17 ธันวาคม 2548 03:57 น.
แสงไร้เงา
เสียงเครื่องยนต์ 2800 ซีซี คำรามก้องเมื่อกระบะสีขาวพยายามไต่ขึ้นเนินชันเบื้องหน้า...
15 ธันวาคม 2548 08:03 น.
แสงไร้เงา
สายฝน ค.คน กับ ความรัก
ทำไมเวลาที่ฝนตก เรามักจะคิดถึงคนที่เรารัก เราผูกพันและบางครั้งก็รู้สึกเหงาด้วย
เมื่อก่อนนี้ ท้องฟ้า แผ่นดิน และผืนน้ำ เป็นเพื่อนรักกัน ทั้งสามอยู่ใกล้ชิดติดกัน จนกระทั่งโลกได้กำเนิดพืชและสัตว์ขึ้นแผ่นดินและผืนน้ำก็มัวแต่ดูแลเอาใจใส่พืชและสัตว์ จนละเลยและไม่สนใจท้องฟ้า ท้องฟ้าก็เริ่มรู้สึกน้อยใจ และถอยตัวห่างออกไป ห่างออกไปทุกที ทุกที จนถึงวันที่มีนกตัวแรกออกโบยบิน แผ่นดินและผืนน้ำจึงได้รู้ว่าท้องฟ้าได้จากไปไกลแสนไกล แผ่นดินและผืนน้ำพยายามส่งเสียงเรียกท้องฟ้า แต่ท้องฟ้าอยู่ไกลมาก เลยไม่ได้ยิน
นกตัวนั้นจึงอาสาที่จะไปบอกกับท้องฟ้า นกก็บินขึ้นสูง สูงขึ้น สูงขึ้น และส่งเสียงเรียก แต่เสียงนกนั้นเบาเกินไป ไปไม่ถึงท้องฟ้า แต่นกก็สัญญาว่า ต่อไปนี้นกทุกตัวจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อนำข่าวจากแผ่นดินและผืนน้ำไปบอก
ผืนน้ำและแผ่นดินรู้สึกเศร้าใจที่เพื่อนได้ห่างออกไปไกล และคิดถึงเพื่อนเหลือเกิน ผืนน้ำพยายามที่จะม้วนตัวเป็นเกลียวคลื่นครั้งแล้วครั้งเล่า แผ่นดินพยายามยกตัวสูงจนตั้งตระหง่าน แต่นั่นก็ยังสูงไม่พอ ยังไม่ใกล้ท้องฟ้า
พระอาทิตย์ซึ่งเฝ้ามองดูเหตุการณ์มาโดยตลอด ก็บอกกับทั้งสองว่า "เราอาจจะช่วยพวกเจ้าได้" พระอาทิตย์จึงอาสาช่วย โดยการส่องแสงลงมายังผืนน้ำและแผ่นดิน ทำให้ระเหยกลายเป็นไอ ลอยไปรวมตัวกันเป็นก้อนเมฆ ลอยขึ้นไปบอกข่าวแก่ท้องฟ้า เล่าเรื่องราวต่าง ๆ เป็นรูปตามที่ แผ่นดินและผืนน้ำได้พบเจอมา และบอกว่าแผ่นดินและผืนน้ำคิดถึงมาก อยากให้ท้องฟ้าลงมาสนิทแนบชิดเหมือนเมื่อก่อน
ท้องฟ้าได้รับรู้เรื่องราว ก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็กลับลงไปไม่ได้ "ฉันกลับลงไปไม่ได้หรอก เพราะฉันเติบโตขึ้น และอยู่สูงเกินไป ลงไปไม่ได้แล้ว ฉันได้แผ่ขยายตัวเองจนกว้างขวาง ที่ฉันทำได้ก็เพียงแต่เฝ้ามองดูอยู่ไกลๆ และโอบกอดแผ่นดินและผืนน้ำไว้อย่างอ่อนโยนเท่านั้น
และถึงแม้จะมีนกบินมาส่งข่าว แต่ฉันก็ยังคิดถึงแผ่นดินและผืนน้ำ
และอยากจะบอกกับทั้งสองว่า ฉันเองคิดถึงเพื่อนมากมายเพียงใด
"ก้อนเมฆก็ตอบว่า"อยู่บนนี้นานๆก็เหงาเหมือนกัน บางทีก็อยากกลับลงไปข้างล่างบ้าง
" ท้องฟ้าเลยบอกว่า" ฉันก็เหงาเหมือนกัน แต่ว่าฉันกลับลงไปไม่ได้ แต่เจ้าลงไปได้นี่ ถ้าอย่างนั้นฉันจะส่งเจ้ากลับลงไป และความคิดถึงของฉันก็หนักมากพอที่จะส่งพวกเจ้าลงไปหมดทั้งท้องฟ้า"
