1 มีนาคม 2550 20:47 น.
โนริโกะ
รู้ไหมว่า คนที่มีความจริงจัง จริงใจ มักจะได้พบกับความเจ็บปวดเสมอ เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะว่าเขาจะไม่ค่อยคิดเผื่อใจไว้เพื่อรับกับความผิดหวัง
การเป็นคนที่จริงจังกับชีวิต จริงจังกับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามา และโดยเฉพาะเรื่องของความรัก เวลาที่อยู่ในห้วงของความรัก ก็ทุ่มเทให้กับคนที่ตนเองรัก จนทำให้เกิดความประมาท จนลืมเผื่อใจไว้สักนิดนึงว่า ถ้าหากเขาคนนั้นไม่ได้คิดจริงจังกับเราเหมือนที่เราคิดกับเขานั้น ผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร ความเจ็บปวดไงหล่ะ และก็จะเจ็บปวดมากกว่าคนทั่วไปด้วย
ถ้าเป็นคนที่จริงจังและจริงใจด้วยแล้วจะยิ่งอันตรายกับตัวเองมากขึ้น เพราะเวลาทำอะไรลงไปนั้นจะมีความคาดหวังในผลสำเร็จไว้สูง จะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา จนลืมนึกไปว่า ไม่มีใครที่จะทำอะไรประสบความสำเร็จทุกอย่างไม่มีใครจะเป็นผู้ชนะเสมอไป ทุกคนต้องรู้จักคำว่าแพ้บ้าง ถ้าเรารู้จักยอมรับกับความพ่ายแพ้ เผื่อใจไว้กับความผิดหวังบ้าง เมื่อเจอเหตุการณ์อะไรที่ไม่สมหวัง เราก็จะไม่เจ็บปวดมากนัก
การที่เป็นคนจริงจัง และจริงใจนั้นเป็นสิ่งที่ดีแต่ต้องไม่มากจนเกินไป ให้อยู่ในความพอดี ถ้าใครคิดว่าตนเองมีนิสัยแบบนี้ละก็ขอให้ระวังการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงาน การคบเพื่อน หรือโดยเฉพาะเมื่อคิดจะมีความรัก เพราะอย่าคิดว่าใครเขาจะเหมือนกับเรา เราให้ความจริงใจเขาไปและคิดว่าเขาคงจะมีความจริงใจตอบกลับมา แต่สุดท้ายอาจจะไม่ใช่ เราจะได้ไม่ต้องมานั่งคร่ำครวญเสียใจ จงทำใจยอมรับว่า เขาเป็นคนเช่นนั้นเองและเราคงเปลี่ยนเขาไม่ได้ จงยินดีที่เราได้มีโอกาสเรียนรู้คนหลายประเภท เพื่อเราจะได้ฉลาดในการเลือกคบคน ถ้าเรารู้จักแต่คนประเภทเดียว คบเฉพาะคนที่นิสัยเหมือนเราเท่านั้น เราก็จะเสียเปรียบไม่รู้เท่าทันคนอื่น ถูกหลอกได้ง่าย
ถ้าเราได้เรียนรู้นิสัยของคนหลายประเภท จะทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าเราควรปฏิบัติตนเอย่างไรกับคนประเภทไหน จะได้ไม่จริงจัง หรือจริงใจมากเกินไปในการคบคน สุดท้ายก็จะได้ไม่ต้องเจ็บ....
28 กุมภาพันธ์ 2550 21:38 น.
โนริโกะ
หากว่าใครรู้สึกว่าในใจว้าวุ่น ไม่รู้จะไปทางไหนดี คิดอะไรไม่ออก แก้ปัญหาไม่ได้ จงอย่าตกใจ เพราะว่าฉันก็เคยเป็นแบบคุณมาก่อน !!!
