12 พฤษภาคม 2549 05:38 น.
แสงไร้เงา
เพลงเศร้าๆ ( หลังไมค์มีไออุ่น )
ที่มา : หนังสือ good words good feeling ( หลังไมค์มีไออุ่น )
ผู้แต่ง : ดีเจ นภาพร
...เพลงเศร้าๆ...
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่มีรายชื่อเพลงเศร้าๆ เข้ามาเยอะเหลือเกินค่ะ
เล่นเพลงช้าตลอด 24 ชม. เนี่ย หลีกเลี่ยงเพลงเศร้าๆ ได้ยากเหลือเกิน เคยแอบนึกเล่นๆ ว่า คนที่มีความสุขเนี่ย เค้าไม่ฟังวิทยุกันหรือไงน้า ... บางทีเล่นเพลงเศร้ามากๆ เคยมีข้อความเข้ามาต่อว่าด้วยนะคะว่า จะตอกย้ำกันไปถึงไหน ... โถ ใครจะไปทำร้ายคุณขนาดน้านนน แต่อยากให้คุณรู้สึกต่างหากว่า เพลงเศร้าขนาดนี้เนี่ย เคยมีคนขอบ่อยครั้ง คนๆนั้นเคยฟังแล้วร้องไห้ จนฟังแล้วเฉยๆ จนฟังแล้วนึกแอบขำว่า เออ..เพลงนี้เคยทำให้ฉันร้องไห้ได้ด้วยนะ เพราะฉะนั้นความรู้สึกเศร้าๆแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณคนเดียวหรอก ... เคยหาเหตุผลที่ทำให้เศร้ามั้ยคะบางทีเหมือนมีหลายเหตุผล แต่ส่วนใหญ่มักจะกลับมาที่สาเหตุเดียวกัน
โลกสอนมนุษย์ว่า
ทุกสิ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง
แต่โลกก็ดันสอนให้มนุษย์ผูกพัน
แล้วจะไม่เศร้าได้ยังไง?
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานเรื่องความรัก หรือครอบครัว เมื่อเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่คุณก็จะเริ่มเศร้า พอวลาผ่านไปคุณก็เริ่มผูกพันกับสิ่งใหม่ที่เปลี่ยนไป พักนึงก็จะเริ่มดีขึ้น ที่เรามีกเรียกว่า ทำใจได้แล้ว จะช้าหรือเร็วขึ้นอยูกับว่าคุณผูกพันกับสิ่งใหม่ได้เร็วแค่ไหน
อะไรจะเปลี่ยนก็ตาม แต่การเปลี่ยนที่เจ็บปวดที่สุดก็คือการ เปลี่ยนใจ โดยเฉพาะคนที่เปลี่ยนใจ คือ คนที่เป็นหัวใจของเราซะด้วย
อย่าเอาหัวใจไปผูกติดกับตีนใคร
เมื่อเค้าก้าวขาจากไปเราจะต้องเจ็บใจเสมอ
ประโยคนี้อ่านหนเดียว แต่ว่าจำขึ้นใจมาจนถึงตอนนี้ พี่โน๊ต อุดม แต้พานิชเขียนเอาไว้... เคยได้ยินเพื่อนที่ได้รับแผลสดจากความรักหลายคนพูดว่า จะให้ฉันอยู่โดยไม่มีเค้าได้ยังไง..ฉันจะอยู่ต่อไปยังไง ฮือๆ.. เจอคนร้องไห้ทีไร ทำอะไรไม่ค่อยถูกซะที ก็ได้แต่ถามว่า
