22 เมษายน 2552 15:19 น.
โนริโกะ
..........ความรัก....ที่ใคร ๆ ก็อยากมีอยากได้ เพราะคิดว่า...ถ้ามีแล้วจะมีความสุข แต่ไม่รู้เลยว่า เราจะมีความสุขเพราะความรักได้นั้น เราต้องรู้จัก "รัก" ให้เป็น ไม่เช่นนั้น เราก็จะโทษว่า "รัก" ทำร้ายเรา เพราะรักเราจึงทุกข์
.........คงไม่มีใครปฏิเสธว่า เริ่มรัก เราจะพบว่า "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีสุข" ระหว่างรัก "ที่ใดมีรักที่นั่นมีสุข และทุกข์" เมื่อเริ่มหมดรัก "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์" เราจะเห็นได้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ของความรัก ไม่มีอะไรที่จะคงอยู่ ไม่ว่าจะสุข หรือ ทุกข์ สังเกตได้ว่าความสุขหรือความทุกข์ ที่เกิดขึ้นกับเรามักมีเหตุมาจากสิ่งที่มากระทบอารมณ์และความรู้สึก ถ้าเราไปใส่ใจกับสิ่งที่มากระทบมาก เราก็จะรู้สึกว่าสุขมาก หรือทุกข์มาก แต่ถ้าเราเฉย ๆ รับรู้ว่าตอนนี้สุข หรือทุกข์อยู่ และยอมรับได้ว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้วไม่มีอะไรอยู่กับเราได้ตลอดไป
..........ฉันเคยถามคนอื่นว่าทำไมเวลาที่ฉันอยู่กับคนที่ฉันรัก ฉันถึงรู้สึกทุกข์ แต่เวลาที่ฉันลองห่างจากคนรัก สักระยะเวลาหนึ่ง ฉันกลับรู้สบายใจขึ้น จนคนรอบข้างทักว่าดูดีขึ้น (ทั้งที่เขาไม่รู้ว่าฉันเริ่มห่างจากคนรัก) แต่ตอนนี้ฉันมีคำตอบให้กับตัวเองแล้วว่า เพราะฉันเอาใจไปอยู่ที่เขามากไป ไม่ว่าเขาจะทำอะไร อยู่ที่ไหน อยู่กับใคร คิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร จนลืมเอาใจมาอยู่ที่ตัวเอง (หรือเรียกว่า มีสติอยู่กับตัวก็ได้) แต่เมื่อเราเริ่มกับมาอยู่กับตัวเอง สนใจตัวเอง เลิกสนใจเขา ฉันกลับมีความรู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย ไม่รู้สึกอึดอัด แน่นหน้าอกเหมือนเมื่อก่อน
..........บางครั้ง เราต้องกลับมาอยู่กับตัวเองบ้าง เพราะยามคนเรามีความรัก ใจเรามักจะไปอยู่ที่เขาซะหมด จนไม่เหลือใจไว้ให้ตัวเองบ้างเลย อย่างที่เคยได้ว่าประโยคที่ว่า รักล้นใจ รักหมดใจ รักเกินเผื่อใจ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายทีเดียว ถ้าคนที่เรารัก เขาไม่ได้รักเราขนาดนั้น
...........คนที่ช้ำ ก็คงไม่พ้นเราอีกนั่นแหละ ดังนั่นหากคิดจะรักก็ขอให้รักอย่างมีสติ อย่าทุ่มสุดตัวหมดหัวใจ เผื่อใจไว้บ้างว่า ไม่มีอะไรที่จะอยู่กับเราตลอดไป คนเรามาพบกันก็เพื่อจาก จะเร็วหรือช้า ก็แล้วแต่บุญกรรมที่ทำด้วยกันมา อย่าไปยึดติดมันมาก......ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยู่ในวังวนของ "ความรัก"
24 ตุลาคม 2550 13:31 น.
