28 พฤศจิกายน 2548 05:53 น.
แสงไร้เงา
แต่เราก็ทราบกันดีอีกนั่นแหละว่า การแต่งเติมใบหน้าด้วยเครื่องสำอางตลอดเวลานั้น เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อีกทั้งยังไม่ให้ผลดีในระยะยาวเสียด้วย ซึ่งวิธีการที่จะช่วยแก้ปัญหาระยะยาวนั้น คือการออกกำลังใบหน้าต่างหากค่ะ
ใบหน้าของเรามีกล้ามเนื้ออยู่หลายมัด การที่กล้ามเนื้อแข็งแรง จะทำให้ใบหน้าของเราดูเต่งตึง มีเลือดมาหล่อเลี้ยงได้ดี ดูมีชีวิตชีวา แต่โดยธรรมชาติแล้ว การใช้งานกล้ามเนื้อเหล่านี้มากเกินไป ก็ก่อให้เกิดความอ่อนล้าได้ แต่ถ้าใช้น้อยก็จะอ่อนแรง ซึ่งไม่เป็นการดีด้วยกันทั้งสองอย่างค่ะ ดังนั้น เราจึงต้องใช้กล้ามเนื้ออย่างพอเหมาะพอดี มีการออกกำลังกายและการผ่อนคลายอยู่อย่างสม่ำเสมอ
กล้ามเนื้อที่เราควรดูแลเป็นพิเศษ ก็คือกล้ามเนื้อตาค่ะ ยิ่งใครที่ต้องทำงานใช้สายตามาก ๆ อย่างเขียนหนังสือ อ่านหนังสือ คอมพิวเตอร์ ช่างเจียระไนเพชรพลอย กลุ่มนี้ ตาจะเมื่อยล้ามาก ถ้าไม่พักผ่อน ก็จะเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร การพักผ่อนตานั้น ทำได้ง่าย ๆ ก็คือหลับตา หรือใช้น้ำเย็นประคบได้จะยิ่งดี ความเย็นจะช่วยผ่อนคลายประสาทตา และทำให้เลือดมาหล่อเลี้ยงมากขึ้น
จากนั้น ให้บริการกล้ามเนื้อตา ด้วยการกลอกตาไปให้ทั่ว คือมองซ้ายสุด สลับขวาสุด 10 ครั้ง มองบนสุด สลับล่างสุด 10 ครั้ง ทำตาเหล่ หลับตาปี๋ กลอกตาเป็นวงกลม ตามเข็มนาฬิกา แล้วก็ทวนเข็มนาฬิกา จะช่วยให้กล้ามเนื้อตามีความยืดหยุ่นค่ะ อีกทั้งยังช่วยผ่อนคลายการเกร็งตัวด้วย ความเหนื่อยล้าจะลดลง
คราวนี้ มาดูใบหน้ากันค่ะ การลดอาการตึงและเมื่อยล้าที่ใบหน้านั้น สามารถทำได้ด้วยการให้กล้ามเนื้อแต่ละมัดทำงานครบ ท่าออกกำลังกายพื้นฐานมีดังนี้
-เลิกหน้าผากขึ้น
-ขมวดคิ้ว
-หลับตาปี๋
-ลืมตาโพลง
-ย่นจมูก
-ยิ้ม
-แยกเขี้ยว
-อ้าปากกว้าง ๆ
-ทำปากจู๋
-บิดปากบิดจมูกไปมา
ท่าออกกำลังเหล่านี้ ควรทำค้างสัก 5 วินาที แล้วคลาย เมื่อทำบ่อย ๆ กล้ามเนื้อจะแข็งแรง มีชีวิตชีวาค่ะ
ส่วนการผ่อนคลายเราจะใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบที่ใบหน้าสัก 15-20 นาที หรือพอให้หน้าแดงเรื่อ ๆ จะทำวันละกี่ครั้งก็ได้ วิธีนี้ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีค่ะ
ข้อมูลจาก
สำนักข่าวไทย อ.ส.ม.ท.
27 พฤศจิกายน 2548 14:10 น.
