5 ธันวาคม 2545 19:02 น.
แอ็ปเปิ้ล
ถึง...คนของความผูกพัน
ในวันที่โลกหมุนวนมาให้เราได้รู้จักกัน ในวันที่สายลมแห่งมิตรภาพพัดมาหา
จุดเริ่มต้นของสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า...ความรู้สึกดีดี... วันนี้ฉันรับรู้ได้ว่ามันกำลังก่อตัว
เพิ่มมากขึ้นทบทวีที่หัวใจของฉัน ภายใต้ความห่างไกล ในองศาที่แตกต่าง
ระยะทางอันเหินห่าง ฉันไม่แน่ใจนัก...ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นอาวุธที่คอยลอบทำร้าย
บั่นทอนหัวใจเธอให้ปวดร้าวและหวั่นไหว บ้างหรือเปล่า ฉันก็ไม่อาจรู้ได้
แต่สำหรับฉันแล้ว การยืนอยู่บนความเดียวดายของการเวลาที่เคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ
ในความห่างไกลของเธอและฉัน ความอาทรห่วงใยที่มีให้ต่อคนของหัวใจเช่นเธอ
ยังคงเต็มเปี่ยมอย่างมั่นคงตลอดมาและตลอดไป เธอจะรู้บ้างไหม... ว่าทุกครั้ง
ที่ความเหงาย่างายเข้ามาเกาะกุมที่ใจของฉัน สายลมที่พัดมาเบา ๆ ควาเงียบงันจากสิ่งรอบกาย
เวลานี้...ฉันได้ปล่อยใจให้เธเดินทางเข้ามาในความรู้สึก เพราะอะไรนะเหรอ...ก็เพราะเธอคือกำลังใจพิเศษ
ที่เคยเติมเต็มสิ่งดีดีให้กับฉันในเวลานี้ไง
ในวันที่หัวใจมีเธอ
เหมือนโลกหมุนสิ่งดีดีมาให้เจอไม่ขาดสาย
ในคืนหนึ่งที่นับดาวบนฟ้าไกล
เหมือนดาวน้อยใหญ่...เป็นตัวแทนว่าเธออยู่ที่นี่...ใกล้ ๆ ตา
ความเหงาที่แฝงมากับสายลมหนาว
เหมือนจะคอยบอกเล่าเรื่องราวของคนที่ปลายฟ้า
หากเธอเหงา...ส่งความห่วงใยไปกระซิบบอกให้ลองหลับตา
แล้วคิดถึงกันทุกครา...เหมือนทุกทีที่เหว่ว้า...ฉันคิดถึงเธอ
บ่อยครั้งที่ความคิดถึงก่อตัวขึ้นอย่างมากมาย
ในยามที่ฉันได้ยินเรื่องราวความเป็นไปของเธอ
ประโยคหนึ่งที่ฉันมักจะบอกเธออยู่เสมอ นั่นคือ "ฉันเป็นห่วงเธอนะ"
บางทีความรู้สึกนี้มันอาจจะมีมากไป
จนทำให้เธอรู้สึกรำคาญ คนที่น่าห่วงที่สุดอาจจะเป็นฉัน (เธอบอกอย่างนั้น)
ฉันอาจจะเป็นคนขี้แยในสายตาเธอ
แต่เธอจะรู้สึกเหมือนฉันไหมว่า
ความห่วงใย...ทำให้ฉันแบ่งปันสิ่งดีดีส่งไปด้วยความเต็มใจ
ความคิดถึง...ทำให้ใจได้ผ่อนคลายเมื่อนึกถึงเธอ
ความห่างไกล...ทำให้ฉันคิดถึงเธอมากขึ้นกว่าปกติ
และความรัก...กำลังสร้างบทกวีจรรโลงหัวใจของฉันในยามนี้
อาจเป็นเพราะฉันรู้สึกว่า...หัวใจเธอบอบช้ำมามากมายกับความรัก
แล้วจะแปลกอะไร
หากฉันจะหยิบยื่นสิ่งดีดีให้กับเธอบ้าง
ฉันรู้...ว่าฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ ไม่มีคาถาเวทมนต์
ที่จะคอยเสกอะไรให้เธอได้สมใจไม่ซะทุกอย่าง
เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดา แต่หากเธอจะมองให้ลึก ๆ
ภายใต้ความเย็นชามันแฝงความจริงใจอยู่
หลายครั้งที่อยากจะบอกเธอแต่เธอก็มักจะบอกว่าไม่เชื่อ
จริงสินะ...เพียงคำพูดไม่กี่คำจะมีความหมายอะไร
วันนี้ฉันเพียงอยากบอกเธอว่าอย่าคิดว่าเธอไม่มีใคร
เพราะเวลานี้เธอจะยังมีฉัน...ที่จะอยู่เป็นกำลังใจเพื่อเธอตลอดไป
22 กันยายน 2545 20:57 น.