เออ...เอาน่ะ เอ๊ะ .. มีรูปตอนเด็กๆ หรือเปล่า นะ ... ตอนแบบเบาะเลยก็ได้ อะ อยากดู เพื่อนก็จะพยายามไปหา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้ากับบรรยากาศตอนนั้นเลยซักนิด หาเจอบ้างไม่เจอบ้าง...บางคนเห็นรูปตอนเด็กของตัวเองก็ยิ้มได้ ชี้ชวนกันดูสุดฤทธิ์
ดูสิตอนเด็กๆ น่ารักเนอะ ทำไมโตขึ้นหน้าอย่างเงี้ย... ( ชี้หน้าเพื่อน )
ดูสิตอนออกจากท้องแม่ ไม่เห็นจูงใครออกมาด้วยเลยนี่นา ก็เกิดมาคนเดียว ถึงตอนนี้ ทำอะไรได้มากกว่าตอนแรกเกิดตั้งเยอะ ทำไมจะอยู่คนเดียวไม่ได้? ( แหม...ปลอบเพื่อนทั้งที่ต้องมี prop เยอะขนาดนี้เลย )
อาจจะมีคนเถียงว่าพูดง่ายนะจ๊ะ ทำยากกว่าเยอะ ... ก็ไม่ต้องรีบทำให้เสร็จภายในชั่วโมงนี้นี่นา แค่คุณคิดจะเริ่มทำตัวเองให้แข็งแรง ก็พอจะเห็นวันที่คุณจะควบคุมชีวิต ตัวเองได้อีกครั้ง ไม่ต้องทำให้ความรู้สึกของตัวเองถูกใครอีกคนจับเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา รับรองว่า ไม่มีใครสามารถลืมคนที่ตัวเองรักได้หรอกค่ะ เอาแค่ว่า เมื่อไหร่ที่คุณ นึกถึง คิดถึง คุณไม่ทุรนทุราย ไม่รู้สึกหมดแรง และไม่เสียดายเวลา ... ก็ถือว่าคุณเริ่มจะลืมเค้าได้แล้วค่ะ ...
อย่าลืมขอบคุณคนนั้นของคุณด้วยที่ทำให้คุณรู้สึกรักได้ขนาดนี้
เพราะบางคนโชคร้ายเหลือเกิน
ที่ยังไม่เคยมีใครมาทำให้ตกหลุมร้ากกกกก ได้ซักที
26 เมษายน 2549 04:47 น.
แสงไร้เงา
สิบโมงเช้ากว่า ๆ ได้ กำลังนั่งเรียนอยู่ดี ๆ
โทรศัพท์ดังขึ้น ไม่ใช่ดังหรอก..สั่นนะ...
Blocked ID โชว์ขึ้นที่หน้าจอ ไม่กล้ารับเพราะเรียนอยู่
Unknow ID โชว์ที่หน้าจอครั้งที่สอง จับโทรศัพท์เดินออกห้องไป แต่ก็ว่างสายไปแล้ว
( คิดในใจ ..ต้องมาจากเมืองไทยแน่ๆ เลย ถ้าขึ้นหน้าจอแบบนี้)
66- - - - - -4849 โชว์ขึ้นอีกครั้ง ... ไม่กี่ครั้งก็ว่างสายไปอีกแล้ว
66- - - - - -4849 ครั้งที่สี่ เห็นเบอร์ก็รีบวิ่งออกจากห้องไป เพราะเพื่อนรักโทรมาหา
...............ต้องมีเรื่องด่วนแน่ๆ เลย มันถึงได้โทรมาบ่อยขนาดนี้...............
Hey ! Whats up ! เสียงคนรับสายพูด (พูดอังกฤษใส่เพื่อนก่อน ไม่ได้พูดกันนานแล้ว)
ทำอะไรอยู่ว๊ะ เสียงตอบกลับมา (ด้วยน้ำเสียงที่โมโหมาก)
เราเรียนอยู่นะ ...แล้วมีอะไรล่ะ ถามเขากลับ ..