จากนั้นก้อนเมฆทั้งหมดก็รวมตัวกัน และรวมเข้ากับความคิดถึงอันมากมายของท้องฟ้า แล้วตกลงมาเป็นหยาดฝน ส่งผ่านความรัก ความคิดถึงมายังแผ่นดินและผืนน้ำ
จึงไม่แปลก ถ้าเมื่อใดที่ฝนตก แล้วเราจะรู้สึกคิดถึงคนที่เรารักคนที่เราผูกพัน และบางครั้ง ท้องฟ้าก็ส่งความเหงาลงมาด้วย
13 ธันวาคม 2548 11:42 น.
แสงไร้เงา
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศแล้ว ถ้ามาเที่ยวกรุงเทพฯ สถานที่ๆได้รับการบรรจุไว้ในโปรแกรมทัวร์แทบทุกทัวร์เห็นจะหนีไม่พ้นแหล่งบันเทิงเริงราตรี อย่าง ถนนพัฒนพงศ์ หรือ "ซอยเคาบอย" ที่รู้จักกันดีในหมู่ของนักท่องเที่ยวที่ชอบแสง สี ยามราตรี
แต่ เอ๊ะ ... กรุงเทพฯ ของเราออกกว้างใหญ่ มันน่าจะมีอะไรน่าสนใจมากกว่านี้มิใช่หรือ?
แน่ละ ถ้ามีชาวต่างชาติถามคำถามนี้ขึ้นมาว่ากรุงเทพฯมีอะไรน่าเที่ยวกว่าพัฒน์พงศ์ เราคนไทยคงจะรีบตอบปฏิเสธในทันทีเลยว่า...
"พัฒนพงศ์...ไม่ใช่กรุงเทพฯสักหน่อย !"
เคยคิดเล่น ๆ กันบ้างไหมว่าพวกฝรั่งตาน้ำข้าวที่พากันมาเดินตุหรัดตุเหร่เที่ยวชมประเทศไทย หรือพากันมาทำมาหากิน ใส่สูท ผูกเนคไท เดินกันอยู่ตามตึกสูง ๆ ในย่านธุรกิจนี่ เขาคิดอะไรกันอยู่ถึงได้มาเมืองไทย เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าพวกฝรั่งพวกนั้น เขามองประเทศไทยและมองกรุงเทพมหานคร ฯ ของเรากันอย่างไร
คนแรกเป็นนางแบบสาวสวยชาวเยอรมันซึ่งมาร่วมเดินแฟชั่นโชว์ในงาน Bangkok Fashion City ชื่อ Nadja Auermann เธอคนนี้มาเมืองไทยเป็นครั้งที่สามแล้ว แถมยังเคยไปเที่ยวไกลถึงเกาะพีพีเสียด้วย นางแบบสาวสวยคนนี้บอกว่าเธอชอบช็อปปิ้งซื้อผ้าโสร่ง เครื่องปั้นดินเผาและก็เครื่องประดับในเมืองไทย นอกจากนี้เธอกำลังศึกษาพุทธศาสนาเสียด้วย ไม่เบาเลยแฮะ สรุปได้ว่านางแบบสาวสวยพูดถึงเมืองไทยในแง่ดีค่ะ
จากนางแบบสาวชาวเยอรมันเราไปฟังนักเขียนหนุ่มชาวเยอรมันเขาพูดถึงเมืองไทยบ้าง Christopher G. Moore เจ้าของผลงานเรื่อง Pattaya กับ Land of Smiles Trilogy และ อีกหลายเรื่องที่เขาเขียนเกี่ยวกับเมืองไทย งานเขียนของเขาได้รับการแปลเป็นภาษาจีน ญี่ปุ่น เยอรมัน และ ไทย มีขายในหลาย ๆ ประเทศ