เรื่องของฉันก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของความรัก ที่หาคำตอบให้กับตนเองไม่ได้ ถึงแม้ว่าฉันจะแก้ปัญหาโดยการไปคุยกับเพื่อน ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่การอยู่คนเดียวกับตัวเองซึ่งอย่างหลังนี้ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ อย่างที่เขาพูดกันว่า อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับมิตรระวังวาจา เพราะความคิดของฉันมันยิ่งฟุ้งซ่านมากขึ้นกว่าเดิม และฉันก็ยังไม่รู้สึกว่าดีขึ้นเท่าที่ควรจะเป็น เพราะฉันรู้ว่าคำตอบที่ฉันได้รับนั้น มันไม่สามารถทำให้ฉันเชื่อถือได้มากพอ
จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันได้อ่านหนังสือเรื่อง หาเหตุผลให้ความรัก ฉันจึงได้รู้ว่าฉันใกล้จะได้พบกับแสงสว่างแล้ว ใกล้จะพบกับคำตอบที่ฉันคอยตามหาอยู่ พอเปิดอ่านหน้าแรกก็อยากจะอ่านหน้าต่อไปเรื่อย ๆ อยากจะรู้เรื่องราวว่าบทสุดท้ายจะเป็นอย่างไร หนังสือเล่มนี้ได้พูดถึงเรื่องราวของความรักตั้งแต่เริ่มต้น จนกระทั่งต้องจบลงด้วยความเจ็บปวด และก็คงจะมีไม่น้อยที่เมื่อพบกับความผิดหวังจะมองความรักในแง่ลบ (ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่มองความรักในแง่ลบ) ทุกเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้จะมีเหตุผลประกอบที่ทำให้ฉันเชื่อถือได้ และบทสุดท้ายก็บอกว่าเราสามารถมีความรักครั้งใหม่ได้เสมอ เราสามารถเริ่มต้นทุกอย่างขึ้นมาใหม่ได้ รักได้แต่ต้องรักอย่างฉลาด
สิ่งหนึ่งที่ฉันได้จากหนังสือเล่มนี้คือแง่คิดดี ๆ อย่างเช่น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความทุกข์ ความรัก ทรัพย์สินเงินทอง ฯลฯ แง่คิดนี้สามารถใช้ได้กับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา เพราะได้สอนให้เรารู้จักกับความไม่แน่นอน ความไม่เที่ยง ไม่ควรไปยึดติดยึดมั่นสิ่งใด หรือแม้กระทั่งยึดมั่นในตัวตนดังที่ท่านพุทธทาสภิกขุกล่าวไว้ว่า ไม่ควรยึดมั่นว่าตัวกูเป็นของกู หรือแม้กระทั่งเมื่อเรามีความทุกข์ มันก็จะแสดงออกทางสีหน้าที่เศร้าหมอง ให้เราลองฝืนยิ้ม หัวเราะให้มีความสุข ถ้าเราฝึกไปเรื่อย ๆ เราก็จะเกิดความชำนาญจนในที่สุดเราก็จะมีความสุขโดยที่ไม่ต้องฝืนแกล้งทำ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่ชอบแต่เมื่อเราฝึกฝนเราก็เก่งขึ้นได้ การยิ้มและหัวเราะถ้าเราไม่ได้ใช้ถือว่าน่าเสียดายมาก ๆ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์โลกชนิดเดียวที่สามารถยิ้มและหัวเราะได้ ลองนึกดูซิถ้าเราไม่ใช่มัน มันน่าเสียดายขนาดไหน
หวังว่าสิ่งที่ฉันนำมาเล่าสู่กันอ่านในวันนี้คงพอมีประโยชน์ช่วยให้คนที่พบเจอปัญหาเหมือนฉันได้เห็นแสงสว่างบ้างไม่มากก็น้อย และถ้าฉันได้พบเจอเรื่องราวดี ๆ แบบนี้อีก ฉันก็จะนำมาถ่ายทอดให้ได้รับรู้กันอย่างแน่นอน.....
28 กุมภาพันธ์ 2550 21:32 น.
โนริโกะ
ใครบางคนเคยบอกว่า เวลาที่เราได้คบกับใครสักคนหนึ่งไปสักระยะเราก็มักจะมีความเห็นที่ไม่ลงรอยกัน หนทางแก้ปัญหาอย่างหนึ่งก็คือการแยกกันอยู่สักพักเพื่อให้ต่างคนต่างกลับไปทบทวนหัวใจตนเองว่าคนคนนี้ใช่สำหรับเราหรือเปล่า...