แอ็ปเปิ้ล
กาลเวลา ที่ใคร ๆ มักกล่าวว่า เป็นยารักษาใจที่วิเศษที่สุดของบรรดาผู้คนที่ถูกพิษรักกลั่นแกล้ง ว่ากันว่าเวลาจะทำให้ทุกอย่างเบาบางลง แต่สำหรับฉันแท้จริงแล้ว เวลาเป็นเพียงแค่คำปลอบ ทำให้ใจที่ร้อนรุ่มได้เย็นลงชั่วขณะ แต่ทุกครั้งที่ภาพแห่งความทรงจำฉายชัดขึ้นมา ความรู้สึกที่เรียกว่า..ร้าวราน..ก็จะกลับมาแทนที่ ดังนั้นเวลาไม่เคยช่วยอะไร หากใจยังคงฝังจำ จะแปลกอะไรหากกาลเวลาไม่ทำหน้าที่อย่างที่ใครพร่ำบอก
เมื่อก่อนเคยคิดว่า
จะใช้เวลาที่เหลือเพื่อลืมเธอ
แต่ทุกอย่างมันกลับพร่าเบลอ
เพราะหัวใจปฏิเสธที่จะลืมเธอคนดี
ฉันจึงใช้เวลาที่เหลือ
เก็บภาพเธอ จุนเจือใจ ไว้อย่างนี้
รวมทั้งเรื่องราวเก่า ๆ ที่ไม่เคยลืมได้สักที
และความรู้สึกที่เรียกว่า..รัก...ก็ยังมีต่อไป
เช้านี้...ยังคงเหมือนทุก ๆ เช้า ที่ฉันมักจะมองเจ้านกน้อยโผบินอย่างอิสระกลางเวหา และเฝ้าถามมันว่า เคยเห็นเธอ (คนที่ฉันรักบ้างไหม) ฉันชอบมองไปที่สุดเส้นขอบฟ้าสีคราม ฉันรู้เพียงว่าเธอกับขอบฟ้าก็ไม่แตกต่างอะไรกันเลย เราห่างไกลกันเหลือเกิน ฉันเคยแอบคิดว่าเธอจะมองฟ้าไกล ๆ แบบฉันบ้างไหม เพราะบางทีเราอาจจะได้พบกัน ณ ที่ที่หัวใจสามารถพูดคุยกันได้ เพียงเพื่อไถ่ถามถึงความผูกพันที่มี เพียงอยากจะซึบซับทุกความรู้สึกที่เธอมี ในยามที่เราห่างไกลกัน บางทีขอบฟ้าอาจทำให้เราใกล้กันบ้างก็ได้
ค่ำคืนนี้...ก็คงเป็นเหมือนทุก ๆ คืน ที่ฉันมักจะคิดถึงเธอภายใต้แสงดาวสีหม่นปนเศร้า และเฝ้าถามดาวอยู่ทุกค่ำคืนอย่างไม่รู้จักจบสิ้นว่า....เค้าเคยออกมามองดาวแล้วคิดถึงฉัน เหมือนที่ฉันมองดาวแล้วคิดถึงเค้าบ้างหรือเปล่า แม้รู้ดี...ว่าเสียงที่อยากจะได้ยินได้ฟัง เป็นได้แค่เพียงความเงียบงัน แต่ฉันก็ยังเฝ้าถามเพียงแค่อยากบรรเทาความเศร้าในหัวใจก็เท่านั้น เพราะบางทีอาจมีสักค่ำคืนหนึ่งที่เรากำลังมองดาวดวงเดียวกัน