Christopher เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเขามาเมืองไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2526 หลังจากมาครั้งแรกแล้วเกิดติดอกติดใจเลยย้ายมาอยู่เป็นการถาวรตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 โน่น ตอนนี้นับไปนับมาก็รวมเวลาอยู่ในเมืองไทยสิบกว่าปีเข้าไปแล้ว Christopher บอกว่าก่อนมาตั้งรกรากอยู่เมืองไทยเขาเคยอาศัยอยู่ที่นิวยอร์คกับลอนดอนมาก่อน และก็เคยไปอยู่ที่โตเกียวกับปารีสมาพักใหญ่ อยู่มาหลายเมืองก็พบว่าไม่มีเมืองไหนที่อยู่แล้วมีความสุขสนุกสนาน ตื่นเต้นราวกับได้ผจญภัยตลอดเวลา 24 ชั่วโมงเหมือนกับกรุงเทพฯ ของเรา Christopher ให้ความเห็นว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งความแตกต่างและความขัดแย้ง ในกรุงเทพฯ มีทั้งวัฒนธรรมเก่า ๆ และความทันสมัย มีความหรูหราและความยากจน ความแตกต่างขัดแย้งเหล่านี้ทำให้นักเขียนอย่างเขาไอเดียบรรเจิด ความคิดสร้างสรรค์กระฉูด มีเรื่องมาเขียนหนังสือขายกินมากมาย
นอกจากความตื่นเต้นสนุกสนานของการได้อยู่ได้เป็นชาวกรุงเทพฯ แล้ว Christopher พูดถึงความเปลี่ยนแปลงของกรุงเทพฯ ไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า "ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับกรุงเทพฯ นั้นเป็นสิ่งซึ่ง "เติม" กรุงเทพฯให้เต็มขึ้นและในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งซึ่งทำให้กรุงเทพฯ นั้น "ขาด" หลายสิ่งหลายอย่างไป เพราะความเปลี่ยนแปลงพวกนี้นำความเจริญทางวัตถุมาให้กรุงเทพฯ แต่สิ่งที่มาพร้อม ๆ กับความเจริญทางวัตถุนั้นคือความขาดและการบั่นทอนวัฒนธรรม เอกลักษณ์และตัวตนของกรุงเทพฯ ลงไป สีสันของการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมถูกแทนที่ด้วยแสงสีของสังคมเมืองมากขึ้นทุกที ๆ
เป็นไงคะ ความคิดของฝรั่ง ... แต่เมื่อคิดดูดี ๆ ที่เขาว่ามามันก็จริงของเขานะ
ทีนี้มาถึงนักเขียนอีกคนหนึ่ง คนนี้ชื่อ Jake Needhams เจ้าของงานเขียนชื่อ "The Big Mango" กับ "Tea Money" ชื่อหนังสือ Tea Money ของคุณคนนี้อ่านแล้วหัวใจกระตุกอย่างไรชอบกล
Jake อยู่เมืองไทยมานานเป็นสิบปีแล้วเหมือนกัน เขาบอกว่าเขาไม่ได้ไปเที่ยวพัฒนพงศ์มาหลายปีแล้ว ที่เที่ยวกลางคืนแถบซอยนานากับซอยเคาบอยเขาก็ไม่ได้ไป สำหรับเขาความมีชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ ไม่ได้อยู่ที่ย่านเริงราตรีเหล่านี้ แต่กรุงเทพฯ มีอะไรที่ดี ๆ น่าสนใจอีกมากมาย ตามความเห็นของ Jake กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับเมืองใหญ่อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ซาน ฟรานซิสโก ลอส แองเจิลลิส วอชิงตัน ฮ่องกง สิงคโปร์ ปารีส หรือ ลอนดอน
