18 มีนาคม 2549 04:37 น.
แสงไร้เงา
. . . . . .
อาหารเที่ยง ..
10 มีนาคม 2549 05:28 น.
แสงไร้เงา
อีกวันกับชีวิตนี้ ทีผ่านไป ( Snow's Day ...
เช้าวันนี้ประมาน 7 กว่า ๆ ได้ เสียงนาฬิกาไม่ได้ปลุก เพราะเสียงหลายชายคนเล็กร้องมาตั้งมาแต่ข้างล้างบ้าน เพ็ญพร ....เพ็ญพร ดังมาก ๆ ผิดปกติ เราก็ตกใจนึกว่าหลานเป็นอะไร วิ่งหน้าตาตั้งขึ้นไปหาเราบนห้อง เราก็สีหูสีตาตื่นขึ้นมา อะไร เป็นอะไร ร้องดังทั่วบ้านเลย
หิมะตก หิมะตก เราก็รีบลุกขึ้นมองหน้าต่าง หลังคาบ้านขาวหมดทุกหลัง
เป็นอะไรทีสวยงามมาก ๆ
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นหิมะ ก็เห็นบ่อย แต่ทุกครั้งที่หิมะตก
หลาน ๆ และเหมียว จะตื่นเต้นดีใจทุกที เป็นอะไรหนักหนา
ก็ไม่รู้เหมือนกัน ตื่นเต้นไม่หายสักทีเลย ..
ไอ้หลายคนโต ดีใจไม่ได้เป็นโรงเรียน ถ้าหิมะตกหลานชายก็ตั้งท่าจะไม่เป็นโรงเรียนอย่างเดียวเลย
สุดท้ายก็ต้องไป แม่เขาก็ไปส่งทีโรงเรียน ..
หลานคนเล็ก ก็ชอบกินหิมะเป็นที่สุด ชอบแอบหยิบใส่ปาก ไม่อยากให้เขากินเพราะมันสกปรก...
ไปโรงเรียนก็บอกว่า ดีใจที่เห็นนักเรียนมาโรงเรียน และขอบคุณที่มา
เพราะถ้าหิมะตก ส่วนมากเขาจะไม่ไปโรงเรียนกัน
ถึงโรงเรียนก็หนักใจเพราะมีสอบ เพื่อนแต่ละคนก็หน้าไม่ยิ้มกันเลย
หนักใจกว่าจะสอบไม่ได้ แต่เราสิกลับยิ้มไม่หุบ เพราะดีใจทีหิมะตก
หน้านะติดขอบหน้าต่าง เพราะมองดูหิมะ วันนี้สอบก็ขอไปนั่งติดขอบหน้าต่าง
มองดูหิมะตก แล้วสวยดี ชอบนะค่ะ มองสบายใจด้วย
มันเป็นอะไรที่บริสุทธิ์ บรรยายไม่ถูก...
โปรยลงมาอย่างช้า ๆ สีขาวใส ....
จะเปรียบเหมือนอะไรดีนะ ที่เมืองไทย....
ก็เหมือนกับสายฝน แต่เพียงมันเป็นน้ำแข็งเท่านั้นเอง
เหมือนกับน้ำแข็งใสบ้านเรา ..
มันต่างกันเพียงว่า น้ำแข็งใส ต้องใสมาจากก้อนน้ำแข็ง
แต่หิมะตกมาจากบนฟ้าเท่าน้นเอง ..... * i * ..
ทำข้อสอบก็ออกจากห้องก่อนเพื่อน
เพราะทำไม่ได้จะนั่งแช่อยู่ทำไม
เพื่อนบ้างคน นั่งอยู่อย่างนั้นล่ะ ทั้ง ๆ ที่ทำไม่ได้ ก็นั่งไม่ยอมลุก
เหมียวไม่สน ทำไม่ได้ก็คือไม่ได้ นั่งไปก็ไม่มีใครช่วยเราได้
ออกไปดีกว่า ไปดูหิมะตก ไปเล่นหิมะดีกว่า สบายใจดี
ออกจากห้องเรียนได้ รีบวิ่งไปจ่ายเงินค่าเทอม
รีบวิ่งกลับมานั่งรอพี่คนไทยอีกคนหนึ่ง ชื่อพี่น้อย
พี่คนนี้น่ารักมาก เขาเป็นคนกรุงเทพ น่ารักมาก ..( ไม่เหมือนอีกคน...)
เรียนอยู่ห้องเดียวกัน แต่พี่เขายังสอบไม่เสร็จ
นัดกันหลังสอบ ..ชวนกันเล่นหิมะ ก็สนุกดี เปลียนกันถ่ายรูป
เป็นบ้าถ่ายรูปทั้งคู่ ท่าแต่ละท่ายิ่งกว่านางแบบ อิอิอิอ....
