4 กันยายน 2546 13:14 น.
แอ็ปเปิ้ล
ซบหน้าลงนอนแนบหมอนใบเก่า
น้ำตารินในวันเหงาแสนเศร้าหมอง
เสียงเพลงคลอเบา ๆ เป็นทำนอง
เหมือนเสียงร้องของหัวใจที่อ่อนแรง
ฝนข้างนอกยังคงสาดอยู่ซ้ำ ซ้ำ
ข้างในใจที่ช้ำช้ำ ยังไม่หาย
ฝนยิ่งสาดใจยิ่งช้ำอยู่ไม่คลาย
เหมือนจะแตกแยกสลายในทันที
เหวว่าลึกค้นใจคนยิ่งลึกกว่า
ท้องนภาที่ว่ากว้างกว่าสิ่งไหน
ยังไม่เท่ากับความรักในหัวใจ
ที่มีให้กับเธออยู่นิรันดร์
ยิ่งรักมาก ก็ยิ่งเหงา ยิ่งไกลห่าง
ยิ่งอ้างว้าง เคว้งคว้าง หลงทางฝัน
ทุกนาทีที่ผ่านไปแต่ละวัน
เหมือนกำแพงล้อมรอบกั้นหมดทางไป
4 กันยายน 2546 11:48 น.
แอ็ปเปิ้ล
ดาวน้อยลอยร่วงจากท้องฟ้า
ฉันหลับตาอธิษฐานในคืนเหงา
แม้ที่ตรงนี้ห่างไกลความเป็นเรา
ขอเพียงเธอรับเอาความรู้สึกที่มีของฉันไป
คิดถึงมากจนถึงมากที่สุด
และไม่อาจหยุดความห่วงหานั้นลงได้
บนฟ้ามีดาวนับล้านประดับไว้
แต่ฉันมีเธอคนเดียวประดับใจในทุกวัน
หากดาวตกไปสักดวงในตอนนี้
ยังมีดาวหลายดวงอยู่กับฟ้าไม่เปลี่ยนผัน
แต่หากดาวดวงเดียวที่มีในใจฉัน
หล่นหายไปสักวันคงเหงาใจ
เพราะฉันไม่มีดาวนับล้านเหมือนฟ้า
มีเพียงดาวดวงเดียวที่มีค่ากว่าสิ่งไหน
เธอคือดาวดวงนั้นที่อยู่ในหัวใจ
อบอุ่น ยิ่งใหญ่ เป็นทุกสิ่งในห้วงเวลา
เธอคือคนสำคัญ
คนพิเศษคนนั้นที่งดงามกว่าดาวบนฟ้า
อธิษฐานผ่านดาวตกขอให้เธอตอบรับกลับมา
บอกให้ฉันรู้ที่ว่า....ความคิดถึงที่ส่งไปยังมีค่าสำหรับเธอ
12 สิงหาคม 2546 17:20 น.
แอ็ปเปิ้ล
กาลเวลาผันผ่านมานานเนิ่น
ฤดูเปลี่ยนเส้นทางเดินให้ค้นหา
ฉันยืนอยู่ด้วยความรักและศรัทธา
มีความคิด จินตนา ในตัวตน
เป็นหน่วยในสิ่งที่เรียกว่า...สังคม...
เค้าชื่นชมหรือถมทับให้สับสน
อาจเป็นเพียงธาตุอากาศในใจคน
หรือปะปนในควันฝุ่น คลุ้งกระจาย
หลายสิ่งอันผ่านมาในชีวิต
หลายความคิดผ่านมาไร้ความหมาย
หลายความฝันแตกดับพลันมลาย
ดูคล้าย ๆ เหมือนว่าตายบางเวลา
ลมหายใจแห่งความหวังที่ผ่าวแผ่ว
เหมือนดวงแก้วค่อยแตกแหลกช้าช้า
เหนื่อยและท้อจนบางครั้งมีน้ำตา
จุดหมายข้างหน้าเหมือนว่ายังอีกไกล
จึงมาเขียนบทกลอนอักษรศิลป์
อาภัพสิ้นหลายอันที่ฝันใฝ่
พร่ำแต่งถ้อยร้อยกรองของดวงใจ
มอบให้โลก ที่มิได้ เป็นของเรา
บอกชีวิตคือความจริงใช่สิ่งฝัน
จะไม่อยู่ในวันวานที่อับเฉา
จะไม่อยู่ในพรุ่งนี้ที่เนิ่นยาว
จะอยู่ในวันนี้...ของเรา...ที่เป็นจริง
12 สิงหาคม 2546 17:03 น.