โอ้โฮ...เหมือนกับที่ Christopher ว่าไว้เลย สงสัยในสายตาของบรรดาฝรั่งทั้งหลายนี่ กรุงเทพฯ ของเราคงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หาที่ไหนเสมอเหมือนไม่ได้ น่าภูมิใจจัง
เมื่อพูดถึงสถานที่และความน่าสนใจของกรุงเทพฯ Jake บอกว่าเขาไม่ใช่คนชอบเดินชมวัดวาอารามหรือพิพิธภัณฑ์เท่าไรนัก แต่สิ่งที่เขาชอบมากคือถนนหนทางในกรุงเทพฯ นี่เอง เพราะว่ามันเต็มไปด้วยเรื่องราวของชีวิตหลาย ๆ ชีวิต เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีว่าน่าตื่นเต้น และที่สำคัญคือถนนในกรุงเทพฯ เป็นที่ที่ใครคนหนึ่งสามารถเดินดูโน่นดูนี่ได้ทั้งวันทั้งคืนอย่างค่อนข้างจะปลอดภัย นี่ละ คือสิ่งที่ Jake ชื่นชมมาก
คำว่า "ไม่เป็นไร" เป็นคำที่ Jake เห็นว่าบอกถึงลักษณะเฉพาะของความเป็น "ไทย" ได้ดีและค่อนข้างชัดเจน ตามความเห็นของเขาวิถีชีวิตและวิธีการคิดแบบไทย ๆ เป็นเป็นรากฐานของศิลปะในการดำรงอยู่ในความขัดแย้ง เขาคิดว่าเกือบทุกสิ่งทุกอย่างในวิถีชีวิตของคนไทยนี่ดำเนินไปตามศาสตร์และศิลปของ "การหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง" อันนี้คงเป็นเพราะนิสัยประณีประนอม อ่อนน้อมแบบไทย ๆ ของคนไทยหน้ายิ้มแป้นทั้งหลายนั่นแหละนะ ส่วนใหญ่อะไรพูดจาตกลงกันดี ๆ ได้ก็เจรจากันไป ไอ้เรื่องที่จะไปทะเลาะตบตีกันไม่ค่อยมี ความง่าย ๆ เย็น ๆ ไม่เรื่องมาก ไม่ค่อยทะเลาะกันถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริง ๆ นี่ Jake บอกว่าเป็นสิ่งที่ดีมากและทำให้การดำรงชีวิตในสังคมไทยต่างจากสังคมตะวันตกมาก เพราะในสังคมตะวันตกนั้น ทุกคนดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยความขัดแย้ง ถ้าเกิดคนในสังคมตะวันตกมีเรื่องกับใครหรือกระทบกระทั่งกับใครแล้วไม่ทะเลาะกันให้ตายไปข้างหนึ่งนี่ พวกเขาคงไข้ขึ้น
เท่าที่ว่ามานี่ คงพอสรุปได้ว่าในสายตาฝรั่งที่อยู่กรุงเทพฯ นาน ๆ หรือมาเมืองไทยกันหลาย ๆ รอบนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะเห็นทั้งด้านดีและด้านไม่ดีของบ้านเมืองของเรา แต่เหตุผลที่เขาชอบคงเป็นเพราะกรุงเทพฯ ของเราเป็นเมืองแห่งสีสัน มีชีวิตชีวาตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนวิถีชีวิตแบบไทย ๆ ก็คงเป็นวิถีชีวิตที่เขาเห็นว่าเรียบง่าย ไม่ค่อยมีความขัดแย้ง
ได้ฟังฝรั่งเขาพูดถึงกรุงเทพฯและประเทศไทยที่รักยิ่งของเราในแง่ดีแบบนี้แล้ว ...ดีใจจังค่ะ
Jake Needhams
Christopher G.Moore
Nadja Auerma
12 ธันวาคม 2548 15:19 น.
