29 สิงหาคม 2552 21:00 น.
แสงเพชร
ยามค่ำคืนคอยมองหา
เมื่อไหร่หนามาให้เห็น
เพียงเงาอ่อนอ้อนจันทร์เพ็ญ
มองสวยเด่นเช่นดาวเดือน
แค่เงาร่างผ่านทางมา
สุขอุราหาใดเหมือน
แม้เป็นหวังห่างลางเลือน
ยังคอยเตือนตามเรื่อยไป
สุขยิ่งนักที่รักเป็น
ดั่งมองเห็นเช่นน้ำใส
เจริญตาเจริญใจ
เข้ามาใกล้เกือบชิดกัน
ช่างหอมหวนชวนใหลหลง
ให้พะวงวาดเพ้อฝัน
ดั่งเห็นหน้ามาทุกวัน
เมื่อจินต์นั้นมันหาทาง
เพียงอัปสรย้อนให้เห็น
ดูงามเด่นเช่นฟ้าสาง
วิมานน้อยลอยมาวาง
มิเหินห่างอยู่กลางใจ
ยามโดดเดี่ยวเดียวดายอก
พาอุทกที่ตาไหล
เจ้าความเหงาเร้ารุมใน
ครวญร้องไห้ได้บางครา
เมื่อสุดสายปลายทางนั้น
ที่มุ่งมั่นมาค้นหา
อยากเพียงพบแค่สบตา
ชื่นอุราสักครานึง
หวังยินเพียงเสียงอ่อนหวาน
คงซาบซ่านกานต์คิดถึง
เจ้าความรักมักรำพึง
ด้วยสุดซึ้งตรึงห้องใจ
อธิฐานผ่านม่านฟ้า
บอกไปว่ามาเคียงไหม
ด้วยความรักหนักฤทัย
จึงครวญไปให้ได้ยิน
เมื่อรู้จักมาทักทาย
แล้วไยหายให้ถวิล
จะสานต่อก็โบยบิน
คงลืมสิ้นกลิ่นความรัก
พอห่างหายคล้ายจากไกล
ต้องหวั่นไหวใจช้ำหนัก
รู้สึกเหงาเศร้ายิ่งนัก
วิมลักมักโศกตรม
อยากหอมปรางสองข้างนวล
ให้จินต์ครวญหวนสุขสม
แต่ความฝันนั้นคือลม
คงจะล่มรักเขาเอง
บันทึก ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๒
28 สิงหาคม 2552 12:34 น.
แสงเพชร
มีของฝากจากถิ่นดินแดนไทย
มามอบให้ด้วยใจที่ห่วงหา
หลายของขวัญพันโบว์โชว์งามตา
อีกนานาสารพันหมั่นส่งไป
ชิ้นที่หนึ่งพิซซ่าหน้าความรัก
พร้อมสลักอักษรอ้อนสดใส
จำจนติดคิดถึงซึ้งจากใจ
มอบให้ไว้ใกล้หิวหาทานทัน
ชิ้นที่สองต้องแถมแฮมเบอร์เกอร์
ทานยามว่างวันเธอเที่ยวสุขสันต์
บรรจงห่อห่วงใยให้ทุกวัน
เพราะยึดมั่นมากไว้ในรักเธอ
ชิ้นที่สามตามด้วยถ้วยน้ำนม
พร้อมผสมจริงใจให้เสมอ
ยามเธอเหนื่อยเมื่อยล้ามาเจอะเจอ
พร้อมเสนอนวดตัวทั่วร่างกาย
ชิ้นที่สี่นี้ให้ไว้กอดนอน
เป็นดั่งหมอนมีใช้ไม่ซื้อขาย
คืออกอุ่นหนุนหัวตัวสบาย
อยู่ข้างกายหายห่วงเพื่อดวงใจ
ชิ้นที่ห้าหาเพลงบรรเลงส่ง
ด้วยมั่นคงตรงใจไม่หวั่นไหว
รักจึงมากจากในใช่อื่นใด
มอบให้ไว้ในวันวิมลัก
วิมลัก วิ-มะ-ลัก= รักยิ่ง
บันทึก ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๒
27 สิงหาคม 2552 10:51 น.
