14 พฤศจิกายน 2546 04:49 น.
โกฏิดารา
*********************************
มณีงามนามเลิศประเสริฐค่า
ล้ำราคาสารพัดจัดเหมาะสม
นิลกาฬมุกดาดูน่าชม
ทับทิมคมมรกตสดสวยดี
พลอยไพลินน้ำบุษย์พิสุทธิ์แสน
ไม่เหมือนแม้นเพชรเลิศประเสริฐศรี
หากเพชรงามล้ำค่าปราศราคี
เพชรน้ำหนึ่งร้อยมีเพียงหนึ่งดวง
มนุษย์งามความดีที่ใจหวัง
เป็นพลังคุณเลิศประเสริฐสรวง
งามน้ำใจให้ผลชนทั้งปวง
หากเจ็บทรวงหน่วงใจให้รู้ทน
รู้กลืนกล้ำน้ำตาเวลาโศก
อภัยให้แก่โลกยามสับสน
ทั้งหมดล้วนสมบัติแห่งยอดชน
สักร้อยคนมีหนึ่งเท่านั้นเอง
********************************
10 พฤศจิกายน 2546 10:59 น.
โกฏิดารา
กลบททวาตรีประดับ
****************************************
แว่วเสียงแคนแค่นแค้นแดนอีสาน
เล่าตำนานเรื่องเรื้องเรืองศักดิ์ศรี
ผญาเก่าเกลาเกล้าชาวบุรี
ทาวท่าวท้าวผาแดงมีอดีตกาล
อีกไอ่คำค่ำค้ำหนองหารหลวง
นาคปองป่องป้องปวงประชาศานต์
หากภังคีฝั่นฟั่นฝันวิญญาณ
ได้ไอ่คำนงคราญมาเคียงครอง
จึงจำแลงแล่งแล้งแปลงกายิน
จากนาคินทร์ดุ่มดุ้มดุมสนอง
เป็นกระรอกดอนด่อน*ด้อนเมียงมอง
หากถูกคาฆ่าก้อง*ปันเนื้อกิน
ภังคีแค่นแค้นใจในความดับ
ได้สาปทับเทือเทื้อเทื่อชลสินธุ์
จุ่งนาครถล่มล่มล้มแผ่นดิน
เป็นวารินหนองหารกาลก่อนมา
นิยายเก่าเล่าความตามสำเนียก
เป็นความเรียกหนองหารนานหนักหนา
เมืองสกล-อุดรตรึกระลึกตรา
เรื่องบุราบุราณร่ำจำใส่ใจ
**********************************
*ด่อน คือสิ่งมีชีวิตที่มีสีขาวเผือก
*ก้อง เป็นภาษาอีสาน คือเชือดแบ่งกัน
10 พฤศจิกายน 2546 10:49 น.
โกฏิดารา
***********************************
ยามลับวันจันทรชะอ้อนว่า
หมู่ดาราพงางอนจรจากหาย
ไม่อยู่คู่คาบฟ้าข้าเดียวดาย
จะเหงาตายใยหนีมิมาเคียง
ดาริกาตอบว่าจันทราเอ๋ย
ไฉนเลยหลับเนตรวิเศษเลี่ยง
อันดวงดาวพราวพร้อยร้อยรายเรียง
รอแค่เพียงจันทร์ตื่นฟื้นมามอง
เมื่อจันทร์ฉายพรายแสงแข่งดาวน้อย
ดาวย่อมถอยแสงไปไม่ผยอง
หากจันทร์เจ้าเหงาใจใฝ่ดาวครอง
ขอจันทร์ลองลดแสงแห่งตนเอง
จันทร์ตอบถ้อยทำนองของดาเรศ
ว่าตนเป็นต้นเหตุดอกหรือนี่
ที่อยู่เดียวเปลี่ยวดายไร้ชีวี
เพราะตนนี้ข่มเขาไม่เอาใคร
จักมีวันที่จันทร์จะลดแสง
ไม่เสแสร้งแกล้งข่มชมฟ้าใส
กลางคืนย่อมพรายพราวสกาวไป
แสงดาวไซร้ใสกระจ่างอยู่ข้างจันทร์
*******************************************
10 พฤศจิกายน 2546 10:46 น.
โกฏิดารา
****ยะเยือกเย็นยิ่งแท้ ลมหนาว*****
ใบไม้พร่างพรูหล่นบนพรมหญ้า
ลมพัดพาไอฝนบนฟ้าหาย
พืชแล้งร้างทางป่าโรยราตาย
เหลืองรวงทองพร่าพรายอายโอบดิน
ลมหนาวพัดมาแล้วน้องแก้วเอ๋ย
เย็นลมเอยพาใจให้โผผิน
คิดถึงคนอยู่ห่างอ้างว้างจินต์
วอนลมโบกโบยบินแทนลิ้นที
เจ้าจงหอบความอุ่นแทนไอหนาว
ตามแสงดาวพราวไปให้แทนพี่
มองฟ้าเดียวลมเดียวเปลี่ยวฤดี
รอคนนี้ที่เราเฝ้าอาทร
ว่าไม้ร่วงรักไม่ลวงเหมือนปวงไม้
แต่ผลิรวงห่วงใยไม่ถ่ายถอน
หนาวเท่าหนาวเพราะหนาวใจใฝ่อาวรณ์
แต่รักร้อนผ่อนให้ไม่หนาวเลย
**********************************************************
10 พฤศจิกายน 2546 10:22 น.
โกฏิดารา
----------หลับใหล----------------
หลับแต่ตาหากใจยังใฝ่ถึง
หัวใจร่ำคร่ำครวญหวนคะนึง
เฝ้ารำพึงถึงคนไกลไม่อาจเจอ
---------หลับใหล---------------
ปิดแต่ตาหากใจคิดเสมอ
ถึงจะหลับหลับไปใจละเมอ
ไม่เลิกเพ้อพร่ำเพรียกเรียกมิวาย
---------หลับใหล---------------
แม้นหลับไปในฝันไม่พลันหาย
ระลึกแต่คนเดียวอยู่เปลี่ยวดาย
แม้นห่างกายใจแอบแนบวิญญาณ์
--------หลับใหล-----------------
หลับไม่ไหวใฝ่คิดจนอุษา
เสียงไก่ขันตะวันแจ้งแสงสุริยา
รอจวบจันทร์แจ่มฟ้ามาพบกัน