แสงไร้เงา
ถ้าว่ากันตามท้องเรื่อง เอ๊ย! ชื่อเรื่องคราวนี้ เห็นทีต้องร้องเพลง แฮ้ปปี้เบิร์ธเดย์ ทูยู และ แฮ้ปปี้ เบิร์ธ์เดย์ ทูมี ไปพร้อมๆ กันได้เลยละค่ะ ก็เพราะว่า หญิงไทย ฉบับนี้จัดทำเป็นพิเศษในโอกาสขึ้นรอบปีที่ 27 และเพราะว่าในแต่ละวันไม่ว่าจะวันไหนก็ย่อมจะต้องตรงกับวันเกิดของใครเข้าสักคน หรืออาจจะหลายคนก็ได้
รู้จัก...รู้ใจ ฉบับนี้จึงมีเรื่องของวันเกิดกับสีประจำวันเกิดมาฝากให้อ่านกันสนุกๆ ค่ะ ลองตรวจดูว่าวันเกิดของคุณตรงกับสีใด และสีแต่ละสีมีความหมายที่บ่งบอกถึงอุปนิสัยใจคอของคุณอย่างไรบ้าง
วันเกิดของคุณ...
23 ธันวาคม - 1 มกราคม = สีแดง
2 มกราคม - 11 มกราคม = สีส้ม
12 มกราคม - 24 มกราคม = สีเหลือง
25 มกราคม - กุมภาพันธ์ = สีชมพู
4 กุมภาพันธ์ - กุมภาพันธ์ = สีฟ้า
9 กุมภาพันธ์ - 18 กุมภาพันธ์ = สีเขียว
19 กุมภาพันธ์ - 28 กุมภาพันธ์ = สีน้ำตาล
1 มีนาคม - 10 มีนาคม = สีน้ำ
11 มีนาคม - 20 มีนาคม = สีเหลืองมะนาว
21 มีนาคม = สีดำ
22 มีนาคม - 31 มีนาคม = สีม่วง
1 เมษายน- 10 เมษายน = สีน้ำเงิน
11 เมษายน - 20 เมษายน = สีเงิน
21 เมษายน - 30 เมษายน = สีเขียว
1 พฤษภาคม - 14 พฤษภาคม = สีฟ้า
15 พฤษภาคม - 24 พฤษภาคม = สีทอง
25 พฤษภาคม - 3 มิถุนายน = สีครีม
4 มิถุนายน - 13 มิถุนายน = สีเทา
14 มิถุนายน - 23 มิถุนายน = สีแดงเข้มอมน้ำตาล
24 มิถุนายน = สีเทา
25 มิถุนายน - 4 กรกฎาคม = สีแดง
5 กรกฎาคม - 14 กรกฎาคม = สีส้ม
15 กรกฎาคม - 25 กรกฎาคม = สีเหลือง
26 กรกฎาคม - 4 สิงหาคม = สีชมพู
5 สิงหาคม - 13 สิงหาคม = สีฟ้า
14 สิงหาคม - 23 สิงหาคม = สีเขียว
24 สิงหาคม - 2 กันยายน =สีน้ำตาล
3 กันยายน - 12 กันยายน =สีน้ำ
13 กันยายน - 22 กันยายน = สีเหลืองมะนาว
23 กันยายน = สีเขียวมะกอก
24 กันยายน - 3 ตุลาคม = สีม่วง
4 ตุลาคม - 13 ตุลาคม = สีน้ำเงิน
14 ตุลาคม - 23 ตุลาคม = สีเงิน
24 ตุลาคม - 11 พฤศจิกายน = สีขาว
12 พฤศจิกายน - 21 พฤศจิกายน = สีทอง
22 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม = สีครีม
2 ธันวาคม - 11 ธันวาคม = สีเทา
12 ธันวาคม - 21 ธันวาคม = สีแดงเข้มอมน้ำตาล
22 ธันวาคม = สีฟ้าอมเขียวเข้ม
ความหมายแห่งสี
สีแดง