แสงไร้เงา
มันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากชีวิตจริง
คุณจะบอกได้ในทันที
ที่คุณเดินสวนกับใครสักคน และรู้สึกสะดุดตา
สะดุดความรู้สึกกับใครคนนั้นไหม ว่าคนๆนั้นคือ
คนที่ใช่....คือใครบางคนที่คุณตามหา
หรือคือคนที่คุณมั่นใจว่าจะวางอนาคตไว้ร่วมกับเขา
แน่นอน...หากคุณยังมีเหตุผลเพียงพอ
ที่จะไม่ปล่อยให้อารมณ์อ่อนไหววาบหวามเป็นตัวบงการ
ว่าคนที่คุณคิดว่า เขาอาจจะใช่คนที่คุณรอคอย
คือ คนที่จะร่วมชีวิตกับคุณ
จนกว่าคุณจะได้เรียนรู้
และพิสูจน์คนคนนั้นอย่างชัดเจนเสียก่อน
การแลกเปลี่ยนทางความคิด
กับคนพิเศษที่ออนไลน์มาพบกัน
อาจเริ่มต้นขึ้นอย่างเปิดเผยและง่ายดาย
ความสวยงามของตัวหนังสือที่พิมพ์ส่งมา
อาจมีมนต์ขลังเสียจนทำให้หัวใจของคุณ....
ผูกมัดด้วยจินตนาการงดงามของภาพฝันอุดมคติ
แต่คุณจะด่วนสรุปได้อย่างไรว่า.....
นั่นคือ......ความรัก
จนกว่าคุณจะก้าวออกมาจากโลกแห่งความฝันของคุณ
เพื่อมาพบกับความเป็นจริงที่คนคนนั้นเป็นอยู่
การปล่อยให้ตัวเองผูกพันกับจินตนาการ
มีแต่จะทำให้คุณพบกับความผิดหวังและปวดร้าว
หากภาพฝันนั้นไม่เป็นอย่างที่คุณคิด
ความรักไม่อาจเริ่มต้นระหว่างคนแปลกหน้า
และไม่ว่าคุณจะออนไลน์
คุยกับเขายาวนานนับปี
ด้วยความรู้สึกที่คุ้นเคยเปิดเผยเพียงไร
กำแพงแห่งความแปลกหน้าก็ไม่มีวันพังทลายลง
จนกว่าคุณและเขาจะได้พบกันในโลกแห่งความเป็นจริง
รักแท้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายดายบนโลกสับสนใบนี้
และยิ่งไม่อาจค้นพบได้ง่ายดายในโลกที่มองไม่เห็น
ความรักต้องการการเรียนรู้
และเข้าใจอย่างลึกซึ้งระหว่างคนสองคน
ความรักคือการรู้จัก
เพื่อที่จะยอมรับในตัวตนของกันละกันอย่างแท้จริง
ดังนั้นหากคุณกำลังคิดว่า
คุณมีความรัก หรือเจ็บปวดกับคนพิเศษซักคน
ที่ออนไลน์มาพบกันประจำทุกวัน
ทั้งที่คุณไม่เคยได้ยินเสียง ไม่เคยเห็นหน้า
และไม่เคยจะรับรู้ความจริงว่า
เขาเป็นอย่างไรเมื่อใช้ชีวิตอยู่ในสังคมปกติ
หรือเพียงแต่หลงรักภาพอุดมคติที่ตัวเอง เป็นคนสร้างขึ้นมา
ก็คือการพาเขาก้าวออกมาจากโลกแห่งจินตนาการใบนั้น
เพื่อมาพบกันในชีวิตจริง
จำไว้ว่า..หนึ่งปีที่คุยกัน...ก็ไม่เท่าหนึ่งวันที่ได้พบหน้า
เมื่อคุณพบเขา
คุณจะได้คำตอบกับตัวเองชัดเจนว่า
เขา คือคนที่คุณสมควรเรียนรู้
และรู้สึกพิเศษต่อไปหรือไม่
สีหน้า แววตา และภาษาท่าทางอื่นๆของเขา
คือสิ่งที่จะทำให้คุณรู้ชัดเจนได้มากกว่า...
