บ่ม
เงาประชิดประชันเข้ามาชม
ฉันแทบล้มแทบหลับทรุดข้างรั้ว
เงาที่เกยที่กรายมายืนก๋า
พูดด้วยหาด้วยห่วงแล้วลูบหัว
หนูนั่งรอนั่งรนสั่นระรัว
หรือหวั่นกลัวหวั่นเกรงมีใครกราย
ลุงมาตามมาเตือนไปขึ้นตึก
ด้วยดึกนักดึกหนาอย่าเบื่อหน่าย
ไฟก็วูบก็วาบดูวุ่นวาย
อาจมีคนมีคล้ายคนร้ายคอย
ลุงเดินคลอเดินเคียงขนานข้าง
ฉันเดินย่างเดินหยิบเศษเงินย่อย
ให้ด้วยคิดด้วยคุณที่ลุงคอย
ยามเหม่อลอยเหม่อลืมเลือนเวลา