28 มีนาคม 2546 16:42 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
ฝันของหญิงชรา
1.
คล้อยหน่อยเถิดแดดอย่าแผดนัก
เพื่อร่มเงาพิงพัก - ข้างกำแพงหมอง
บนวิถีสีหม่น - ริมฝั่งน้ำคลอง
มีหยาดรุ่งเรืองรอง หยดฝันรำไร
ภาพแห่งความป่วยไข้ในเมืองพังผุ
จะต่อยอดฝันทะลุ เป็นจริงได้ไหม
เพลงชราริมทาง ร่างดั่งใบไม้
จะคว้าฝันใดได้ เกินเถ้าธุลี
สองมือเหี่ยวเกรียมก่ำซ่ำผิวหยาบกร้าน
เนื้อหน้าก็ริ้วราน - ทุกร่องหมองสี
เสื้อผ้าขาดวิ่น - ภาพความพอดี
คือภาพที่มี ที่เห็น - สานศิลป์ริมทาง
ทีละเส้นถักทอมิท้อชีวิต
และทุกเส้นล้วนบทคิด - สานศิลป์มิสร้าง
แม้สองตาพร่าเลือน ขุ่นภาพเลือนลาง
แต่สองมือยังมิวางสานฝันใจเพียร
2.
คล้ายหน่อยเถิดแแดอย่าแผดนัก
เพื่อหญิงชราจักพัก ให้คลายคลื่นเหียน
ชีพนี้ใกล้ลับดับมอดแสงเทียน
และรุ่งเช้าเข้ามาเวียน - ชีพอาจอับลง
3.
นะ , คล้อยหน่อยเถิดแดดอย่าแผดนัก
หญิงชราคลายหนัก - หูตาพร่าหลง
ฝันของเธอเพียงว่า ผู้คนจะคง-
-รู้ค่างานบรรจง เลิกต่อราคาฯ
ผลึกอารมณ์รู้สึก - หญิงชราสานผักตบชวาริมทาง...งานที่เธอสร้างราคาไม่มาก แต่กลับถูกต่อ กดราคาจนงานเธอดูไร้ค่า
28 มีนาคม 2546 16:41 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
ฝันของหญิงชรา
1.
คล้อยหน่อยเถิดแดดอย่าแผดนัก
เพื่อร่มเงาพิงพัก - ข้างกำแพงหมอง
บนวิถีสีหม่น - ริมฝั่งน้ำคลอง
มีหยาดรุ่งเรืองรอง หยดฝันรำไร
ภาพแห่งความป่วยไข้ในเมืองพังผุ
จะต่อยอดฝันทะลุ เป็นจริงได้ไหม
เพลงชราริมทาง ร่างดั่งใบไม้
จะคว้าฝันใดได้ เกินเถ้าธุลี
สองมือเหี่ยวเกรียมก่ำซ่ำผิวหยาบกร้าน
เนื้อหน้าก็ริ้วราน - ทุกร่องหมองสี
เสื้อผ้าขาดวิ่น - ภาพความพอดี
คือภาพที่มี ที่เห็น - สานศิลป์ริมทาง
ทีละเส้นถักทอมิท้อชีวิต
และทุกเส้นล้วนบทคิด - สานศิลป์มิสร้าง
แม้สองตาพร่าเลือน ขุ่นภาพเลือนลาง
แต่สองมือยังมิวางสานฝันใจเพียร
2.
คล้ายหน่อยเถิดแแดอย่าแผดนัก
เพื่อหญิงชราจักพัก ให้คลายคลื่นเหียน
ชีพนี้ใกล้ลับดับมอดแสงเทียน
และรุ่งเช้าเข้ามาเวียน - ชีพอาจอับลง
3.