แต่ละก็กลัวตัวเองไม่สวย...
เล่นหิมะเสร็จ ก็ทำอาหารเที่ยงกินที่บ้านพี่น้อย
เหนีอยเหมือนกันนะ แต่หนาวมาก ๆ จมูกแดงเหมือนลูกมะเขือเทศเลย
ไม่สบายแน่ ๆ เพราะเล่นนานเกิน..
ก็สนุกกันสองคน บ้ากันสองคน เฮหาเหมีอนอยู่สิบคนเลย
พี่น้อยก็ขับรถมาส่งที่บ้าน ...
หลายชายคนเล็กก็ยังชวยไปเล่นอีกรอบ..
หลายบอกว่าเล่นคนเดียวไม่สนุก..
ก็ไม่สนุกจริง ๆ ก็เพราะมันไม่คนโยนหิมะเล่นกะเขา
จะโยนหิมะใส่กันเล่น จนเสี้อเปียกหมด แต่ก็สนุกดี
สุดท้ายก็ต้องอาบน้ำทั้ง ๆ ที่หนาวสุด ๆ
ไม่อาบไม่ได้ เพราะเปียก เดี๋ยว.................. ( คิดเอาก็แล้วกันนะ..อิอิอิอ..
สุดท้ายก็มานั่งพิมพ์ข้อความนี้ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน
นี้ก็เป็นอีกวันของชีวิตนะค่ะ
ทีมีความสุข และ enjoy ไปกับมัน....
มีภาพสวย ๆ แต่เอาลงไม่ได้
เพราะขนาดรูปมันใหญ่เกินขนาดที่กำหนกไว้
ย่อรูปไม่ได้นะค่ะ ไม่มีโปรแกรมนะค่ะ....
ถ้าทำได้ จะเอามาลงทีหลังนะค่ะ
อยากให้โชว์เหมือน สวยมาก ๆ ....
ผ่ า น ไ ป อี วั น....
ปล.ทีเขียนและเขามาลงในเวปนี้
ไม่ได้มีเจตนาทีจะโอ้อวดนะค่ะ
เพียงแค่อยากแชร์ความรู้และประสบใหม่ ๆ
กับเพื่อน ๆ เท่านั้นเอง ....
ขอบคุณค่ะ...
5 มีนาคม 2549 11:02 น.
แสงไร้เงา
เพียงแค่อยากระบายนะค่ะ....
วันนี้วันศุกร์ แต่ไมสุขนะวันนี้...
เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ..เล่าสั้น ๆ แล้วกันนะค่ะ...
เพิ่งรู้จักคนไทยคนหนึ่งที่โรงเรียน ...
เรียนด้วยกันทุกวันศุกร์ที่ห้องคอมพิวเตอร์...
ไอ้เราก็ดีใจมีเพื่อนเป็นคนไทยอีกคน ก็เลยนั่งข้างๆ กัน
เผื่อว่ามีไรจะได้ถามกันได้หน่อย...
เราและคนนั้นก็หาภาพเมืองไทย เพราะอยากโชว์กับคุณครู...
ก็หาไป...หามา...เพื่อนรุ่นพี่คนนั้นเขากดเข้าไปเจอ ภาษาลาว..
เราก็มองไปเห็น เราก็เลยทักว่า ทำไมตัวหนังสือมันกลับหัวกลับหางละ..
เราก็ถามไปด้วยซื่อ ๆ ..ไม่ได้คิดว่าเป็นภาษาลาว...เพราะไม่รู้จริง ๆ
แต่เพื่อนคนนั้นกลับตอบเรากลับมาว่า อ้าว..ก็ภาษาบ้านเธอไม่ใช่เหรอ...?
นึ้คือคำพูดที่เขาตอบเรากลับมา ..ส่วนน้ำเสียง...หน้าตา และสายตาไม่ต้องพูดถึง....
เราก็อึงไปพักหนึ่ง...ไม่ได้พูดอะไรกันต่อ..
เราก็เงียบ..เขาก็เงียบไป ...เราก็หาภาพต่อไป....
เลิกเรียนต่างคนต่างไป ไม่มีคำลากันเลย...
เหมียวเองล่ะที่ไม่ลา.....
กลับมาถึงบ้าน กลับมานั่งคิดทบทวนกับคำพูดที่เธอคนนี้นพูดกับเราอยู่ในห้องเรียน...
เกิดคำถามขึ้นมาทันที...ทำไมเหรอ บ้านอยู่อิสาน พูดอิสาน แล้วไม่ใช้คนไทยเหรอ..?