กาลเวลา...เดินทางมาเนิ่นนานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นานพอที่จะทำให้หัวใจลืมใครสักคนได้แล้ว แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่มีอิทธิพลต่อหัวใจของฉันเลย ฉันยังไม่ลืมเธอแต่กลับคิดถึงเธอมากขึ้นกว่าเดิม คนดี...เธอคงไม่รู้ว่าสิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตของฉันก็คือ การลืมใครสักคนที่เป็นที่รัก ทุกอณูของความห่างและทุกพื้นที่ว่างในหัวใจฉันเก็บไว้รอเธอเสมอ ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไร เธอจะสุข จะเศร้า หรือเหงาอยู่ฉันก็ไม่อาจรู้ รู้เพียงว่าหากวันใดเธอไม่มีใคร หากที่พึ่งแห่งสุดท้ายจะเป็นฉัน ฉันก็ยินดีที่จะร่วมแบ่งปันทุกความรู้สึกนั้นไปกับเธอ
ในวันที่เธอไม่มีใคร
มองฟ้าไม่สดใสเหมือนในวันเก่า
หาคนเข้าใจไม่มีแม้เงา
ทุกอย่างว่างเปล่าแม้แต่เค้าที่เธอรักก็ไม่แคร์
สุดท้ายหวังว่าเธอจะคิดถึงฉัน
ผู้หญิงแห่งความผูกพันที่เคยพ่ายแพ้
จะกอดซับทุกรอยร้าวของบาดแผล
ต่อให้ไร้ค่ามาจากใครฉันไม่แคร์
ให้รู้ว่าคนที่เคยอ่อนแอ...ยังมีรักแท้ให้เธอ
คนดี...เธอรู้ไหมว่าเธอเป็นความเจ็บปวดที่ฉันอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในความรู้สึกของฉันได้ตลอดเวลา เพราะสิ่งเดียวที่เดินทางมาพร้อมกับความเจ็บปวดนั่นคือ...ความรัก...ฉันเชื่อว่า บางครั้ง....การที่คนเราจะมีความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ใครรักเรา แต่อยู่ที่ เรารักใคร และสิ่งนี้ทำให้ฉันเข้าใจว่าฉันมีความสุขกับการที่ได้รักเธอ แม้เวลานี้เธอจะมีความรู้สึกแบบเดียวกับฉันหรือไม่ก็ตาม ไม่ว่าโลกจะหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงอะไรต่อมิอะไรจนไม่คุ้นตา แต่สิ่งเดียวที่มีค่าและจดจำในทุกอณูของความรักไม่เคยห่าง นั่นคือ เธอคนเดียว อย่าห่วงเลยว่าวินาทีที่ไม่มีเธอฉันจะเป็นอย่างไร เพราะที่สุดแล้ว...ก็รักเธอเกินกว่าจะกล้าลืม
เดินต่อไปเถอะกาลเวลา
ทำหน้าที่ของเธอไปอยู่อย่างนั้น
อย่าพะวงกับคนที่ไม่สำคัญ
ฉันเพียงอยากอยู่กับวังวน
แห่งความทรงจำ...เท่านั้นเอง
เดินต่อไปเถอะกาลเวลา
ปล่อยให้ฉันอยู่กับน้ำตากับความฝันเคว้ง
ฉันเป็นสุขดีกับการปล่อยใจให้บรรเลง
ในบทเพลงแห่งความหลังของสองเรา
เดินต่อไปเถอะกาลเวลา
ถึงอย่างไรฉันก็คงไม่ลืมเค้า
แม้ทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่ภาพเงา
แต่รักที่มีให้เค้าจะคงมั่น...เหนือกาลเวลา
22 กันยายน 2545 20:48 น.