แอ็ปเปิ้ล
ฉันเป็นเพียงหนึ่งมนุษย์ผู้ก่อเกิด
จากผู้ให้กำเนิดเกิดเป็นฉัน
ฉันเป็นเพียงหนึ่งมนุษย์ผู้มีฝัน
คอยสร้างสรรค์คำรำพัน...บทกวี...
ฉันเป็นเพียงหนึ่งมนุษย์ผู้มีรัก
และประจักษ์ในรักแท้ประเสริฐศรี
ฉันจึงเรียงร้อยแต่งถ้อยวจี
เป็นกวีเสริมแต่งแทนค่าคุณ
แด่สตรี ผู้เลอค่านามว่า...แม่..
สำนึกแน่ความปรานีที่อบอุ่น
จากความรักเอื้อเฟื้อแม่เกื้อกูล
บริบูรณ์สมค่าว่า...ชนนี...
เป็นพระพรหมในใจของลูกลูก
แม้ทุกข์สุขผูกพันไปในทุกที่
รักของแม่มีท่วมท้นปฐพี
เปรียบฟ้ากว้างไม่อาจที่จะเทียมทัน
เป็นดั่งเทียนส่องนำทางชีวิต
เป็นดวงจิตสูงค่ากว่ารำพัน
เป็นธารทิพย์ที่ส่งมาจากสวรรค์
เป็นทุกสิ่งสารพันจะเปรียบปาน
ร้อยลำนำคำบูชาสะท้อนให้
แม้ไม่มีสิ่งยิ่งใหญ่อันไพศาล
เพียงบทกลอนจากเด็กน้อยเมื่อวันวาน
ขอกราบกรานว่า...รักแม่...ชั่วนิรันนร์
6 สิงหาคม 2546 15:56 น.
แอ็ปเปิ้ล
พรหมลิขิตกำหนดทางให้เคว้งคว้าง
หรือฟ้ากว้างสวรรค์แกล้งให้คอยหา
เหมือนงมรักในมหาสมุทรสุดทรมา
ใจจมดิ่ง คลื่นน้ำตา พาอาดูร
ไปรักคนที่เค้าไม่รักเรา
นิทานเรื่องเศร้าสองลบหนึ่งเท่ากับศูนย์
แต่ไม่รัก คนที่เค้า นั้นเทิดทูน
นิทานน้ำเน่า ไม่อาจจูน ให้ตรงใจ
รักคนที่เรารักด้วยน้ำตา
หรือรักคนที่เค้ารักเราดีกว่าเลือกแบบไหน
เหตุและผลสุดกล้ำกลืนให้เป็นไป
ยุติธรรมดีไหมหากไม่เลือกใครเลย
ขอเลือกเก็บ มิตรภาพที่แสนดี
ไม่ขอเอารักมาย่ำยีอย่างชาเฉย
เมื่อรักนี้ไม่อาจลงเอย
จะไม่ยอมทำร้ายใครเลยให้เสียน้ำตา
หากวันหนึ่ง สายลมพัด รักเดินทาง
และฟ้ากว้างไม่กลั่นแกล้งให้คอยหา
หากชีวิตเลือกได้จริงอย่างที่ว่า
ปรารถนา เธอรักฉัน ฉันรักเธอ ใจตรงกัน...