ตัวหนังสือ ที่อ่อนหวานห่วงใยที่พิมพ์ส่งมา
หรือเสียงทางโทรศัพท์ว่าเขาคือเพื่อนที่จริงใจ
และต้องการผูกมัดกับคุณอย่างจริงจัง
หรือ เพียง แต่ ต้อง การ ให้ คุณ ตก หลุม พราง
ใน การ ใช้ ภาษา เพื่อ ความ สนุก ในเกม
หรือ ผล ประ โยชน์ ทาง อารมณ์
หากคุณรู้ตัวว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่อ่อนไหว
เชื่อคนง่าย และมองโลกในแง่ดีเกินไป
ก็จงอย่าใช้ หัวใจในการตัดสิน
และรับรู้ตัวหนังสือที่ผ่านมาทางอินเตอร์เนต
และจงใช้สมองในการอ่านทุกตัวอักษรอย่างมีสติ
อย่าปล่อยให้กับดักของภาษา พันธนาการหัวใจคุณ
อย่างที่ตัวฉันเองและเพื่อนๆ อีกหลายคนเคยเผลอไผลมาก่อน
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีเหตุผล
และเท่าทันเกมสนุกในโลกไซเบอร์นี้
จนรู้สึกชินชากับทุกตัวหนังสือทุกตัวที่พิมพ์ส่งมา
ก็ได้โปรดอย่าใช้ตัวหนังสือของคุณ
ตอบกลับไปในสิ่งที่ตัวคุณเองไม่ได้รู้สึกรู้สา
เพราะคนที่ได้อ่านข้อความของคุณ
อาจเป็นเพียงมือใหม่ที่อ่อนไหว
และตกหลุมพรางของถ้อยคำที่คุณใช้ได้ง่ายดาย
To handle yourself, use your head,
To handle others, use your heart.
จงใช้สมองดูแลหัวใจของคุณเอง
และจงใช้หัวใจเพื่อดูแลหัวใจดวงอื่นๆที่ออนไลน์มาพบกับคุณ.....
หากคุณเป็นคนหนึ่งซึ่งกำลังออนไลน์เพือค้นหารักแท้
ก็ขอให้คุณโชคดีและเดินทางในโลกไซเบอร์นี้อย่างปลอดภัย
จนกว่าจะพบใครซักคนที่พร้อมจะก้าวไปในชีวิตจริงกับคุณ
ที่สำคัญ....อย่าลืมระมัดระวังดูแลหัวใจคุณเองให้ดี
ตลอดการเดินทางครั้งนี้ด้วย
ไม่เคยมีใครที่ดีพร้อม
ขอให้เรายอมรับความจริงในข้อนี้
ฉะนั้นการคบหากับใครสักคน
ก็อย่าคาดหวังเสียจนเลิศเลอ
เพราะเขาก็คือมนุษย์ปุถุชนธรรมดาเหมือนกับเรา
ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียปะปนอยู่ในตัว
การตั้งความคาดหวังไว้สูง
ก็เหมือนการขีดเส้นวงจำกัดไว้คับแคบ
ซึ่งสักวันเราอาจต้องสูญเสีย
ทั้งความรู้สึกและมิตรภาพ
สุดท้าย...เราก็ไม่อาจจะคบหาใครได้จริงจังเลย
แม้แต่สักคนเดียว
ที่มา: เรื่องน่าอ่าน www.sanook.com
25 พฤศจิกายน 2548 12:17 น.
แสงไร้เงา
กิ๊กทำไม ทำไมต้องกิ๊ก
ช่วงเวลาของยุคสมัยปัจจุบัน ถ้าใครไม่พูดถึงเรื่อง "กิ๊ก" ก็คงจะเชย ประมาณว่า ไม่ "อินเทรนด์" เอาเสียเลย ใช่ไหมครับ ?