คุณเป็นคนประเภทกุ๊กกิ๊ก น่ารัก ช่างเลือก...แต่ก็ตกหลุมรักง่าย และชอบที่จะเป็นที่รักของคนอื่น โดยพื้นฐานแล้วคุณมักจะร่าเริง สดใส แต่ก็มีอารมณ์บูดบ้างเป็นครั้งคราว คุณชอบคบหาคนที่สุภาพ อ่อนโยน และรักคุณในแบบที่คุณเป็น โดยเฉพาะคนที่คุยด้วยแล้วทำให้คุณสบายใจนั่นละ
สีครีม
ขี้เล่น สนุกสนาน ชอบการแข่งขัน ไม่ชอบการพ่ายแพ้หรือสูญเสีย รักการใช้ชิวตนอกบ้านขอบออกไปรู้ไปเห็นโลกภายนอก ในด้านความรัก ยากที่คุณจะตกหลุมรักใครง่ายๆ คุณจะเลือกเฟ้นอย่างพิถีพิถันเชียวละ แต่เมื่อไหร่เจอคนที่ ใช่ คุณเป็นไม่ปล่อยให้หลุดมือไปได้เหมือนกัน เพราะคุณเป็นคนรักจริง รักนาน ประมาณว่า รักจนตราบชั่วฟ้าดินสลาย ขนาดนั้นเลยนะ
สีฟ้าอมเขียวเข้ม
คุณสนใจและให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองมากๆ แถมยังตั้งมาตรฐานความรักเอาไว้ซะสูงปรี๊ด คุณพยายามที่จะคิดและแก้ปัญหาต่างๆ โดยยึดความถูกต้อง เรียกว่าในชีวิตนี้ แทบจะไม่เคยทำผิดพลาดอย่างโง่ๆ เลยก็ว่าได้นอกจากนั้น คุณยังชอบที่จะเป็นผู้นำและมีความสามารถในการผูกมิตรอีกด้วย
สีเทา
คุณเป็นคนมีเสน่ห์และกระตือรือร้น รู้สึกอะไรก็แสดงออกมาหมด ไม่เคยเก็บอะไรไว้ข้างใน เห็นแต่ตัวบ้างในบางครั้ง ชอบเป็นจุดเด่นให้คนอื่นสนใจ และจะทนไม่ได้กับการถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม แต่โดยทั่วไปแล้วคุณสามารถทำให้คนที่อยู่ใกล้รู้สึกดีเพราะคุณรู้ว่าควรจะพูดอะไรตอนไหน แถมยังมีอารมณ์ขันเหลือเฟือ
สีเขียว
คุณเข้ากับเพื่อนใหม่ๆ ได้ดี เพราะคุณไม่ใช่คนขี้อายเลย แต่บางทีคำพูดของคุณก็อาจจะทำร้ายความรู้สึกของคนอื่น คุณชอบที่จะเป็นที่รักและเป็นที่สนใจของคนที่คุณรัก แต่โดยมากแล้วคุณมักจะอยู่เดียวเปลี่ยวเอกาเพราะมัวแต่รอคอยคนที่ ใช่เลย
สีทอง
คุณรู้ว่าสิ่งไหนผิด สิ่งไหนถูก และโดยพื้นฐานนิสัยคุณเป็นคนร่าเริงและชอบออกสังคม ในด้านความรักคุณรักใครยาก แต่เมื่อพบคนๆ นั้นเข้าแล้วคุณก็จะไม่ตกหลุมรักใครไปอีกนานเลย
สีชมพู
คุณมักจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด คุณชอบช่วยเหลือและเอาใจใส่ผู้อื่นแต่คุณก็ไม่ใช่คนที่พอใจอะไรง่ายนัก แถมยังมักจะคิดอะไรในทางลบอีกด้วยในเรื่องของหัวใจ คุณมองหาความรักโรแมนติก หวานหยดประมาณในเทพนิยายนั่นเลย
สีเหลือง
คุณเป็นคนซื่อ อ่อนหวาน ไร้เดียงสา เป็นที่เชื่อถือของหลานๆ คน และมีความเป็นผู้นำสูง คุณมักจะตัดสินใจได้ดี และเลือกได้ถูกต้องถูกเวลาเสมอ คุณใฝ่ฝันความรักที่อ่อนหวาน โรแมนติกเช่นกัน
