7 กันยายน 2552 08:56 น.
แสงเพชร
สำเนียงข้าบ้านนอกออกเสียงเหน่อ
อาจดูเซ่อซุ่มซ่ามล้าสมัย
แต่งตัวเชยช่างข้าอย่าสนใจ
เป็นนิสัยส่วนตัวของชาวนา
ข้านุ่งผ้าขาก๊วยสวยหรือไม่
เอ็งคงทนไม่ได้ให้อิดหนา
คิดไปเด่นไปเชิดเชิญแก้วตา
สู่เมืองฟ้าอมรนครวิไล
ไอ้หนุ่มกรุงนุ่งเดทเด็ดจริงหนอ
คงพะนอคลอเจ้าจนสดใส
เอ็งสุขสมแสนปลื้มลืมคนไกล
ที่ห่วงใยหยอกเย้าเจ้าบานเย็น
ข้าบ้านนอกนอนมุ้งหูสี่สาย
เอ็งหนีควายหน่ายหน้าไม่มาเห็น
ห้องมิดชิดติดแอร์สิ้นลำเค็ญ
บานเย็นเป็นเยลหลี่ขี่เบ็นซ์โชว์
บันทึก ๗ กันยายน ๒๕๕๒
บานเย็นเป็นสาวชาวบ้านนอก
เข้าบางกอกบอกโก้เก๋ใช่ไหม
เจ้าไปดีขี่เบ็นซ์ข้าเย็นใจ
หากวันใดใจเอ็งเจ็บจงกลับมา
6 กันยายน 2552 01:59 น.
แสงเพชร
จิตก่อเกิดการเพียรเพื่อเรียนรู้
เพ่งเฝ้าดูหูปรับจับห้วงเสียง
ลมหวีดหวิวพลิ้วแผ่วแว่วลำเลียง
ปราณเรียบเรียงเพียงนึกลึกว่างวาง
อณูลมลึกลงตรงหว่างท้อง
กระจ่างจ้องจนว่างวาดสะสาง
สรรพสิ่งสอดแทรกมิแหวกกลาง
บังคับร่างวางเฉยจนเคยชิน
สัมปชัญญะบังเกิดเปิดห้องจิต
มิยึดติดสิ่งใดให้ถวิล
อาศัยร่างสร้างตนจนประทิน
ปฏิบัตตัดสิ้นเพื่ออินทรีย์
หมดความโลภหลงใหลในอบาย
สู่จุดหมายภายหน้าพาสุขี
ช่างปลอดโปร่งโล่งจิตจนแจ่มดี
พระธรรมนี้มีแฝงแห่งพลัง
บันทึก ๖ กันยายน ๒๕๕๒
ยามทุกข์ท้อต่อสู้สิ่งเลวร้าย
ต้องสลายคลายจิตอย่าติดหลง
ตัดใจวางว่างไว้ให้มั่นคง
ทุกสิ่งปลงลงบ้างช่างรื่นรมย์