"โอ้ว์....พระเจ้าช่วยกล้วยทอด" อย่าเพิ่ง งง ค่ะอย่าเพิ่ง งง ฉันอุทานให้กับความสะเพร่าของตัวเองที่ นั่งเขียนเรื่องสั้นไปได้หลายบรรทัดแล้วแต่มือดันเผลอไปกดลบแทนที่จะกด เซฟ เง้อ...โก๊ะอีกแล้วเรา จูนอารมณ์แป๊บหนึ่งนะคะ ไม่รู้จะเขียนออกมาได้ดีเหมือนในรอบแรกหรือเปล่า ความจริงต้องเรียกว่าพิมพ์มากกว่าเนาะ เริ่มคิดถึงกระดาษกับปากกา ดินสอ ยางลบ ขึ้นมาตะหงิดๆ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนนะเนี่ย เอาเป็นว่าเราข้ามเหตุการณ์ระหว่างเดินทางไปแล้วกันนะคะ หลับตาไปด้วยกันและพอลืมตาขึ้นมาเราก็มาอยู่ที่ แผนก แปรงสีฟันกันเลยดีกว่า...อิอิ ปกติฉันจะซื้อแต่ที่เคยใช้เป็นประจำไม่ค่อยอยากลองของใหม่สักเท่าไหร่ เพราะกลัวจะไม่ถูกใจ แปลกเนาะแล้วจะรู้ได้ไงว่าแบบไหนดีกว่ากัน ถ้ายังยึดติดแต่ของเดิมอยู่ วันนี้ก็เลยเริ่มกวาดสายตาไปเรื่อย มองหาแปรงที่จะพอสะดุดตาคู่นี้ได้บ้าง ก็บังเอิญเหลือบไปเห็น แปรงสีฟันที่แขวนอยู่ชั้นล่างสุด เพราะสะดุดตาว่า ยี่ห้อนี้ มีราคาประมาณนี้ด้วยเหรอ อืม...คิดแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบมาจับเล่นดู แม้สีสันจะไม่ผ่าน แต่พอสัมผัสแล้วก็รู้สึกชอบ แปรงขนาดมาตรฐาน ขนนุ่มปานกลาง เอาอันนี้แหละ แม้จะมีแค่สีเดียวหมดสิทธิ์เลือกสีที่ชอบก็เถอะ พอกลับถึงบ้านก็ได้เวลาเปิดซิงของใหม่... อิอิ แม้จะบ่ายแก่ๆก็เถอะ แต่เพราะอยากจะแน่ใจว่าคิดไม่ผิด จึงมิรอช้าแกะใช้ในบัดดล อืมมม....รู้สึกภูมิใจตัวเองอย่างประหลาด ที่เลิกยึดติดกับของเดิมๆ และไม่สนใจเรื่องราคา หรือ สีสันอีกแล้ว บางครั้งความประทับใจแรก ก็ไม่ใช่สิ่งที่เหมาะกับเราเสมอไป ถ้าบอกราคาคุณๆอาจจะเคยเห็นก็ได้นา แค่สิบบาทเอง ขนาดเบาบาง ขนก็ไม่นุ่มเกินไป ตรงกับมาตรฐานของฉันพอดี สีฟ้าก็ไม่ใช่น้ำเงินก็ไม่เชิง ด้ามแปรงก็ธรรมดา ขนแปรงก็ไม่ซิกแซกอย่างที่เห็นในโฆษณาตามทีวี แต่เป็นยี่ห้อเดียวกันกับยาสีฟันชื่อดังยี่ห้อหนึ่งล่ะคุณ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบแปรงที่ขนนุ่มเกินไปแม้จะเขียนว่านุ่มปานกลางก็เถอะ ลองหาสิ่งใหม่ๆดู ถึงแม้ว่าความประทับใจแรกจะเป็นศูนย์ แต่ถ้าคุณยังไม่ได้สัมผัสจริงๆก็อย่าเพิ่งเขวี้ยงโอกาสทิ้งนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่า "ความประทับใจแรก อาจไม่ใช่ความประทับใจสุดท้ายในชีวิต" (*o^_____________________^*o)