โนริโกะ
**********ถึงแม้ว่า เราอาจจะเขียนเรื่องราวของความรักมามากมาย แต่อย่าคิดว่าเรามีความเชี่ยวชาญนะ จริง ๆ แล้วแค่อยากถ่ายทอดแง่มุมต่าง ๆ ที่เราได้เคยประสบพบเจอหรือเรื่องราวจากปากคำของคนรอบตัวเท่านั้นเอง เพื่อว่าหากใครที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ จะได้เตรียมตัวรับสถานการณ์หรือปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันถ่วงที อย่างน้อยก็มีสติไม่คิดทำร้ายตัวเอง ให้พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนที่รักเราเสียใจ
**********คุณเคยคิดไหมว่า เมื่อเราเริ่มคบกับใครสักคน และเมื่อต้องเลิกกัน กับคนนี้เราลืมได้ง่าย แต่กลับอีกคน เราถึงลืมได้ยาก และเราก็มักจะระบายกับเพื่อนว่า ชีวิตนี้เราขาดเขาไม่ได้ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะเขาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เขาโทรมาหาเราทุกวัน เวลาเดิม ค่อยเอาหน้ามาให้เราดู ไม่มีธุระอะไรก็เสนอหน้ามาให้เห็น ยามเราทุกข์ก็มีเขาอยู่ข้าง ๆ ค่อยรับฟังปัญหา ให้คำปรึกษา คอยเป็นกำลังใจ หรือมาชวนเราทะเลาะได้ทุกวัน สิ่งเหล่านี้สุดท้ายก็กลายเป็นความผูกพัน ถึงแม้ตอนแรกเราอาจจะรำคาญ แต่พอนาน ๆ เข้าก็กลายเป็นความเคยชิน บางวันไม่ได้เจอกัน ไม่ได้ทะเลาะกัน ก็รู้สึกหงุดหงิด คุณเคยมีอาการแบบนี้บ้างหรือไม่ เมื่อแรกคบกัน
**********เราเคยถามเพื่อนผู้ชายว่า จีบผู้หญิงนี่ยากไหม เพื่อนมันบอกว่าไม่ยากเลย ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้หญิงจีบผู้ชายหรือผู้ชายจีบผู้หญิง ใช้วิธีเดียวกันคือ การที่เราทำตัวให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาเท่านั้น พอถึงเวลาเขาก็จะขาดเราไม่ได้ เมื่อเราได้ฟังอย่างนี้แล้ว ก็กลับมาคิดว่า น่าจะจริงอย่างที่มันบอก เมื่อเขาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราแล้ว มันก็กลายเป็นความเคยชิน พอเขาหายไปก็คิดถึง นึกถึงแต่เขา เขาเคยโทรมาเวลานี้ ก็จะคอยรอเวลา ว่าเขาจะโทรมาไหม เขาทำอะไรอยู่ อยู่กับใคร เกิดความทุกข์ในใจ ไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่าจะได้คำตอบหรือจนกว่าจะสงบจิตใจตัวเองให้ได้เท่านั้น
**********พอเวลาเลิกกันไปแล้ว มันก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร ที่จะต้องตัดบางอย่างที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราออกไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ ซึ่งสรุปไม่ได้ ที่พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพราะว่า อยากให้คนที่กำลังมีแฟน และเพิ่งเริ่มคบกันใช้เวลาดูใจกันให้นานนิดนึงอย่าเพิ่งทุ่มเทใจ หรือจริงจังมากเกินไป และอย่าคิดเอาตัวเข้าแลก คืออย่าให้ทั้งตัวและหัวใจไปทั้งหมด เพราะถ้าเขาไม่เห็นคุณค่าในตัวเรา ต่อให้ทุ่มเทกายถวายชีวิตเขาก็ไม่สน จิตใจของคนมันดูยากนะ ฉะนั้น ถ้ารักก็ขอให้รักอย่างมีสติ มิใช่รักอย่างหัวปักหัวปำ
26 สิงหาคม 2550 13:11 น.