สำหรับฉันเวลานี้คงเป็นเวลาที่ฉันได้กลับมาทบทวนหัวใจตัวเองว่าเธอคือคนที่ใช่สำหรับฉันไหม และเป็นเวลาหลายเดือนแล้วสินะที่เราไม่เคยพูดคุยกันเลยนอกจากพูดเรื่องงาน ซึ่งเวลาทำให้ฉันได้รู้ว่าฉันไม่ได้มีความสำคัญสำหรับเธอเลย และฉันก็ได้คิดทบทวนแล้วว่าตลอดเวลาที่คบกับเธอนั้นคำพูดกับการกระทำของเธอมันต่างกันมากจนฉันรู้สึกได้ เธอไม่เคยให้เกียรติคนที่เธอคบด้วย การให้เกียรติคือการแสดงให้รู้ว่าเธอให้ความสนใจผู้หญิงคนนี้นะไม่ใช่ต้องคอยปิดปังกลัวใครจะรู้ว่าสนใจผู้หญิงคนนี้อยู่ มันทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองมันน่ารังเกียจขนาดนี้เลยเหรอ หรือว่าเธอมีใครที่ซ่อนไว้และไม่อยากจะให้ใครคนนั้นเขารับรู้กันแน่ แต่ฉันก็ไม่อยากจะเป็นคนเริ่มต้นให้เราหยุดทุกสิ่งทุกอย่างไว้แค่นี้ ดีแล้วแหละที่เธอเป็นคนที่เริ่มต้นเสียเอง
เธออยากจะให้เรากับมาคบกันแบบเพื่อน เพื่อนกันจริง ๆ ไม่ใช่เป็นแฟนกัน ฉันคงทำไม่ได้เพราะความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอมันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าเพื่อนทำร้ายเพื่อน ยังพอจะยอมรับได้ แต่ถ้าคนคบกันทำร้ายกัน มันยากที่จะทำใจยอมรับได้ เธอให้เหตุผลแบบลิเกว่า ฉันดีเกินไป เธอเป็นคนไม่ดี ถ้าคบกันต่อไปเธอคงทำให้ฉันเสียใจมากขึ้น เหตุผลนี้ใคร ๆ เขาก็ใช้กัน แต่ฉันก็ยินดีทำตามที่ใจเธอต้องการ
จนมาวันนี้ เธอจะขอกลับมาคบกับฉันอีกคบกันแบบคนรักกัน ทำไมเธอถึงเปลี่ยนใจง่ายจัง เธอบอกว่าการที่ฉันไม่พูดกับเธอ ทำเฉยเมย ไม่สนใจ ใส่ใจเธอเหมือนเก่า มันทำให้เธอรู้สึกรักฉันมากขึ้นกว่าเดิม มันไม่ง่ายไปหน่อยหรือ แค่คำพูดของเธอแค่นี้ กับสิ่งที่เธอกระทำไว้กับฉัน เธอแน่ใจแล้วหรือที่พูดคำว่า รัก ออกมา มันมาจากใจเธอหรือเปล่าหรือมันเป็นเพราะตอนนี้เธอไม่มีใครหรือเธอต้องการเพียงแค่เอาชนะฉันเท่านั้น และมันคงไม่ผิดใช่ไหม ถ้าฉันไม่คิดจะเชื่อคำพูดของเธอ
เวลาเท่านั้นแหละที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอรู้สึก ฉันขอให้เธอได้กลับไปทบทวนหัวใจตัวเองดูบ้าง เหมือนที่ฉันได้ทบทวนหัวใจตัวเองแล้วว่า การกระทำของเธอไม่สามารถทำให้ฉันรับรู้ได้ว่าเธอคือคนที่ใช่สำหรับฉัน เรื่องราวของเรามันเกิดจากความเหงาเมื่อคนที่รู้สึกเหงาสองคนมาเจอกันก็เลยคิดว่านี้คือความรัก และฉันก็เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ความรักเริ่มต้นจากความเหงา ถ้าเป็นเช่นนั้นความรักของคุณก็อาจจบลงเหมือนกับฉันได้เช่นกัน นอกเสียจากว่าคุณทั้งสองคนจะสามารถประคับประคองความสัมพันธ์อันดี ๆ ไว้โดยอาศัยความเข้าใจในกันและกัน มีความจริงใจให้กัน ให้เกียรติ ยกย่องคนที่คุณรักแสดงให้เขาเห็นว่าเขามีความสำคัญสำหรับคุณไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ ถ้าเรามีความจริงใจไม่ต้องอายที่จะทำสิ่งดี ๆ ให้กับคนที่คุณรัก
ก่อนจะเอ่ยปากบอกรักกับใครนั้น ขอให้ทบทวนหัวใจความรู้สึกให้แน่ชัดเสียก่อน เพราะ เมื่อคุณบอกรักเขาไปแล้ว และถ้าวันหนึ่งมารู้ใจตัวเองและบอกกับเขาว่า ที่บอกว่ารักนั้น คิดว่ามันไม่ใช่ มันคือความหลงไปชั่ววูบ คิดดูแล้วกันว่าเขาคนนั้นจะรู้สึกเช่นไร.....อย่าโกรธเขาถ้าเขาไม่ยกโทษให้คุณ.....เพราะมันคงรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าจะยอมรับได้....
26 กุมภาพันธ์ 2550 22:24 น.