ยุคนี้สมัยนี้ ถ้าจะให้ทันยุคทันสมัย มันก็ต้องมี "กิ๊ก" ผู้ชายก็มีกิ๊ก ผู้หญิงก็มีกิ๊ก และก็อาจจะรวมไปถึงชายรักชาย และหญิงรักหญิง ที่ต่างก็จะมีกิ๊กได้ตามอัตภาพ
ประมาณว่า ฉันมีเธอ แล้วฉันก็มีกิ๊ก ที่เธอไม่รู้
ประมาณว่า เธอมีฉัน แล้วเธอก็มีกิ๊ก ที่ฉันไม่รู้
ที่น่าทึ่ง ก็คือ บางใครบางคน ยังมี "กิ๊กสำรอง" เสียหลายคน จนต้องจัดคิวกันวุ่นวายเลยทีเดียวเชียวแหละ หลายๆ คน คงสงสัยถึงนิยามความหมาย ของคำว่า "กิ๊ก" ใช่ไหมครับ ?
บ้างก็ว่า "กิ๊ก" เป็นความสัมพันธ์พิเศษ ระหว่างคนคนหนึ่งกับคนอีกคนหนึ่งคล้ายๆ จะประมาณว่า เป็นเพื่อนที่รู้ใจ มากถึงมากกว่า หรืออาจถึงขั้นมากที่สุดและยังสามารถกินอาณาบริเวณได้เกินคำว่า "เพื่อนที่รู้ใจ" จนใกล้ๆ ปริมณฑลของคำว่า "แฟน" หรือ "คู่รัก" และ "กิ๊ก" ก็ยังสามารถไต่ข้ามเส้นจริยธรรมบางเบา ไปสู่ความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างกันได้ด้วย
นี่ทำให้คำว่า "กิ๊ก" กินความในการอธิบาย ได้อย่างกว้างขวางอย่างยิ่ง ไม่ใช่เรื่องประหลาด ที่อีกด้านของความรู้สึกของบางคน จะหวาดระแวงคำว่า "กิ๊ก" ก็คงประมาณว่า "กิ๊กไม่ใช่ชู้ (แต่) ถ้ากรูรูรูรูรู้เมิงงงงตายยยย" นั่นแหละครับ
"กิ๊ก" พัฒนาความสัมพันธ์ โดยการขยับความสัมพันธ์ ขึ้นมาตามลำดับขั้นจากเพื่อน เป็นมากกว่าเพื่อน จนเกือบถึงแฟน-คู่รัก และข้ามไปจนถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งทางเพศระหว่างกัน
กระนั้น ข้อที่น่าคิดก็คือ ระยะห่างของความสัมพันธ์ ในระนาบของคำว่า "กิ๊ก" "กิ๊ก" พัฒนาความสัมพันธ์ ทว่า ! "กิ๊ก" ไม่ผูกมัดความสัมพันธ์นั้นๆ !
คล้ายๆ กับการมี "กิ๊ก" คือการ "เติมเต็ม" บางสิ่งที่ขาดหายไป ในช่วงเวลาหนึ่ง
คล้ายๆ กับการมี "กิ๊ก" คือการ "ชดเชย" บางสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงในชีวิตจริง ในช่วงเวลาหนึ่ง
เพื่อได้ความอบอุ่น, ความห่วงใย-อาทร, ความรัก และ ฯลฯ มาทดแทนความเหงา-เศร้า, เหว่ว้า, อ้างว้าง และ ฯลฯ ที่มีอยู่ไปจนถึงการตอบสนองความต้องการทางวัตถุ และเลยไปถึงการเติมเต็มทางเพศ ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยอิสระ ปกปิด และไม่ผูกมัด สำหรับช่องว่างที่มี นี่คงไม่ต่างกับ "ปรากฏการณ์แห่งยุคสมัย" เช่นเดียวกับยุคสมัยก่อนๆ นั้น
ถ้าถามว่า "กิ๊ก" ทำไม และทำไมต้อง "กิ๊ก" ก็คงไม่ยากที่จะตอบ ใช่ไหมครับ? เพราะจริงๆ คำตอบที่มี ก็อยู่ที่ตัวเราเองนั่นแหละครับ !!!