โนริโกะ
...........คุณเคยเป็นอย่างฉันบ้างหรือเปล่า ทำไมเวลาที่เราคิดถึงคนที่ทำให้เราต้องเจ็บ มันยิ่งเป็นการตอกย้ำความรู้สึกที่แสนเจ็บปวดให้มันมากขึ้นทุกที
..........เพราะว่าฉันคิดเสมอว่าเป็นเพราะเขา เขาเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เพราะฉันโทษคนอื่นเสมอ ฉันไม่รู้จักคำว่าให้อภัย คนที่ทำร้ายจิตใจของเรา
..........วันนี้ฉันได้กลับมาคิดอีกแง่มุมหนึ่ง ตั้งแต่ฉันกับเขาคบกันมา ฉันพยายามจะประคับประคองความรักของเราให้มันยืดยาวออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ฉันไม่อยากจะพบความรักหลายครั้ง ฉันอยากให้การตัดสินใจครั้งนี้ของฉันเป็นรักแท้ของฉัน แต่เมื่อมันไม่เป็นเช่นนั้น ฉันจึงรู้สึกเสียใจมาก ฉันคาดหวังมากเกินไป ไม่เคยคิดเผยใจไว้สำหรับความผิดหวังเลย
..........สิ่งที่ฉันทำมาตลอดระหว่างที่เราคบกันก็คือ เปลี่ยนตัวเองให้เขาพอใจ เอาใจเขาทุกอย่าง เพราะกลัวเขาไม่รัก กลัวเสียเขาไป ทั้งที่ตลอดเวลาฉันก็รู้สึกอึดอัด แล้วไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก โดยฉันไม่รู้เลยว่าเป็นเพราะอะไร
..........และเมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้งระหว่างฉันกับเพื่อน เพื่อนที่ฉันคบมานาน ทั้งที่นิสัยหลาย ๆ อย่างของเราเข้ากันไม่ได้เลย แต่ที่เราสามารถคบกันมานานเพราะฉันพยายามยอมรับนิสัยของเขา จนมาถึงวันนี้ฉันก็มาคิดทบทวนว่า ทำไมฉันต้องแบกรับความทุกข์ เวลาที่ฉันกับเพื่อนไม่เข้าใจกันทุกครั้ง ฉันจึงตัดสินใจที่จะไม่ตามความคิดของเพื่อนอีกแล้ว ตอนแรกฉันอาจรู้สึกว่าตัวเองทำผิดไป แต่เมื่อคิดให้
ดีดีแล้ว ฉันคิดว่าฉันควรยอมรับความรู้สึกตัวเอง ยอมรับการตัดสินใจของตัวเองดีกว่า อย่าไปพยายามเปลี่ยนตัวเองให้มันมากจนตัวเองรู้สึกต้องแบกรับความรู้สึกของคนอื่น ๆ ไว้ และทำให้ตัวเองรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้
..........และมันทำให้ฉันรู้ว่า ฉันไม่ควรโทษเขาคนนั้นฝ่ายเดียว แต่เป็นเพราะฉันเปลี่ยนตัวเองเพื่อเขามากไปนั่นเอง มันจึงทำให้ฉันแสดงอะไรออกมาที่เป็นตัวของตัวเอง จนเขาก็คงรู้สึกรับมันไม่ได้ เพราะเวลาที่คบกันมันเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า อนาคตของเราทั้งสองคนมันจะไปทิศทางไหน จะคบกันต่อไป หรือจบกันแค่นี้
..........เมื่อฉันคิดแบบนี้ได้ ฉันก็เริ่มรู้จักปล่อยวางความรู้สึกที่ยึดไว้ คือ โกรธ เกลียด เครียดแค้น อาฆาต พยายาท ฉันหวังว่าสักวันหนึ่งฉันจะให้อภัยเขาได้จนหมดหัวใจ....
18 สิงหาคม 2550 17:31 น.