แอ็ปเปิ้ล
เป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งของความคิดถึงใครสักคนแล้วถ่ายทอดเรื่องราวมาเป็นบทกวีเศร้า ๆ ของผู้หญิงขี้เหงา
ความคิดถึง บทที่1
ค่ำคืนที่ไม่มีดาว
เหมือนใจว่างเปล่าไร้ซึ่งคนห่วงหา
จันทร์เอ่ยจันทร์ที่ลอยเด่นฟ้า
จะเหมือนฉันไหมที่รอคอยการกลับมาของใครบางคน
ความรักช่างห่างไกลแสนไกล
ต้องรออีกนานแค่ไหน
กว่าจะได้ใจเธอคืนมา
เห็นแต่สายลมที่พัดพาความร้าวรานมาหา
ให้ใจที่อ่อนหล้าหลั่งรินน้ำตาอยู่ทุกวัน
ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยกับการคอยใครสักคน
ด้วยความรักที่ท้วมท้นฉันทนได้
แต่ชีวิตที่เหลืออยู่นี้ต้องรออีกนานเท่าไร
กลัวลมหายใจ...จะไม่เหลือไว้เพื่อเจอเธอ
ความคิดถึง บทที่2
บางเวลาที่คิดถึงเธอ
อยากรู้เธอคิดถึงฉันเหมือนกันไหม
ยามมองผืนฟ้ากว้างจะอบอุ่นเพียงใด
หากความรู้สึกจองใจเราตรงกัน
ความเหงาในค่ำคืนหนาว
สายลมพร่ำกล่าวคำรักหวานไหว
แสงดาวกระพริบทักทายบอกความในใจ
ได้ยินบ้างไหมคนดีของใจ...ฉันคิดถึงเธอ
ความคิดถึง บทที่3
ฉันอาจไม่อบอุ่น
อย่างแสงตะวันรุ่งอรุณในยามเช้า
ฉันอาจไม่งดงามเหมือนมวลหมู่ดาว
ที่สุกสว่างพราวพร่างยามแหงนมอง
มีเพียงหนึ่งใจที่รักใครหนึ่งคน
ในคืนฟ้าหม่นสองมือที่โอบคุณ
...จะอบอุ่นพอไหม...
แสงใดจะส่องสว่างยามคุณไม่มีใคร
แสงศรัทธาแห่งหัวใจจะพอไหม...บอกรักคุณ
ความคิดถึงของฉันมันคงไม่จบเท่านี้หรอก มันยังมีอีกหลายบทหลายตอน หมืนล้านถ้อยคำแห่งความรู้สึกที่ไม่อาจบอกให้เธอรู้ได้หมด
ไม่ขอให้เธอคิดถึงไม่ขอให้เธอสนใจ
เหมือนฉันที่มันห่วงใยและคิดถึงเธอ
ขอแค่รู้เอาไว้..วันใดที่เธอน้ำตาเอ่อ
ยังมีคนเจ็บกว่าเธออยู่ตรงนี้
22 กันยายน 2545 20:29 น.
