26 ธันวาคม 2550 17:46 น.
แสงเหนือ
. ลิบลิบตะวันลับ
วับวับวันคืนผ่าน
เดือนปีมิเนิ่นนาน
ล่วงผ่านอย่างเงียบงัน...
วันคืนที่เคลื่อนคล้อย
ทุกสิ่งพลอยคล้อยเปลี่ยนผัน
พบเพียงเพื่อจากกัน
ได้มานั้นเพื่อเสียไป....
เวลาแห่งชีวิต
เพียงน้อยนิดคิดไฉน
ตะวันลา ที่ฟ้าไกล
คล้ายเตือนใจให้คิดครวญ...
ชีวิตดุจเทียนไข
อาจดับไปในลมผวน
ที่ผ่องส่องแสงนวล
ก็ใช่ควรจะว่านาน...
สังขารนับวันโรย
เสื่อมไปโดยล่วงแห่งกาล
บุญผองเป็นแก่นสาร
ต้องคิดอ่านเร่งสร้างสรรค์...
ตะวันเลือนเตือนให้ตรอง
ชีวิตพร่องไปอีกวัน
ตะวันรอนตอนสายัณห์
ประโยชน์พลันก็พร่องตาม...
เวลามีน้อยเกิน
อย่ามัวเพลินวัตถุกาม
สร้างสรรค์ประโยชน์งาม
ยามชีพไร้ได้พึ่งพา...
ต่างคนต่างแสวง
ในกรอบแห่งชั่วเวลา
ดิ้นรนแสวงหา
เพื่อได้มา..ซึ่งสิ่งใด
ตะวันคล้อยค่อยค่อยลับ
คล้ายกำชับเป็นนัยนัย
วันนี้จะหมดไป
พรุ่งนี้ไซร้ อาจสายเกิน ฯ
.
18 ธันวาคม 2550 23:49 น.
แสงเหนือ
แม้จะไม่เข้าใจไยเธอจาก
ความรู้สึกคงยากจะเฉลย
ไม่อาจยื้อทักทวงสิ่งล่วงเลย
ใจที่เคยให้ไปไม่เสียดาย
ช่างเถอะใจแม้ไร้ไออุ่นบ้าง
บนเส้นทางขนานไกล แม้ใจหาย
แม้ไร้เธออยู่เรียงเคียงข้างกาย
แม้เดียวดายต้องเผชิญเดินต่อไป
ขาดเธอไปทำอะไรไม่ได้หรือ
อาหารเช้าไข่ทุกมื้อพอยื้อไหว
จะขาดเกินเขินขัดบ้างช่างปะไร
อยู่อยู่ไปประสาเปลี่ยวไข่เจียวพอ
อยู่ด้วยกันอาจชินชืดดูจืดบ้าง
แต่เมื่อห่างกลับยิ่งเหงาเหมือนเราท้อ
อิสระที่มิได้ใฝ่ใจรอ
ไม่อาจขอใจฝืนให้คืนมา
แปรงสีฟันเคียงคู่อยู่ที่เก่า
ด้ามหนึ่งเราคงต้องทิ้ง... เสียเถิดหนา
สิ่งเคยมอบซึ้งใจในอุรา
คงสูญค่าเก็บก็ร้อนสะท้อนใจ
ต่างความคิดผิดหลงคงมีบ้าง
ไยต้องห่างร้างกันให้หวั่นไหว
พอกันที ความรัก จักลาไกล
คำที่เธอทิ้งไว้..ในวันลา
เพียงปรับใจให้รักเป็นหลักมั่น
แม้พายุพัดผันใช่ปัญหา
คงได้รู้ นิยามรักจักนำพา
ไม่เอ่ยลา พอที หนีรักไป
อยู่คนเดี่ยวเปลี่ยวใจในวันนี้
เหมือนคนที่ไร้ค่าพาหวั่นไหว
เคยมีเธออยู่ด้วยช่วยห่วงใย
เธอที่ให้ความสำคัญหมั่นย้ำยิน
ความหมายของสองใจใฝ่เคียงคู่
ได้เรียนรู้เมื่อสายให้ถวิล
แสนเสียดายรักเก่าเราคุ้นชิน
เมื่อสูญสิ้นจึงรู้ค่าความผูกพัน
ไม่ต้องเสกสรรค์ใดให้มากหลาย
รู้ความหมายซึ้งใจไม่แปรผัน
เพียงสองเราเช้าเย็นเห็นหน้ากัน
เพียงร่วมฝันหมั่นยิ้มอิ่มใจพอ
พอกันทีความรัก จักไม่เอ่ย
คำเฉลยนิยามรักประจักษ์หนอ
ต่อแต่นี้ชีวิตใหม่ที่คอยรอ
เสียดายหนอ มิใช่เธอคนคุ้นเคย
คลิปเพลง ENOUGH FOR LOVE
http://www.youtube.com/watch?v=v6KFevGsD04&feature=related
เนื้อเพลง mou koi nante shinai
ตำร้อง ทำนอง ขับร้องโดย noriyuki makihara
kimi ga inaito nannimo dekinaiwakejanaito
yakan o hini kaketakedo kouchano arikaga wakaranai
hora choushokumo tsukuretamonne dakedo amari oishikunai
kimiga tsukuttanonara mongumo omoikiri ietanoni
isshoni irutokiwa kyuukutsuni omoerukedo yatto jiyuuo teni ireta
bokuwa motto samishiku natta
sayonarato ittakimino kimochiwa wakaranaikedo
itsumoyori nagamega ii hidarini sukoshi tomadotteiruyo
moshi kimini hitotsudake tsuyogari o ierunonara
mou koinante shinai nante iwanaiyo zettai
nihon naranda haburashimo
ippon suteteshimao
kiminoshumide kattafukumo
mottainaikedo suteteshimao
otokorashiku isagi yokuto
gomibakokakaerubokuwa
hokano darekara mitemo ichiban senchimentarudaro...
