6 เมษายน 2548 23:10 น.
โกฏิดารา
กลอนสื่อใจใฝ่สมานอ่านเสนาะ
พริ้งไพเราะเหมาะค่าน่าจะเก่ง
มีผิดนิดน้อยหนึ่งอย่าพึงเกรง
ฝึกตนเองเพ่งแก้แง่พินิจ
สัมผัสซ้ำคำไม่ลงตรงวรรณยุกต์
ยังสนุกถ้าไม่สะกดผิด
เห็นเงื่อนงามล้ำค่าถ้าได้คิด
อย่าเฝ้าติดสระหลงเที่ยววงวน
ภาษาไทยใช้คำสำเร็จรูป?
คงจะต้องจุดธูปแผ่กุศล
รู้สรรค่าหาศัพท์ไม่อับจน
ใช่ทุกคนฉงนทางจะสร้างกลอน
ขออภัยใส่แรงอย่าแหนงเบื่อ
เพราะรักเจือจึงแนะแง่อักษร
รู้ปรับปรุงมุ่งหน้าเป็นอาภรณ์
มิตรอาทรเชิงกวีด้วยดีเอยฯ
5 เมษายน 2548 14:00 น.
โกฏิดารา
เสียงระเบิดกึกก้องกัมปนาท
ดั่งฟ้าฟาดใจไทยให้แตกสลาย
เคยร่มเย็นเช่นพี่น้องต้องกลับกลาย
มาบาดเจ็บล้มตายใครหนอทำ
อยู่สงบนานเนิ่นเกินจะเปรียบ
บัดหนามเสียบอกแทงแฝงกระหน่ำ
ทุกทุกศพไม่หายจากความจำ
ชาติระส่ำสะเทือนไหวให้รันทด
แค่ศึกภายนอกรุกอุกใจแล้ว
ศึกในแผ้วยิ่งย้ำแสนกำสรด
แม้นมีฤทธิ์สิทธิ์ขาดเป็นสัจพจน์
จะกำหนดผู้ร้ายไม่ตายดีฯ
5 เมษายน 2548 01:46 น.
โกฏิดารา
ฟ้าครวญคร่ำคำรามยามพายุ
แสงวิชชุปลาบเปรี้ยงเสียงกึกก้อง
ลมกรรโชกฝนซัดสาดอาจคะนอง
มืดมืดหมองท้องนภากลางหน้าร้อน
เมฆครึ้มหม่นมนมัวมิแจ่มแจ้ง
สุรีย์แสงลดราไปกว่าค่อน
เหมือนฟ้าเหงาเฝ้าครวญป่วนอาวรณ์
ผู้ม้วยมรณ์ดับสิ้นสู่ดินดาว