สีแดงเข้มอมน้ำตาล
ฉลาดและไม่ไหวพริบเป็นเลิศ คุณรู้เสมอว่าสิ่งใดถูก แต่คุณชอบทำอะไรในวิถีทางของตัวเอง ซึ่งบางครั้งก็อาจทำให้เกิดปัญหาจากการที่คุณลืมคิดถึงความรู้สึกคนอื่นในเรื่องของความรัก คุณจะมีความอดทนเป็นพิเศษและเมื่อคุณพบคนที่เหมาะสมเข้าแล้วคุณจะไม่คิดมองใครอีกเลย
สีส้ม
คุณเป็นคนที่กล้ารับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง และคุณรู้ว่าควรจะปฏิบัติกับใครอย่างไรคุณมักจะมีเป้าหมายในชีวิตให้ไขว่คว้าและแข่งขันอยู่เสมอ แต่เมื่อเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ คุณค่อนข้างจะไว้ใจคนยากดังนั้นเมื่อพบเพื่อนถูกใจสักคน คุณจึงมักจะทุ่มใจให้ไปทั้งดวง
สีม่วง
คุณเป็นคนที่ค่อนข้างลึกลับ แต่ใจกว้างตลอด ไม่เคยเห็นแก่ตัวกับใคร และสนอกสนใจอะไรได้ง่ายๆ ความสุขและความเศร้าในแต่ละวัน ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของคุณเองแต่ออกจะเป็นที่ชื่นชอบในหมู่เพื่อนๆ แม้จะชอบทำตัวงี่เง่าในบางครั้งก็ตาม นิสัยอีกอย่างหนึ่งคือ ขี้ลืม และส่วนใหญ่คุณจะแสวงหาความน่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ในตัวบุคคลอื่น
สีเหลืองมะนาว
คุณเป็นคนใจเย็น ไม่ค่อยเครียดกับอะไรง่ายๆ แต่คุณมักจะขี้อิจฉา และขี้บ่นในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ คุณไม่ค่อยยึดติดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่คุณก็มีบุคลิกที่น่าเชื่อถือ ซึ่งทำให้ทุกคนไว้ใจและชื่นชอบในตัวคุณ
สีเงิน
คุณเป็นคนช่างจินตนาการ และขี้อาย แต่ขณะเดียวกันก็ชอบลองอะไรใหม่ๆ คุณชอบที่จะท้าทายตัวเอง สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ง่าย และชอบอะไรที่ ได้มายากๆ เลยพาลทำให้ชีวิตรักของคุณยุ่งยากและสับสนตามไปด้วย
สีดำ
คุณเป็นคน มีกึ๋น พอตัวทีเดียว และชอบทำอะไรที่ท้าทาย แต่ไม่ยักชอบการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของตัวเอง เวลาคุณตัดสินใจอะไรแล้ว มิมีวันเปลี่ยนเป็นอื่น ชีวิตรักของคุณก็เลยพลอยตื่นเต้น ท้าทาย ไม่เหมือนใครเขา
สีเขียวมะกอก