แสงเพชร
ลมหายใจเข้าลึกออกแผ่วแผ่ว
ตั้งจิตแน่วแน่นิ่งมิติงไหว
เพ่งหว่างคิ้วค้นหาตาข้างใน
สงบไว้ได้พบสบสิ่งดี
ดับอารมณ์ร้อนรุ่มที่กลุ้มหนัก
ได้หยุดพักพิงใจให้สุขี
ตัดกังวลพ้นไปไกลชีวี
สติมีมิหลงกงจักรใด
เจริญมนต์พุทธาหาสิ้นสุด
เยี่ยมประดุจดั่งน้ำฉ่ำเย็นใส
ยิ่งนิ่งไว้ให้นานกาลผ่านไป
มิติใหม่ได้เกิดประเสริฐตน
แช่มชื่นจิตจินต์ปลอดรอดบ่วงทุกข์
บันดาลสุขสตินิ่งสิ่งสับสน
กายเพียงร่างชั่งไว้ในกมล
คงหยุดพ้นหนทุกข์ทรมาน
หมั่นฝึกฝนตนเองอย่ารอช้า
กว่าชีวาหาไม่หมดสืบสาน
ภาวนาสมาธิผลิเบิกบาน
จงฮึกหาญห่มธรรมนำจิตใจ
ใช้ธรรมะละลดปลดกิเลส
ตัดต้นเหตุสิ่งเร้าไม่เอาไหน
มาสร้างชีพชีวิตชาติเชื้อไทย
น้อมนำใจในพุทธศาสดา
บันทึก ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๒
24 สิงหาคม 2552 21:10 น.
แสงเพชร
วอนลมพัดผ่านไปให้ถึงเรียม
ด้วยคิดถึงซึ่งเปี่ยมเทียมฟ้าใส
บอกนางว่าข้ายังคงห่วงใย
อยากจะให้หวนคืนความรักมา
เรียมคงสุขสบายทั้งกายใจ
เจ้ารู้ไหมใครกันมั่นห่วงหา
เฝ้ารอคอยความรักกักน้ำตา
ปวดอุราระทมทรมาน
มองรอยไถในนามาแปรผัน
ความรักนั้นมันเป็นเส้นขนาน
ให้เราสองต้องพรากจากกันนาน
ข้าซมซานสิ้นดีที่เจ้าบิน
วอนลมพัดฝากไปให้ถึงนาง
คนไกลห่างทางนี้นึกถวิล
ลอยละล่องท่องไกลให้ยุพิน
จงคืนถิ่นฐานบ้านนาที่ข้ารอ
ข้าคอยรอเจ้ากลับหลับไม่ลง
มากพะวงว่าไปกับใครหนอ
ทุกเช้าค่ำเคยเคียงเคล้าเคลียคลอ
จะไม่ท้อขอรอเจ้าต่อไป
ฝากลมรักจากใจชายคนเศร้า
ที่คอยเฝ้าข่าวคราวเจ้าอยู่ไหน
ทิ้งให้ข้าห่วงหาและอาลัย
รู้หรือไม่มีข้าคอยรักเอ็ง
บันทึก ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๒
23 สิงหาคม 2552 09:01 น.
แสงเพชร
ท่ามคืนนี้ที่เธอบอกเลิกรา
รู้ไหมว่าพาใจให้สลาย
เคืองเรื่องใดไยไม่อธิบาย
อย่าแหนงหน่ายชายนี้ที่ช้ำตรม
ท่ามคืนนี้ที่ยังอยู่เคียงข้าง
ก่อนลาร้างห่างไกลให้ใจขม
อยากอ้อนวอนก่อนเหลือเพียงสายลม
จะขอห่มผ้าให้ไออุ่นไป
หากพรุ่งนี้ที่เธอยังเคืองโกรธ
ฉันจะโทษใครได้โดนผลักไส
รักใช่ไหมให้ถึงซึ่งช้ำใจ
กรรมฤทัยทำซ้ำไม่จำเลย
อดทนไว้ใจเอ๋ยเคยแข็งแกร่ง
เก็บเรี่ยวแรงให้ได้คำเฉลย
เพราะซื่อสัตย์คงมั่นเจ้าทรามเชย
เขาจงเผยความจริงสิ่งเปลี่ยนแปร
หากพรุ่งนี้ที่เธอยังตัดรอน
อยากอ้อนวอนความเห็นใจเจ้าดวงแข
โปรดอย่าเติมช้ำไว้ไร้เหลียวแล
คงย่ำแย่แผลใจให้ยับเยิน
หากต้องแพ้เกินแก้แก่การจาก
เพียงแค่อยากขอกอดก่อนห่างเหิน
แล้วถามเธออ้อนวอนอย่าหมางเมิน
กอดให้เนิ่นนานไว้โปรดเห็นใจ
บันทึก ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๒