4 มิถุนายน 2547 00:43 น.
โชค ปวีณา
ในวันที่ฝนตก
ผมตื่นขึ้นมาในตอนสายของวันหนึ่ง สายแล้วโชคดีที่ผมไม่มีเรียนในวันนี้ นี่ก็เก้าโมงเช้าแล้ว มันยังมืดอยู่ ใช่มันมืดเพราะฝนตก ตกปรอยๆและสม่ำเสมอ ผมลุกขึ้นจากเตียง เดินเซเหมือนละเมอไปหยิบกล่องใส่ซีดีสีน้ำเงินที่วางอยู่บนชั้นใกล้ๆกับหนังสือ หยิบซีดีแผนหนึ่งขึ้นมา มันเป็นเพลงประกอบภาพยนต์เกาหลีเรื่องหนึ่งที่ผมประทับใจ เลือก Track ที่ 6 มันน่าจะเข้ากับบรรยากาศตอนนี้ ผมใส่มันลงในเครื่องเล่นซีดีเก่าใกล้พัง มันเป็นเพื่อนที่ดีในทุกเวลา ผมจะไม่โมโหมันตอนมันไม่อ่านแผ่นอีกแล้ว บางทีมันก็คงเหนื่อย...ผมเดินไปที่ข้างหน้าต่าง เปิดม่านออก ละอองฝนปลิวมา มันช่างเย็นชื่นใจ ผมยืนรับละอองฝนอยู่ขณะหนึ่ง
อย่าให้ผมเลือกเลยว่าผมชอบฤดูไหน หรือไม่ปราถนาฤดูไหนเป็นที่สุด ถ้าเป็นเช่นนั้นฤดูฝนที่น่าสงสารคงเศร้าและน้อยใจ ผมมักจะเหงาตอนฝนตก ผมเป็นเด็กฝนทำให้ผมไปวิ่งเล่นข้างนอกไม่ได้ พอผมโตขึ้น
ฝนก็ทำให้ผมต้องหยุด หยุดมองดูสายฝน ... หยุดทุกอย่างก็เลยทำให้มีเวลาว่างพอที่จะคิดไปเรื่อยเปื่อย แล้วผมจะเหงาอย่างสุดขั้วฝนคือน้ำตา ฝนคือความเศร้า โธ่เอ๋ยผมช่างน่าสงสารนัก
บางทีการที่ผมยืนมองสายฝน ยอมให้ละอองฝนได้สัมผัสตัวเสียบ้าง ผมรู้สึกอะไรบางอย่างที่แปลกไป โธ่เอ๋ยฝนสิ..น่าสงสารกว่า ผมไม่เคยเข้าใจฝนเลย ฝนคงรู้ว่าผมกำลังร้อนรน ฝนมาหาผมเมื่อไหร่ไม่รู้
ผมหลับไป ฝนอาจมาพัดความเย็นฉ่ำให้ผมนอนหลับสนิท ไม่ต้องกังวลกับอากาศที่ร้อน จะได้ฝันถึงคนๆนั้นนานๆ ฝนคงรู้ว่าผมร้อนรนเรื่องคนๆนั้น ละอองฝนคงไม่อยากให้ผมเป็นอย่างนั้น ถ้าร้อนนักก็สัมผัสละออง
ฝนเย็นฉ่ำก็คงหาย ฝนเจ้าคงอยากปลอบผม แล้วอย่างนี้ผมจะยังเกลียดฝนได้ลงคออีกหรือ ขอโทษนะ.ฝนเจ้าได้ยินหรือเปล่า ข้าจะไม่ตำหนิการมาของเจ้าอีกเลย
ถึงตอนนี้เจ้าก็ยังไม่ไปไหน เจ้าไม่ต้องตำหนิตัวเองหรอกผมจะไม่ตากฝนนานๆให้เป็นหวัด เดี๋ยวก่อนผมยังมีเรื่องจะขอรบกวน คนๆนั้นยังคงมีเรื่องอะไรอยู่ในใจเช่นกัน เรื่องที่เธอไม่สามารถบอกผมได้
ผมไม่รู้ว่าเธอคิดมากเพียงไหน เพียงแค่ผมรู้สึกได้ทุกครั้งที่เราพบกัน วอนฝนช่วยทำเหมือนที่เจ้าช่วยทำให้ผม ผมไม่อยากให้เธอร้อนรนผมอยากให้เธอหลับสบาย หลับฝันดีแล้วเธออาจจะฝันถึงผมก็เป็นได้
แด่...แคทในอุดมคิ
โชค ปวีณา