คุณเป็นคนอบอุ่น จิตใจอ่อนโยน และดูเหมือนว่าคุณจะเข้าได้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคนในครอบครัว คุณไม่ชอบความรุนแรงและรู้ว่าสิ่งใดถูก นอกจากจะใจดีร่าเริงแล้ว คุณยังไม่อิจฉาใครง่ายๆ ด้วย
สีน้ำตาล
กระฉับกระเฉง กระตือรือร้น แต่ใครเข้าถึงได้ยาก ทั้งที่คุณก็ตกหลุมรักได้ง่าย เวลาที่คุณไม่สามารถจะไขว่คว้าสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาได้ คุณจะตัดใจและปล่อยมันไปแต่โดยดี
สีฟ้า
คุณไม่ค่อยเห็นคุณค่าของตัวเองสักเท่าไหร่ และช่างเลือกมาก คุณค่อนข้างมีอารมณ์ศิลปิน และชอบหลงรักใครเขาไปทั่ว แต่ไม่เอาจริงสักที เพราะคุณรักด้วยสมองไม่ใช่ด้วยหัวใจ
สีฟ้า
เป็นคนมีเสน่ห์ รักชีวิตตัวเอง ค่อนข้างมีความรู้สึกที่รุนแรงกับทุกสิ่งทุกอย่างและเปลี่ยนแปลง โลเลง่าย หากมีใครทำให้โกรธเคืองละก็ ยากมากที่คุณจะให้อภัย
สีขาว
คุณช่างฝัน และมีเป้าหมายในชีวิต แต่มักจะขวางหูขวางตา เกิดอาการอิจฉาตาร้อนบ่อยๆ และไม่สามารถไขว่คว้าอะไรมาได้ง่ายๆ บางครั้งก็ชอบคิดเปรียบเทียมตัวเองกับคนอื่นซะอีก
สีน้ำ
ความรู้สึกของคุณเปลี่ยนแปลงได้ง่ายและรวดเร็ว วูบๆ วาบๆ ไหวไปไหวมา คุณจึงมักจะโดดเดี่ยวและชอบเดินทางไปไหนๆ คนเดียว คุณเป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้ แต่มักจะฟังและเชื่อคนอื่นมากเกินไป ถ้าจะหารักก็ต้องบอกว่ายากนักสำหรับคุณถึงแม้คุณจะหลงง่ายและทำให้ต้องเจ็บปวดเพราะความรักอยู่บ่อยครั้งก็ตาม
10 ธันวาคม 2548 01:03 น.
แสงไร้เงา
สวัสดีค่าาาา สาวๆ ทั้งหลายมีสูตรความงามอันหอมหวานและเย็นฉ่ำมาเสิร์ฟกันถึงที่อีกแล้วครับทั่น วันจันทร์วันแห่งการเริ่มต้นทำงานอย่างนี้ หวังว่าทุกคนคงมีหน้าตาสดใสกันทุกคนนะคะ อ๊ะๆ ที่ทำหน้ามุ่ยน่ะ เพราะจับดูแล้วหน้าไม่เกลี้ยงใสอย่างใจหวังล่ะสิ
งั้นเตรียมรับสูตรความงามอันเย็นฉ่ำได้เลย แต่ใครที่ผิวแพ้ง่ายอาจต้องระวังกันซักนิด ส่วนผสมสำหรับ 1 หน้า เริ่มจากนำสตรอเบอรี่ 2 ลูก แตงกวาผ่าครึ่ง 1 ซีก น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และน้ำขิงสดที่คั้นจากราก มาผสมให้เข้ากัน โดยอาจนำเข้าเครื่องปั่นจะได้ผสมปนเปกันดิบดี จากนั้นให้นำมาพอกทั่วทั้งใบหน้า ยกเว้นบริเวณรอบดวงตา ทิ้งไว้สัก 10 นาที อาจรู้สึกแสบนิดๆ เมื่อครบกำหนดก็ให้ล้างออก ทำบ่อยๆ สัปดาห์ละครั้ง หน้าก็จะเกลี้ยงเกลา เบา สบาย สมใจนึกแล้วล่ะค่ะ
ข้อมูลจาก
หนังสือพิมพ์คมชัดลึก