เราน้อยใจมากกับคำที่เขาพูด..ไม่รู้ทำนะ ถึงน้อยใจ คงน้อยใจแทนครอบครัว ญาติพี่น้อง
น้อยใจแทน คนอีสานอีก 19 จังหวัด..ถ้าเขาได้ยินแบบนี้เขาจะรู้สึกอย่างไร....?
ที่เขียนเอามาลงนี้ ไม่มีประสงค์ร้ายนะค่ะ หรือว่าใครเลย ....
เป็นอารมณ์ที่น้อยใจกับคำพูดของพี่ที่โรงเรียนเท่านั้นเองนะค่ะ...
เพียงแค่อยากระบายเท่านั้นเอง ....
อยากระบายเป็นอักษรดีกว่า จะไปทำอะไรที่มันไม่ดี...
28 กุมภาพันธ์ 2549 09:20 น.
แสงไร้เงา
คงไม่มีมาตราวัดใด ๆ ที่จะใช้วัดระยะห่างของความรู้สึกได้
ระยะห่างในแต่ละความรู้สึก ในแต่ละคนก็คงจะไม่เท่ากัน...
วันเวลาที่ผ่านมา ชั่วระยะเวลาหนึ่งของชีวิต ผู้คนมากมายผ่านเข้ามา .........
บางคนผ่านมาเพียงเพื่อจะผ่านไป ..เท่านั้นเอง ..
แต่กลับบางคนกลับไม่เป็นเช่นนั้น...
จากคนแปลกหน้า กลายเป็นคนรู้จัก
จากคนรู้จัก เป์นคนคุ้นเคย ล่วงเลย
ไปถึงกลายเป็นคนรักกัน ....
ทำลายระยะห่างของความรู้สึกให้สั้นลง....อย่างรู้สึกได้
แต่ในทางกลับกัน...
ระยะห่างของบางคน อาจห่างไกลออกไปจนสุดหูสุดตา ....
บางคน..จากคนเคยรักกัน
จากคนที่เคยคุ้น ....กลายเป็น
เหลือเพียงแค่คนเคยรู้จัก ...
จากคนรู้จัก กลายเป็นคนแปลกหน้าทางความรู้สึกไป ...
บางทีกับคนบางคน ...
อยากให้มันเป็นมากกว่าคนรู้จัก
ก็จะพยายามทำให้ระยะห่างมันสั้นลง
แต่กับคนบางคน อยากเป็นน้อยกว่าที่เป็นอยู่ . .......
ก็จะพยายามทำให้ระยะห่าง..ยาวไกลออกไป...
แต่กับบางคนกลับอยากจะรักษา ระยะห่าง ตรงกลาง ไว้ให้คงที่
ไม่ให้ห่างหาย จางหนี หรือ เข้ามาใกล้จนเรารู้สึกอึดอัด....
แต่บางที ..ขณะที่เราเดินเข้าหา บางคนกลับกำลังเดินหนี
กับบางคนเรากำลังเดินหนี บางคนกลับเดินตาม... ....
ขณะที่...บางคนวิ่งตาม ล้มลุกคลุกคลาน...
เจ็บปวดกับระยะห่างของอีกคนที่ทิ้งไว้ตรงนั้น....
ขณะเดียวกันกับที่อีกคนก็วิ่งหนี ....
โดยไม่คิดจะหันกลับมามองความเจ็บปวดของอีกคน
บางทีการทำลายระยะห่างของสองคนอานไม่ใช่เรืองยาก..
แต่ก็ไม่ได้ง่ายดายนักสำหรับอีกหลาย ๆ คน ...
บางคนพยายามมาเกือบทั้งชีวิต...
ขณะที่บางคนอยู่นิ่ง ๆ ไม่วิ่งหนี ไม่วิ่งตาม
ปล่อยทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของเวลา
ไม่เรียกร้องให้เกิดความคาดหวัง ไม่ปล่อยละเลยจนเหมือนชาเฉย
ระยะห่างนั้นกลับขยับเข้ามาใกล้ราวกับปฏิหาริย์...
..เคยรู้สึกไหมว่า...บางที ..รู้สึกห่างไกล...ทั้งที่ตัวอยู่ใกล้ๆ
หรือรู้สึกใกล้ ๆ กัน.....ทั้ง ๆ ที่ตัวอยู่แสนไกลกัน ...บ้างไหม.... ?
ระหว่างคนพยายามเดินหนี ..กับ ..
.. คนที่พยายามเดินตาม ...
และคนที่พยายามยังไงระยะห่างกลับเท่าเดิม
...คนไหนเจ็บปวดไปกว่ากัน...
ความรู้สึกระยะห่างระหว่างคน....