กว่าจะโทรติด กว่าจะรับสาย ......ฯลฯ ... เสียงบ่นมาจากปลายทาง
โทษทีเพื่อน เรียนอยู่..เรียนอยู่.. แล้วมีอะไรว่าเลย พอคุยได้นะ ประมาณ 10 นาทีนะ
ถ้าหายไปนานเดี๋ยวครูว่าเอานะ ว่ามามีอะไรด่วนหรือเปล่า บอกกับเพื่อนไป
Happy B-Day นะ เพื่อนพูดมา
คนรับสาย ..งง .. ถามกลับว่า งานวันเกิดใคร ? เราก็ไม่ได้เกิดเดือนนี้สักหน่อย แก่จำเดือนผิดหรือเปล่า ...ถามกลับเพื่อนไป
อ้าว ! แล้วแก่ไม่ได้เกิดเดือนนี้เหรอ ? ......เพื่อนถามกลับมา (เขาก็ถามด้วยความงงเหมือนกัน )
ไอ้บ้า ! นี้แก่เมา หรือว่า แก่นอนละเมอว๊ะ .....ว่าให้เพื่อนไป
แล้วแก่ไม่ได้เกิดเดือนนี้เหรอ .. .เพื่อนถามมาอีกที( ยังกลับมาถามอีก ได้เพื่อนคนนี้ )
เปล่านะ ....วันนี้ล่ะ แต่ไม่ใช่เดือนนี้ เดือนหน้านะ บอกเพื่อนไป
อ้าวเหรอ เพื่อนตอบกลับ (ทำน้ำเสียงด้วยความที่ว่า หน้าแตกแล้วตู)
เอ้อใช่ เดือนหน้านะ ไม่ใช้เดือนนี้ แต่ก็ขอบใจแก่นะ ที่โทรมาหา ตอบกลับเพื่อน
อายจังเลย หน้าแตกแล้วตู เพื่อนพูด
จะอายทำไมว๊ะ อายเป็นด้วยรึไงแก่นะ แซวเพื่อนต่อ
ก็เอ้อสิว๊ะ ใครจะอายไม่เป็น เพื่อนพูด
นี่ รู้ไหมส่งของขวัญไปให้ด้วยนะ ได้รับหรือยัง เพื่อนพูด
ยังเลย.... ยังไม่ได้ไปเช็คดูเลย เพราะลุงยังไม่ได้ไปดูให้นะ ..แล้วไงจะไปดูนะ บอกเพื่อนไป
ถ้าได้รับแล้วโทรมาบอกด้วยนะจ๊ะ เพื่อนพูด
จ้า ......... ขานรับเพื่อน...ด้วยเสียงหวาน ๆ ...
แล้วทำอะไรอยู่ไม่รับไม่นอนล่ะ ถามเพื่อนไป
ยังไม่ง่วงนะ ออกไปข้างนอกนะจ๊ะ เพื่อนพูด
ไปเที่ยวกับแฟนมารึจ๊ะ ถามเพื่อนไป
เปล่า น้ำเสียงที่ไม่น่าเชื่อถือเลย
.ดูนาฬิกา 10.45 แล้ว ได้เวลาเบรกแล้ว เพื่อนๆ ที่เรียนอยู่ในห้องก็ออกมาห้องแล้ว.... ดีเลยจะได้คุยต่ออีก อิอิอิ.....
คุยกับแฟนเหรอ ....เสียงเพื่อนในห้องเรียนด้วยกันแซวมา
No..! บอกเขาไป ....
.......เดินหนีเพื่อนคนนั่นไป ไม่อยากคุยกับเขา อิอิอิ.....เพราะคุยโทรศัพท์อยู่.....
ขอบใจนะ (ขอบใจเพื่อนอีกครั้ง) คุยนานแล้ว...เปลืองเงินแก่นะ ..เอาไว้แค่นี้ก่อนก็ได้นะ .....บอกเพื่อนไป
ไม่เป็นไรนะ นานๆ คุยกันทีนะ ไม่เปลืองหรอก เพื่อนตอบกลับ
แล้วแก่จะไม่หลับไม่นอนเลยรึไงคืนนี้นะ ถามเพื่อนกลับ
นี่ ๆ ไล่ฉันจริง ๆ เลยนะ ทำน้ำเสียงไม่พอใจเลย ...
เปล่านะ เพื่อนไม่ไล่นะ .....เพื่อนต้องไปเรียนนะ แล้วจะโทรไปหาหรอก ถ้าได้รับของขวัญแล้วนะ.....งั้นเอาไว้แค่นี้ก่อนนะเพื่อนรัก แล้วไงคุยกันใหม่นะ บอกเขาไป
โอ เค ได้ ๆ แล้วอย่าลืมโทรมาล่ะ เพื่อนพูดมา
แล้วเดือนหน้าอย่าลืมของขวัญวันเกิดเราล่ะ แซวเพื่อนไป
อ้าว ก็ส่งให้แล้วไง เพื่อนรีบตอบกลับมา
อ้าว อันนี้มันเดือนนี้ เดือนหน้าก็อันใหม่สิ บอกเพื่อนไป
เอ้อ ๆ ได้ เพื่อนพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่อยากปฏิเสธ
ไม่เอาหรอก แซวเล่น อย่าคิดมากนะ แล้วแก่จะหลับไม่นอนหรือไงคืนนี้
หรือว่าราตรีเพิ่งเริ่ม.....ถามเพื่อนไป
เอ้อ นะ อย่างนี้ละ ชีวิตคนโสดจะเอาอะไรมาก พูดแบบว่าโสดจริง ๆ เพื่อนเรา
โสด หรือ โฉด แซวเพื่อนกลับไป
เอ้อ หน่า จะโสด หรือ โฉด ก็ยังเป็นเราคนเดิมคนเก่านะ เพื่อบตอบกลับมา
ก็ให้เพื่อนเราเป็นแบบนี้ และเป็นเพื่อนทีดีของเราตลอดไปนะจ๊ะ และมีความสุขกับสิ่งทีทำ และที่เป็นอยู่นะ บอกเพื่อนไป
....มองดูนาฬิกาแล้ว เพื่อนในห้องก็เข้าห้องกันไปหมดแล้ว ....