แอ็ปเปิ้ล
กวีเศร้า ๆ บทที่ 1
มือที่จับเธอไว้หากไม่อบอุ่น
คนที่มักคุ้นหากดูแล้วแปลกหน้า
แววตาที่อ่อนโยนทว่าวันนี้ช่างเย็นชา
หยดน้ำที่ปลายตาแทนคำตอบ..ฉันเข้าใจ
เธอคงต้องไปจากที่ตรงนี้
ฉันเข้าใจดีถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
ผ่านพ้นคืนวันเธอคงรู้ความต้องการที่แท้จริงของหัวใจ
ประโยชน์อะไรที่จะรั้งเธอไว้อยู่เคียง
นาทีสุดท้ายที่มีเหลือ
ช่วยฝากถ้อยคำจุนเจือคนเจ็บอย่างฉัน
หลอกกันอีกครั้งบอกว่ารักฉันดัง ๆ
ให้ใจที่จวนแตกพังตายช้าลงอีกวินาที
กวีเหงา ๆ บทที่2
หากที่สุดของความรัก
คือหยุดที่จะรู้จักแล้วลาร้างหนีหาย
หากว่ารักมีความหมาย
คือการทิ้งคนข้างกายให้อยู่ลำพัง
ฉันคงจะดีใจมากนะ
เพราะนี่คือสิ่งที่เธอทำกับฉัน
ยืนยง มั่นคง สม่ำเสมอทุกคืนวัน
ขอบคุณทุกการกระทำที่มีให้ฉันนะ...คนดี
กวีร้าวราน บทที่ 3
นอกหน้าต่างฝนยังสาดอยู่ซ้ำ ๆ
ข้างในใจที่ช้ำๆ ยังไม่หาย
ฝนยิ่งสาดในยิ่งช้ำอยู่ไม่คลาย
เหมือนจะแตกแยกสลายในทันที
ฟ้าคำรามตอกย้ำความรู้สึก
เกลียดตัวเองที่เผลอนึกถึงเธออยู่อย่างนี้
อีกไม่นานฝนคงซา
ท้องฟ้ากลับมาสวยงามเหมือนทุกที
แต่พื้นที่บริเวณนี้..ความร้าวรานไม่เคยซาไปจากใจ
31 สิงหาคม 2545 22:58 น.
แอ็ปเปิ้ล
พระจันทร์สีเงิน...ขณะที่ฉันจ้องมองเธอ...เธอเองก็จ้องมองฉันเหมือนเป็นการไต่ถามและแลกคำตอบซึ่งกันและกัน เธอคงเป็นห่วงและพะวงกับเส้นทางเดินสายใหม่ของฉันว่าจะเป็นอย่างไร? ฉันรู้ว่าเธอยังอยู่เป็นเพื่อนฉันเสมอ รวมทั้งมวลหมู่ดาวน้อยใหญ่เหล่านั้น ถึงแม้บางวันเมฆหมอกจะมาบดบังแสงสว่างนวลตาของเธอไม่ให้ฉันเห็น แต่ฉันกลับรู้สึกมั่นใจว่า...บนผืนฟ้าที่กว้างใหญ่จะมีพวกเธอเฝ้ามองมาตลอดเวลา
บ่อยครั้งที่ฉันนึกเกลียดเวลายามค่ำคืน เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกเคว้งคว้าง และเหงาขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ จนบางที ฉันอยากจะหยุดตะวันไว้ที่ปลายฟ้า ไม่อยากให้ดวงจันทร์แทรกตัวมาพร้อมกับค่ำคืนที่มืดมิด อย่างน้อยฉันจะได้อยู่กับช่วงเวลาที่สว่าง ได้มองเห็นอะไรที่มันชัดเจนมากกว่าความมืดมน แต่วันนี้ฉันกลับรู้สึกว่า ฉันควรจะขอบคุณราตรีกาลที่ยาวนาน แสงจันทร์ที่นวลตา หมู่ดาวที่พร่างพราวบนนภา และความเหงาที่แทรกตัวมาช่วงเวลานี้เสมอ มันทำให้ฉันได้อยู่กับตัวฉันเองมากขึ้น จากที่เคยใส่ใจแต่ผู้อื่น จนบางครั้งหลงลืมดูตัวเอง ทำให้ฉันได้มีเวลาทบทวนเรื่องราวและยอมรับในความเป็นจริงว่า วันนี้ฉันไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อนแต่กลับเป็นใครคนหนึ่งที่มีอดีตกับวันวานมานาน
เหลือเกิน