22 ตุลาคม 2551 14:20 น.
โคลอน
ปิ๊กมาอยู่ บ้านเฮา เหียเต๊อะอ้าย
คนไทยบ่ ใจ๋ฮ้าย กั๋นสักเตื้อ
ไปอยู่ไก๋ แล้วไผ จะคอยเฟือ
ยามตี้หยอด น้ำเกลื๋อ เจื้อน้องน่อย
อ้ายหนีไป ลอนดอน ก่อนานแล้ว
ปิ๊กมาแอ่ว บ้านพ่อง น้องง่อมหงอย
อยากเห็นหน้า อ้ายทัก คนตี้คอย
กลับมายื้อ มากอย กั๋นสักวัน
น้องจะไป ท่าฮับ ตี้บางกอก
แค่อ้ายบอก ว่าจะ บ่ะเหหัน
น้องจะได้ เตรียมตั๋ว ไว้หื้อตัน
จองรถหรู สักกัน แวะเกาะก(ร)ง
น้องฮู้ว่า อ้ายชอบ ถูกแม่นก่อ
ลองไปผ่อ สักน่อย เผื่อจะหลง
ในความงาม ตี้อาจ ลืมบ่ะลง
ณ เกาะก(ร)ง รออ้าย ย้ายกลับมา
14 ตุลาคม 2551 11:11 น.
โคลอน
เมื่อโลกนี้ไม่สวยแลหม่นหมอง
ชนทั้งผองมิคิดจะแปรเปลี่ยน
สร้างความสุขปรับทุกข์ที่วนเวียน
จิตจวนเจียนเสื่อมแล้วซึ่งศรัทธา
ไม่อยากเห็นโลกกว้างบนทางเปลี่ยว
ฤาขวางเมื่อน้ำเชี่ยวสาดเข้าหา
อยากจะอยู่นิ่งนิ่งมินำพา
ห้วงเวลาสับสนและวุ่นวาย
แต่จะเป็นไปได้อย่างไรนั่น
เมื่อใจนั้นยังเจ็บไม่จางหาย
ความทรงจำยังพร้อมแผ่กำจาย
ณ เวลาเดียวดายไร้ผู้คน
บ้านของเราใกล้แตกแล้วเพื่อนเอ๋ย
จะอยู่เฉยคิดถึงเหตุแลผล
ปล่อยผู้กล้าเหล่านั้นต้องผจญ
ความทุกข์ทนอีกนานสักเท่าไร
เมื่อผู้ใหญ่บ้านเมืองไม่สำนึก
ปัญหาจึงฝังลึกเกินจะไข
นี่น่ะหรือประชาธิปไตย
ฤาระบอบที่ใครออกแบบมา
เสียงข้างมากลากไปเล่นตามกฏ
แต่ใจคิดกบฎเออเอ็งกล้า
อีกไม่นานฟ้าจักชี้ชะตา
ความผิดทางอาญาข้าจักรอ(ดู)
7 ตุลาคม 2551 08:46 น.
โคลอน
แก๊สน้ำตาที่ยิงแต่ละลูก
จะให้ถูกก็คือเงินภาษี
แต่ท่านใช้เอามาเพื่อย่ำยี
ประชาชีวันนี้หรืออย่างไร
จะแถลงนโยบายสมานฉันท์
กลับห้ำหั่นกรุยทางน่าอายไหม
เมื่อไม่มีอีกแล้วความไว้ใจ
เจรจายังไงช่วยตอบที
ประชาชนมากมายท่านยังกล้า
มิอายฟ้าอายดินสิ้นศักดิ์ศรี
ฤาหุ่นเชิดแจ้งเกิดความอัปรีย์
เลยยอมพลีหมดสิ้นความเป็นคน
แก๊สน้ำตาที่ยิงแต่ละครั้ง
คนที่สั่งเคยคิดไหมสักหน
ว่าชนวนที่ก่อจราจล
หาใช่ประชาชนคนเดินดิน
พวกท่านลองตักน้ำใส่กะโหลก
แล้วชะโงกดูเงาอันปล้อนปลิ้น
นั่นแหละคนกลับกลอกเป็นอาจินต์
ชอบแลบลิ้นสองแฉกแลแหกตา
หากจริงใจใครเขาคงดูออก
นี่กลับกลอกจนเป็นตัวปัญหา
หากไม่รักแผ่นดินที่เกิดมา
เชิญไปอยู่ชายคาคนอื่นไป!
2 ตุลาคม 2551 15:21 น.
โคลอน
ฉันเห็นเธอเคลื่อนไหวในความเงียบ
เหมือนสายลมเย็นเยียบเมื่อสัมผัส
แม้มิอาจมองเห็นภาพแจ่มชัด
เพียงใบไม้ไกวกวัดก็รับรู้
อาจดูคล้ายเย็นชาทว่าอุ่น
เมื่อเริ่มคุ้นกับสิ่งที่เป็นอยู่
ความว่างเปล่าที่คอยหน้าประตู
แท้จริงมีเธออยู่ ณ ตรงนั้น
ยามใดความเงียบเหงาฤาหม่นหมอง
เข้ามาจองจับใจคนไหวหวั่น
คล้ายสายลมพัดผ่านคืนและวัน
ที่แสนเศร้าเหล่านั้นให้ห่างไกล
ฉันมิอาจเอื้อมมือไปไขว่คว้า
สายลมที่พัดมาอีกคราได้
คงจะดีแล้วล่ะบอกกับใจ
แค่รู้ว่ามีใครก็เพียงพอ