โนริโกะ
..........ถึงพี่สาว...ที่แสนดี ฉันไม่เคยคิดเลยว่าพี่จะต้องมาประสบกับเหตุการณ์ที่เหมือนกับฉัน เหตุการณ์ที่พี่เคยเป็นที่ปรึกษายามที่ฉันหาทางออกไม่ได้ พี่เคยอยู่เคียงข้างฉันเสมอ พี่คอยปลอบยามฉันท้อใจ และเมื่อเวลาผ่านไป ฉันสามารถผ่านเหตุการณ์นั้นไปได้แล้ว แต่พี่กลับมาเจอเหตุการณ์เดียวกับฉัน
..........ฉันอยากจะช่วยพี่หาทางออกให้ได้ ทางออกที่ฉันเคยเลือกเดิน เคยลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง ฉันก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร จะอธิบายอย่างไร ฉันเข้าใจเพราะฉันก็เคยเป็นพี่ ฉันรู้ว่าทางออกที่คนอื่นแนะนำนั้น เรารับฟัง แต่จะสามารถปฏิบัติได้หรือไม่นั้น จะขึ้นอยูที่ตัวของเราเอง
..........ฉันหวังว่าวันหนึ่งพี่จะค้นพบทางออกของชีวิตด้วยตัวของพี่เอง ฉันอาจจะช่วยแนะทางเลือกให้พี่เลือกปฏิบัติ แต่พี่จะเลือกหรือไม่นั้น อยู่ที่การตัดสินใจของพี่เอง พี่อาจมีทางออกสำหรับพี่แล้วก็ได้ แต่ฉันหวังว่าทางออกที่พี่เลือกนั้น จะทำให้พี่ค้นพบความจริงในชีวิตที่จะเป็นหนทางนำพี่ไปสู่จุดหมาย คือ ความสุขใจของพี่เอง
จากน้องคนนี้ที่รักพี่เสมอ
18 สิงหาคม 2550 17:29 น.
โนริโกะ
..........ถึงแม้ว่าฉันจะใช้คำแทนเธอว่า เพื่อน เธอก็อย่าน้อยใจนะ เพราะสำหรับฉัน เธอคือเพื่อนที่ฉันรัก เพื่อนที่ดีที่สุด เพราะยามที่ฉันท้อแท้ หมดหวัง หมดกำลังใจ เธอคือคนที่ช่วยสร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาให้ฉัน
..........ในชีวิตคนเรา ต้องอยู่ในสังคมที่หลากหลาย แตกต่างกันไป เพื่อนที่อยู่ในสังคมก็มีความแตกต่าง บางคนเราก็สามารถเข้าถึงเขาได้ มีความคิดคล้ายกัน แต่บางคนเราก็ไม่สามารถที่จะพูดคุยกันได้ เพราะพูดอะไรก็ขัดกันทุกเรื่อง บางสังคมฉันก็กลายเป็นคนที่ไม่สามารถเข้าพวกได้เลย จนทำให้ฉันรู้สึกท้อ แต่บางสัมคมฉันก็สามารถเข้าพวกได้ง่ายดาย
..........แต่เมื่อใดฉันไม่สามารถเข้าพวกได้ ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองต้องมีปัญหา อาจทำตัวไม่ดีหรือทำอะไรผิดแน่ ๆ แต่ เพื่อน คนนี้กลับคอยให้กำลังใจฉัน เธอบอกกับฉันว่า เธอเป็นคนแบบนี้ดีแล้ว เธอมีความจริงใจให้เพื่อน ๆ เธอแคร์เพื่อน ห่วงใยความรู้สึกของเขา ถ้าเขาไม่อยากมีเพื่อนดีดีแบบเธอ เธอก็ปล่อยเขาไป แล้วสักวันหนึ่งเขาจะรู้เองว่า เขาจะหาเพื่อนที่จริงใจ แบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะในสังคมนี้ คนที่อยู่ได้ต้องเป็นคนที่ไม่แคร์ผู้อื่น เพราะเมื่อเราเข้าไปอยู่ในสังคมแบบนี้ เราก็ต้องปรับตัวให้เห็นแก่ตัวแบบเขา ถึงจะเข้าพวกได้ เธออย่ามาน้อยใจเลยว่า เธอปรับตตัวเป็นแบบเขาไม่ได้ คน ๆ เดียวไม่สามารถเปลี่ยนสังคมได้หรอก จงรักษาความเป็นตัวของตัวเองไว้ เพราะในสังคมทุกวันนี้ คนดีน้อยลงไปทุกที
..........ขอบคุณมากนะ เพื่อน สำหรับคำแนะนำ ฉันจะอดทน และเข้มแข็งให้มากกว่านี้ ฉันจะต้องอยู่ในสังคม ในโลกใบนี้ให้ได้ และฉันจะไม่ยอมสูญเสียตัวตนแบบที่ฉันเป็น.........