เอาไว้แค่นี้ก่อนนะเพื่อน เราต้องเข้าห้องเรียนแล้วนะ บอกเพื่อนไป
ได้ ๆ ๆ แล้วอย่าโทรกลับมาบอกล่ะ ถ้าได้รับจดหมายแล้วน่ะ เพื่อนซ้ำอีกที
ได้ ๆ ไม่ลืมหรอกนะ ..สัญญานะ จะโทรกลับด่วนถ้าได้นะ ว่าแต่แก่จะตื่นมารับโทรศัพท์เปล่าเท่านั่นล่ะ ตอบกลับไป
ก็อย่าโทรมาดึกสิ เพื่อนรีบตอบกลับมา
แค่นี้ก่อนแล้วกัน ยิ่งคุยยิ่งโม้....ยิ่งพูดมาก ..รักษาสุถาพนะ อย่านอนดึกนะ อย่าเที่ยวดึกด้วย เราเป็นห่วงนะ บอกเพื่อน
จ้า เพื่อนขานรับ
จะว่างแล้วนะ ....คิดถึงเพื่อนนะ บอกเพื่อนไป
คิดถึงเหมือน ......เพื่อนตอบกลับ
จ้า บายจ้า .......ว่างสายแล้ว รีบเดินเข้าห้องเรียนไป
คิดแล้วขำเพื่อนคนนี้ ไม่ได้เมา แต่ดันจำเดือนผิด
ดีนะจำวันเกิดเพื่อนผิด ถ้าจำงานวันเกิดแฟนผิดแล้วเป็นเรื่องแน่ ๆ เลย
๒๕ เมษายน ๒๕๔๙
24 เมษายน 2549 11:46 น.
แสงไร้เงา
ทำไมต้องมียางลบบนหัวดินสอ?
ข้อมูลจาก Forward Mail
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
บางครั้งเราก็มองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ไป
เพียงเพราะใช้เวลาสั้นๆ ในการตัดสินสิ่งนั้นว่า "ไร้สาระ"
หลายวันก่อน เพื่อนคนหนึ่งถามฉันว่า"ทำไมต้องมียางลบอยู่บนหัวดินสอ ?"
ฉันไม่ได้สนใจและใส่ใจกับคำถามนั้นสักเท่าไหร่
เพียงแค่รู้สึกว่าเป็นคำถามที่ไม่มีสาระอะไรเสียเลย
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตอบเล่นๆ ไปว่า
"ก็คงมีเพื่อความสะดวกมั้ง
หรือไม่ก็ช่วยให้คนขี้ลืมที่ชอบวางยางลบไม่เป็นที่เป็นทาง
ได้มียางลบ ใช้มั้ง"
เพื่อนฉันก็อมยิ้ม ก่อนที่จะตอบสั้นๆ ว่า "ไม่ใช่"
"อ้าว. . .งั้นเพราะอะไรล่ะ" ฉันก็อดที่จะถามไม่ได้
ก็เพราะว่า " คนเราสามารถทำผิดกันได้"
". . . . . . . . . . . . . . . . . . " ฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง
หลังจากที่ได้ยินคำตอบ
และปล่อยให้เจ้าของคำถามเดินจากไป
โดยที่ไม่ได้อธิบายอะไรมากไปกว่าคำตอบสั้นๆ ของเขาเท่านั้น
คำถามของเพื่อนที่เคยมองว่ามันไร้สาระ
กลับทำให้ได้ฉันเก็บมาคิดแทบทุกขณะที่สมองว่าง
เย็นวันนั้น ฉันจึงหยิบโทรศัพท์เขียนข้อความส่งถึงเพื่อนๆ ด้วยประโยคที่ซ้ำกัน. . .