konnani ippaino kiminonukegara atsumete
mudana mononi kakomarete
kurasunomo shiawaseto shitta
kimiateno yuubinga posutoni todoi teiru uchiwa
katasumide mayotte iru senaka o omotte shinpaidakedo
futaride dasenakatta kotae wa kondode aeru
kimino shiranai darekato mitsukete miserukara
hontooni hontooni kimiga daisukidattakara
mou koinante shinai nante iwanaiyo zettai
ภาษาญี่ปุ่นวันละ(หลาย)คำ
Mou koinante shinai ( พอกันที ความรัก ..enough for love )
Kimi ga inaito nannimo dekinaiwakejanaito
(พอเธอไม่อยู่ ก็ใม่ใช่จะทำอะไรๆไม่ได้)
1. kimi เธอ (ใช้เฉพาะกะคนอายุน้อยกว่า )
2. inai ไม่อยู่ ไม่มี (ใช้กับสิ่งมีชีวิต)
3. dekinai ทำไม่ได้
4. janai ไม่ใช่
5. hora (คำอุทาน) ดูสิ
6. choushoku อาหารเช้า
7.dakedo แต่
8. amari oishikunai ไม่ค่อยจะอร่อย
9. isshoni ด้วยกัน iru อยู่ toki ตอน kyuukutsu เบื่อๆ (กระทบกระทั่งบ้าง)
10. jiyuu อิสระ samishii เหงา ( samishiku natta = become lonely )
Sayonarato itta kimino kimochiwa wakaranaikedo..
1. wakaranai (ไม่เข้าใจ)
2. kimochi (ความรู้สึก)
3. kimi no (ของ เธอ)
4. to itta (ที่ บอกว่า ...) ..kedo ( แต่ก็ )
4 ธันวาคม 2550 19:42 น.
แสงเหนือ
. แว่วจำเรียงเสียงเพลงบรรเลงแว่ว
ไหววาบแววคะนึงหาพาวาบไหว
ปลิวแล้วปลิวลิ่วคะนึงท้องทุ่งไกล
รวงไสวอยากจะกลับรับขวัญรวง
อุ่นแสนอุ่นกรุ่นดินถิ่นเคยอุ่น
ทรวงเคยคุ้นถิ่นแม้นดั่งแดนสรวง
ไกลลิบไกลกราวกรูข้าวลู่รวง
งามซึ้งทรวงแต่เยาว์เนาทุ่งงาม
ทุ่งรวงทองเหลืองอร่ามตระการทุ่ง
อร่ามรุ่งทิวาเรืองเหลืองอร่าม
ชื่นลมหนาวตื่นทรวงรวงข้าวงาม
เยือนทุ่งยามปลายฝนต้นหนาวเยือน
ต้นมะกอกใบร่อนฟ้อนลาต้น
เหมือนหลุดพ้นสุขใดไม่แม้นเหมือน
ลาแล้วลาคืนดินถิ่นคุ้นเยือน
วันลับเลือนเตือนต้องลาทุ่งลาวัณย์
ต้นมะขามแก่เก่าเฝ้ายืนต้น
ขวัญหวั่นมนต์ทุ่งรวงทองจะหมองขวัญ
ระย้าพวงผลผลิผลิผลปัน
นานคู่ขวัญถิ่นทุ่งจรุงนาน
หอมคะนึงพุทรามาหวนหอม
หวานเปรี้ยวฝาดกลมกล่อมมาย้อมหวาน
คู่ขวัญทุ่งปรุงขวัญมาเนิ่นนาน
คะนึงหวานขวัญพุทราพาคะนึง
หยาดน้ำค้างยามเช้าพราวพรมหยาด
ถึงยามคลาดจากไกลให้คิดถึง
ทุ่งอุทัยไขขลังยังตราตรึง
ชวนคะนึงหนาวน้ำค้างพร่างเชิญชวน
ฟ้าใสครามยามตะวันบรรเจิดฟ้า
หวนลมพาพัดกราวพราวใจหวน
ขวัญเด็กน้อยคิดถึงว่าวคราวลมชวน
กาลก่อนหวนเห็นว่าวไหวใจตระการ
แสงสายัณห์ตะวันงามยามยอแสง
หวานเรื่อแดงยามจ้องต้องมนต์หวาน
สกุณาลัดฟ้าลาทุ่งธาร
สายัณห์กาลประสานขับรับสายัณห์
ขวัญเหย้าเอยคลุ้งควันคือขวัญเหย้า
ควันจากเตาไฟหุงจรุงขวัญ
ยามหุงหาข้าวปลาพร้อมหน้ากัน
นอนอิ่มขวัญแม้หนาวอุ่นคราวนอน
วิถีทุ่งแบบพอเพียงเลี้ยงวิถี
ก่อนชีวีผูกพันแต่วันก่อน
ครั้งยังเยาว์เนาขวัญคู่ขวัญคอน
ครวญแม้จรจากคะนึงรำพึงครวญ
.