ข้อมูลจาก
หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
25 พฤศจิกายน 2548 12:12 น.
แสงไร้เงา
7 สุดยอด
ชนิดอาหารสำหรับผู้หญิง

กีวี เป็นผลไม้ที่มีระดับของวิตามินซีสูงที่สุดชนิดหนึ่ง เรียกว่าเกือบ 2 เท่าของวิตามินซี ที่จะได้จากส้ม 1 ผล เลยทีเดียว วิตามินซีเป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซับธาตุเหล็กและโฟเลตอันเป็นสารอาหารที่ผู้หญิงต้องการมากที่สุดได้ดีขึ้น โดยปริมาณของกีวีที่ผู้หญิงต้องการในแต่ละวันนั้นก็เพียงครึ่งผลเท่านั้น จะให้พลังงานเพียง 46 แคลอรี่
เต้าหู้ถั่วเหลือง เต้าหู้ถั่วเหลือง 1 ชิ้นจะให้ปริมาณโปรตีนสูง ยิ่งกว่านั้นในเต้าหู้ถั่วเหลืองยังมีสารที่เรียกว่า ฟีโตฮอร์โมน เป็นสารที่จะช่วยให้การทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน และพวกต่อมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการมีประจำเดือนของผู้หญิงทำงานอย่างเป็นปกติ ต่อไปนี้คุณคงจะต้องเพิ่มเต้าหู้ถั่วเหลืองในมื้อใดมื้อหนึ่งของวันซะแล้วล่ะคะ
ถั่วลิสง เป็นอาหารอีกชนิดที่อุดมไปด้วยโปรตีน ซึ่งนอกจากประกอบไปด้วยใยอาหารจำนวนมาก ที่จะช่วยให้ระบบการย่อยอาหารของคุณทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว การรับประทานถั่วลิสงยังให้ประดยชน์สูงสุด ในหนึ่งมื้อควรจะรับประทานถั่วลิสงให้มากกว่า 7-8 กรัมขึ้นไป เพราะร่างกายนั้นต้องการไฟเบอร์ถึง 25-30 กรัม ต่อหนึ่งวัน
ข้าวกล้อง ให้สารอาหารอันเป็นประโยชน์แก่ร่างกายมากกว่าข้าวขาวถึงเท่าตัว โดยเฉพาะวิตามิน บี อี รวมไปถึงโฟเลต ที่เป็นสารอาหารสำคัญที่จะปกป้องคุณจากการเป็นโรคหัวใจ ที่สำคัญ วิตามิน อี ในข้าวกล้อง ยังมีประโยชน์ต่อการทำงานของร่างกายหลายๆ ส่วน รวมไปถึงเรื่องสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย
กะหล่ำ หรือที่รู้จักกันว่าเป็นผักต้านมะเร็ง ซึ่งนอกจากต้านมะเร็งแล้ว สารอาหารในกะหล่ำยังมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูเซลล์ภายในร่างกายอีกด้วย ที่สำคัญผักกะหล่ำสามารถให้ผู้หญิงนำไปทำได้หลายเมนูไม่มีเบื่อ
มันฝรั่ง แค่มันฝรั่งผลขนาดพอเหมาะ ก็สามารถให้วิตามินเอ คุณได้อย่างเพียงพอ วิตามินเอที่มากับมันฝรั่งนี้เอง จะช่วยคุณในเรื่องของสุขภาพตา สุขภาพของเส้นผม รวมไปถึงสุขภาพฟันให้แข็งแรง
แซลมอน นอกจากจะเป็นอาหารที่มีไขมันและแครอรี่ต่ำแล้ว ยังมีสารอาหารสำคัญอย่าง โอเมก้า 3 อีกด้วย นอกจากนี้ก้างปลาอ่อนๆ ของแซลมอนยังเป็นแหล่งแคลเซียมที่สำคัญสำหรับผู้หญิง เพื่อป้องกันการเป็นโรคกระดูกพรุนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
อาหารทั้ง 7 อย่างเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งของอาหารอีกหลากชนิดที่มีให้เราเลือกทาน แต่ก็นับว่าเป็นอาหารสำคัญสำหรับผู้หญิงในการดูแลสุขภาพตัวเอง ดังนั้นการบริโภคของที่มีประโยชน์บ้างก็จะดีมาก แล้วก็ตามใจปากตัวเองให้น้อยลงสักหน่อย เท่านี้คำว่า สวยสุขภาพดี จะไปไหนเสีย
ข้อมูลจาก
สำนักข่าวไทย อ.ส.ม.ท.
