21 พฤษภาคม 2550 16:12 น.
โคลอน
เมื่อก่อนนี้ ท้องฟ้า แผ่นดิน และผืนน้ำ เป็นเพื่อนรักกัน
ทั้งสามอยู่ใกล้ชิดติดกัน จนกระทั่งโลกได้กำเนิดพืชและสัตว์ขึ้น
แผ่นดินและผืนน้ำก็มัวแต่ดูแลเอาใจใส่พืชและสัตว์
จนละเลยและไม่สนใจท้องฟ้า ท้องฟ้าก็เริ่มรู้สึกน้อยใจ
และถอยตัวห่างออกไป ห่างออกไปทุกที ทุกที
จนถึงวันที่มีนกตัวแรกออกโบยบิน
แผ่นดินและผืนน้ำจึงได้รู้ว่าท้องฟ้าได้จากไปไกลแสนไกล
แผ่นดินและผืนน้ำพยายามส่งเสียงเรียกท้องฟ้า
แต่ท้องฟ้าอยู่ไกลมากเลยไม่ได้ยิน
นกตัวนั้นจึงอาสาที่จะไปบอกกับท้องฟ้า
นกก็บินสูงขึ้น สูงขึ้น สูงขึ้น และส่งเสียงเรียก
แต่เสียงนกนั้นเบาเกินไป ไปไม่ถึงท้องฟ้า
แต่นกก็สัญญาว่า ต่อไปนี้นกทุกตัวจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
เพื่อนำข่าวจากแผ่นดินและผืนน้ำไปบอก
ผืนน้ำและแผ่นดินรู้สึกเศร้าใจที่เพื่อนได้ห่างออกไปไกล
และคิดถึงเพื่อนเหลือเกิน
ผืนน้ำพยายามที่จะม้วนตัวเป็นเกลียวคลื่นครั้งแล้วครั้งเล่า
แผ่นดินพยายามยกตัวสูงจนตั้งตระหง่าน แต่นั่นก็ยังสูงไม่พอ
ยังไม่ใกล้ท้องฟ้า
พระอาทิตย์ซึ่งเฝ้ามองดูเหตุการณ์มาโดยตลอด
ก็บอกกับทั้งสองว่า "เราอาจจะช่วยพวกเจ้าได้"
พระอาทิตย์จึงอาสาช่วย โดยการส่องแสงลงมายังผืนน้ำและแผ่นดิน
ทำให้ระเหยกลายเป็นไอ ลอยไปรวมตัวกันเป็นก้อนเมฆ
ลอยขึ้นไปบอกข่าวแก่ท้องฟ้า เล่าเรื่องราวต่างๆเป็นรูปตามที่
แผ่นดินและผืนน้ำได้พบเจอมา และบอกว่าแผ่นดินและผืนน้ำคิดถึงมาก
อยากให้ท้องฟ้าลงมาสนิทแนบชิดเหมือนเมื่อก่อน
ท้องฟ้าได้รับรู้เรื่องราว ก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็กลับลงไปไม่ได้
"ฉันกลับลงไปไม่ได้หรอก เพราะฉันเติบโตขึ้น และอยู่สูงเกินไป
ลงไปไม่ได้แล้ว ฉันได้แผ่ขยายตัวเองจนกว้างขวาง
ที่ฉันทำได้ก็เพียงแต่เฝ้ามองดูอยู่ไกลๆ
และโอบกอดแผ่นดินและผืนน้ำไว้อย่างอ่อนโยนเท่านั้น
และถึงแม้จะมีนกบินมาส่งข่าว แต่ฉันก็ยังคิดถึงแผ่นดินและผืนน้ำ
และอยากจะบอกกับทั้งสองว่า ฉันเองคิดถึงเพื่อนมากมายเพียงใด"
ก้อนเมฆก็ตอบว่า "อยู่บนนี้นานๆก็เหงาเหมือนกัน
บางทีก็อยากกลับลงไปข้างล่างบ้าง"
ท้องฟ้าเลยบอกว่า "ฉันก็เหงาเหมือนกัน แต่ว่าฉันกลับลงไปไม่ได้
แต่เจ้าลงไปได้นี่ ถ้าอย่างนั้นฉันจะส่งเจ้ากลับลงไป
และความคิดถึงของฉันก็หนักมากพอที่จะส่งพวกเจ้าลงไปหมดทั้งท้องฟ้า"
จากนั้นก้อนเมฆทั้งหมดก็รวมตัวกัน
และรวมเข้ากับความคิดถึงอันมากมายของท้องฟ้า แล้วตกลงมาเป็นหยาดฝน
ส่งผ่านความรัก ความคิดถึงมายังแผ่นดินและผืนน้ำ
จึงไม่แปลก ถ้าเมื่อใดที่ฝนตก แล้วเราจะรู้สึกคิดถึงคนที่เรารัก
คนที่เราผูกพัน และบางครั้ง ท้องฟ้าก็ส่งความเหงาลงมาด้วย
7 พฤษภาคม 2550 10:06 น.
โคลอน
"เราแสดงความสุภาพต่อผู้อื่น มิใช่เพราะมารยาทสังคม หากแต่เพราะเรามีคุณค่าพอที่จะทำสิ่งดีๆในชีวิต"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"ต้นหญ้าที่ถูกไฟป่าเผาผลาญ ผลิใบใหม่ออกมาเสมอเมื่อมีโอกาส เกิดเป็นคนกลัวอะไรกับอุปสรรค"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"อย่ากลัวความสมบูรณ์แบบเลย คุณไม่มีทางเข้าถึงมันหรอก"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"คุณค่าของคนเราไม่จำเป็นต้องเกิดจากการกระทำที่ยิ่งใหญ่เสมอไป"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"เวลาเป็นสิ่งที่ผ่านแล้วผ่านเลย แต่น่าแปลกที่หลายคนชอบใช้เวลาไปกับการดูเวลา"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"เมื่อท้องอิ่ม เรารู้สึกว่าต้องการอะไรจากโลกน้อยลง"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"วุฒิภาวะมิใช่ได้มาจากการใช้จ่ายเงินซื้อมา แต่มาจากการใช้จ่ายชีวิต"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"จงรู้เท่าทันความทุกข์ที่เกาะกินใจเรา"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"รู้ครึ่งๆ กลางๆ อันตรายกว่า ไม่รู้เลย"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"การน้อมรับคำวิจารณ์มิได้แปลว่าตนอ่อนแอหรือโง่เขลา ยาขมรสชาติไม่อร่อยลิ้น แต่รับรองว่าดีต่อเรามากกว่าน้ำตาล"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"ความรักก็เป็นเช่นงานศิลปะ มีค่าต่อเมื่อมีคนร่วมรับรู้"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"ธรรมชาติไม่เคยวิปริต มนุษย์ต่างห่างที่วิปริต"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"ความสงสารเป็นอาวุธอย่างหนึ่ง"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"ชีวิตก็เช่นดาวหาง มาวูบเดียว ไปวูบเดียว จะเติมเชื้อไฟให้ไฟฝันสว่างทั่วฟ้า แม้เพียงวูบเดียว หรือจะปล่อยให้มันดับไปโดยไม่เคยคิดจุดมัน ก็ขึ้นกับตัวเราเอง"
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
***ไว้ว่างๆถ้าเจออะไรดีๆอีกจะเอามาโพสที่กระทู้นี้อีกนะ.......หากใครเจออะไรดีๆไฉนเก็บไว้กับตัวจ๊ะ...มาแบ่งปันกันเถอะ***
(๑*^________________^*๑)