"ทำไมต้องมียางลบอยู่บนหัวดินสอ . . .
เพราะคนเรามีสิทธิ์ทำผิดกันได้
แต่จงจำไว้ว่า. . .เราไม่ควรใช้ยางลบให้หมดก่อนดินสอ
เพราะนั่นอาจหมายความว่า เรากำลังทำผิดซ้ำๆ
จนความผิดนั้นอาจสายเกินแก้"
ตัวเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่คิดต่อจากเพื่อนนั้นมันจะถูกต้องหรือไม่
และเพื่อนที่ได้รับข้อความจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันต้องการจะบอกหรือเปล่า
จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ. ..นั่นไม่ใช่สิ่งที่ต้องการมากสักเท่าไหร่
แต่สิ่งที่อยากได้รับคือ เพื่อนจะคิดต่อจากความคิดของฉันอย่างไร
และลึกๆ ฉันก็แค่หวังว่า . . .
เพื่อนของฉันคงจะกล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด
และไม่ประมาทในการใช้ชีวิตและยอมรับการกระทำของตัวเอง . . .
เพียงแค่นั้นฉันก็หมดห่วง
19 เมษายน 2549 13:22 น.
แสงไร้เงา
จี้ว่ะ โดยเฉพาะเรื่องสุดท้าย.
เรื่องที่ 1
ทัพพีที่หายไป
เมื่อวินัยเชิญแม่ของเขามากินมื้อค่ำที่อพาร์ทเมนท์
ซึ่งเขาอยู่กับสาวสวยชื่อนิสา
คุณแม่จึงอดเคลือบแคลงในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้
ระหว่างร่วมโต๊ะมื้อเย็นนั้นเอง
คุณแม่ของวินัยเฝ้าสังเกตสายตาที่ทั้งคู่มองสบกัน
จนลูกชายชักเดาใจออก จึงรีบพูดขึ้นว่า
" ผมรู้นะว่าแม่กำลังคิดอะไร .. แต่ผมยืนยันได้แน่ว่า
ผมกับนิสาเป็นแค่รูมเมทเท่านั้น ไม่มีอะไรเกินเลยจริงๆ "
หลังจากแม่ของวินัยกลับไปได้ 1 อาทิตย์ นิสาจึงบอกวินัยว่า
" ตั้งแต่แม่ของคุณมาเยี่ยมเราคราวนั้น ฉันก็หาทัพพีคันโปรดไม่เจอเลย
ที่จริง .. ฉันก็ไม่คิดว่าแม่ของคุณจะเอาไปหรอกนะคะ หรือคุณว่ายังไง "
วินัยจึงตอบว่า " ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่จะลองเขียนจดหมายไปถามคุณแม่ดู
"
วินัยจึงนั่งลงเขียนจดหมาย เนื้อความว่า
..
" เรียน คุณแม่สุดที่รัก ..
ผมไม่ได้คิดว่าคุณแม่จะเผลอเอาทัพพีที่บ้านผมไปหรอกนะครับ
แต่จะว่าแม่ไม่ได้เอาไป ............... ก็ยังไงอยู่ เพราะทัพพีสวย ๆ
คันหนึ่งหายไปตั้งแต่วันที่คุณแม่มาทานข้าวเย็นที่บ้าน
ขอแสดงความนับถือ
วินัย "
หลายวันต่อมา วินัยได้รับจดหมายตอบจากแม่ของเขา เนื้อความว่า ..
" ถึง ลูกชายสุดที่รักของแม่
แม่ไม่เคยพูดว่าลูกมีอะไรกับนิสา
แต่แม่ก็ไม่ได้คิดว่าลูกจะไม่มีอะไรกับเธอ
เพราะความจริงมีอยู่ว่า ถ้านิสานอนที่ห้องตัวเอง
ก็คงเจอทัพพีนั่นไปตั้งนานแล้ว
รักมาก
แม่ "