14 พฤศจิกายน 2548 09:27 น.
แสงไร้เงา
........... เดือนเพ็ญ ...............
คาราบาว
เดือนเพ็ญ สวยเย็นเห็นอร่ามนภาแจ่มนวลดูงาม
เย็นชื่นหนอยามเมื่อลมพัดมาแสงจันทร์นวล
ชวนใจข้า คิดถึงถิ่นที่จากมาคิดถึงท้องนา
บ้านเรือนที่เคยเนาว์กองไฟ สุมควายตามคอกคงยังไม่มอดดับดอก
จันทร์เอยช่วยบอกให้ลมช่วยเป่าสุมไฟให้แรงเข้า
พัดไล่ความเยือกเย็นหนาวให้พี่น้องเรา
นอนหลับอุ่นสบายเรไร ร้องดังฟังว่าเสียงที่เจ้าพร่ำครวญหาลมเอยช่วยพา กระซิบข้างกายข้ายังคอย อยู่ไม่หน่ายไม่เลือนห่างจากเคลื่อนคลายคิดถึงไม่วาย เมื่อเราจากกันลมเอย ช่วยเป็นสื่อให้นำรักจากห้วงดวงใจ ของข้านี้ไปบอกเขานั้นหนาให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมาจะไปซบหน้า กับอกแม่เอยเรไร
ร้องดังฟังว่าเสียงที่เจ้าพร่ำครวญหาลมเอยช่วยพา กระซิบข้างกายข้ายังคอย
อยู่ไม่หน่ายไม่เลือนห่างจากเคลื่อนคลายคิดถึงไม่วาย เมื่อเราจากกันลมเอย ช่วยเป็นสื่อให้นำรักจากห้วงดวงใจ ของข้านี้ไปบอกเขานั้นหนาให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมาจะไปซบหน้า กับอกแม่เอยให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมาจะไปซบหน้า กับอกแม่เอย...
................................................
ได้ฟังเพลงนี้แล้ว คิดถึงบ้านและแม่จนน้ำจะไหล
นั่งเหงาคนเดี่ยว ฟังเพลงมันช่างซึ้งจับใจ
บอกความรู้ไม่ถูก อยาจะแต่งกลอนก็แต่งไม่เป็น
ก็นำเพลงนี้มาแทนความรู้สึกบอกที่บ้านและคุณแม่
ให้รู้ว่าลูกคนนี้คิดถึงท่านมากๆๆๆทีสุดในโลกเลย
แม่คงได้รับรู้นะ ถ้าพี่สาวอ่านเจอ พี่คงไปบอกท่านเองว่า น้องสาวคนนี้คิดถึงท่านมากๆๆๆๆๆ
ไม่อยากเก็บไว้คนเดียว ขอมาระบายที่บ้านไทยกลอน
คงไม่ว่ากันนะค่ะ
เพราะเก็บไว้เรามันจะบ้าตาย ถ้าไม่ได้ระบายมันออกมา
และอยากแม่ว่า ลูกคนนี้ สักวันอีกไม่นาน (ก็ประมาณกี่ปีก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน)
จะเอาสำเร็จ และชัยชนะ ไปฝากแม่ และพ่อ
อีกไม่นานเกินรอ.
ขอให้แม่และพ่อรอดูวันที่ลูกประสบความสำเร็จนะค่ะ
จากใจจริงลูกคนนี้
รักครอบครัว.
น้องเหมียว..