โนริโกะ
ไม่น่าเชื่อเลยว่าวันนี้ฉันจะมีความรู้สึกเช่นนี้ได้ ความรู้สึกไม่มีความเชื่อในเรื่องของความรัก เพราะสิ่งที่ฉันได้เผชิญหน้ากับมันนั้น มันรู้สึกหนัก เหนื่อย และท้อแท้อย่างบอกไม่ถูก เมื่อก่อนนั้น ฉันไม่เคยคิดที่จะรู้จักหรือเข้าไปใกล้ความรัก เพราะฉันกลัวที่จะต้องเจ็บปวด ผิดหวัง เสียใจ แต่เมื่อผ่านมาถึงช่วงอายุหนึ่ง ฉันกับรู้สึกโหยหาความรัก จากใครสักคนหนึ่ง แต่ก็ยังมีความกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่ เพื่อน ๆ และคนรอบข้างสนับสนุน เพราะคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ฉันควรจะมีใครสักคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต
ฉันได้ลองเข้าไปในวังวนของความรัก เริ่มต้นมันก็ดูดี รู้สึกอบอุ่น มีความสุขดีเหมือนคนอื่น ๆ ที่ฉันได้เห็นเมื่อเขาเป็นแฟนกัน แต่หลังจากนั้น ความทุกข์ก็เริ่มคืบคลานเข้ามาอย่างช้า ๆ และไม่ยอมที่จะจากไปได้ง่าย ๆ ฉันคิดว่า ความรักมันก็อย่างนี้แหละต้องมีอุปสรรคเข้ามาบ้าง ถ้าเราทั้งสองคนช่วยกันฟันฝ่ามันคงจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น
คำว่ารักจากเธอ มันไมได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นเลย เพราะคำพูดกับการกระทำของเธอมันต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่เธอคงไม่รู้ตัว เธอคิดว่า แค่เธอบอกว่ารักฉันคำเดียวปัญหาทุกอย่างมันคงจบลงไปได้ง่าย ๆ แต่มันไม่ง่ายเสมอไป มันกลับทำให้ปัญหาต่าง ๆ ตามมาอย่างมากมาย เหตุการณ์ขณะนี้ ฉันไม่อยากพูดว่าใครผิดใครถูก ฉันคิดว่าไม่มีใครผิดใครถูกในเรื่องของความรัก แต่อาจเป็นเพราะว่า เราไม่ได้เกิดมาคู่กัน ถ้าเราไม่จากกันวันนี้ สักวันเราก็คงต้องจากกันอยู่ดี แต่มันมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกเสียใจอย่างที่สุด กับคำว่ารักจากเธอ เพราะเธอบอกว่า เธอไม่ได้รู้สึกรักฉันอย่างที่พูดออกมา เธอคิดว่ามันเป็นความรัก ทั้งที่จริงแล้วมันเป็นแค่ความหลง เธอเคยคิดถึงความรู้สึกของฉันบ้างไหม ? ฉันเคยถามเธอ เธอบอกว่าเธอรัก และแคร์ฉัน แต่สิ่งที่เธอทำนั้น มันได้บอกทุกอย่างกับฉันอย่างชัดเจนแล้ว ฉันยอมรับว่า ฉันมันโง่ และบ้าไปเองกับคำพูดของเธอ เพราะคำว่ารัก เพราะฉันมันรักเธอไปแล้ว
แต่เธอคงไม่รู้ว่าฉันคนนี้ ไม่เคยอ้อนวอนขอร้องให้ใครมารักฉัน ให้ใครรักฉันเพราะความสงสาร สมเพชเวทนา ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าฉันมีศักดิ์ศรี มีความเข็มแข็งมากเพียงใด เธอจะรู้ว่าผู้หญิงเข็มแข็งกว่าผู้ชายอย่างเธอ วันนี้ฉันต้องเสียน้ำตาให้กับคนอย่างเธอ แต่วันหน้าเธอจะต้องเสียน้ำตาให้กับผู้หญิงอย่างฉันแน่นอน และฉันจะคอยดูวันนั้น วันที่เธอต้องทุกข์เพราะคำว่ารักจากปากของคนที่เธอรัก
ตอนนี้ฉันไม่เชื่อเรื่องความรักอีกแล้ว และจะไม่ยอมให้ตัวเองต้องเป็นอย่างเช่นวันนี้อีกแล้ว แม้จะมีใครบอกว่ารักฉัน ฉันก็จะไม่เชื่อคำพูดนั้นอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้หัวใจฉันมันได้แตกสลายไปแล้ว เพราะเธอคนนั้น คนที่บอกว่ารักฉัน คนที่ฉันรัก คนที่เหยียบย้ำหัวใจฉันจนมันแหลกสลายไม่มีชิ้นดี...