นะ , คล้อยหน่อยเถิดแดดอย่าแผดนัก
หญิงชราคลายหนัก - หูตาพร่าหลง
ฝันของเธอเพียงว่า ผู้คนจะคง-
-รู้ค่างานบรรจง เลิกต่อราคาฯ
ผลึกอารมณ์รู้สึก - หญิงชราสานผักตบชวาริมทาง...งานที่เธอสร้างราคาไม่มาก แต่กลับถูกต่อ กดราคาจนงานเธอดูไร้ค่า
27 มีนาคม 2546 18:34 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
วิถีแห่งสายน้ำ (สู่ทิศมิต่างกัน)
หนึ่ง
แดดระบายสายธารพราวราวมณีเกล็ด
ดั่งมุกเม็ดเกล็ดแก้วอันแพรวใส
ระลอกคลื่นรื่นริ้วลอยลิบไกล
สู่หนไหน ทิศใด ใครตอบที
นั่งนิ่งนิ่งพยายามนิ่งดิ่งสู่น้ำ
สัมผัสความเย็นฉ่ำ กลางแสงสี
สัมผัสรู้หนาว ร้อน ชั่ว ร้าย ดี
สัมผัสทุกสิ่งมีในสายชล
หลอมละลายกายลงเป็นเนื้อเดียว
จึงรับรู้น้ำเชียวนั้นเต็มข้น
และจึงรู้ดึกสงัดดั่งหลุดพ้น
ล้วนมวลฝันมากล้น สายธารงาม
สอง
คล้ายคล้ายความคิดนั้นก่อเกิด
คล้ายคล้ายใจนั้นเปิดสู่คำถาม
สู่หนไหน - ใช่รินเซาะทุกเขตคาม
สู่ทิศใด - ใช่อาจตาม กระแสลม
สาม
ฝันเจ้าฝันสิ่งใดหรือสายน้ำ
เก็บงำปรารถนามาเผอยขม
ฝันของเจ้าอาจแค่ความโง่งม
ฤๅเก็บบ่มมวลฝันรอท้าทาย
สี่
แห่งหมื่นสายธาราที่รินไหล
ใช่เพียงล่องเรื่อยไปไร้จุดหมาย
ใช่แค่มีชีวิตอันเปลี่ยวดาย
แต่ทุกภาพล้วนคลี่คลายไปสู่คืน
ไปสู่คืน สู่ค่ำ สู่รุ่งเช้า
เพื่อไปสู่แสงเงา ไม่ขมขื่น
เงาแห่งขอบฟ้ากว้าง ไม่ร้างกลืน
ณ ทะเลงามชื่น คือฝันเธอฯ
26 มีนาคม 2546 19:59 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
เธอ , ความรัก (นิยามมิรู้จบ)
ดุจแสงแรกผลิ
มวลวิถีก็เปิดเผอย
กลีบ - กลิ่นงามงอกเงย
ชนล้วนเชยความรื่นรมย์
และก็ดุจเธออับแสง
ถูกแต่งแต้มความขื่นขม
เปรียบเธอสิ่งตรองตรม
แล้วทับถมเธอให้ละลาย
1.
ปลายเดือนมีนาคม...
ลมร้อนเพาะบ่ม - ฝนรินสาย
นทีงามพราวเกล็ดสู่แดดบ่าย
โลกก็คล้ายถูกระบายความเงียบงัน
แผ่วเพียงเสียงสนทนา...
เฝ้าถามหาความหมายต่อภาพฝัน
เฝ้าถามหาแง่งามมาแบ่งปัน
เฝ้าถามหารักมั่นนิรันดร
การเดินทางของเธอ...
ยังเสมอหรือหยุดเพื่อพักผ่อน
กี่ทิวา , ราตรี ที่แรมรอน
ร่างของเธอเหนื่อยอ่อนหรือคงทน
ไม่ซินะ...
เธอเกิดก่อนจะพบโลกนี้สับสน
เธอเกิดก่อนสรรพสิ่งดำรงตน
ก่อนที่คนตั้งนิยามความเป็นเธอ
เธอคือความรัก...
เธอคงหลัก ณ แกนโลกอยู่เสมอ
แต่ทุกคนคล้ายดังคนคลั่งเพ้อ
เฝ้าละเมอเพ้อนิยามถามความจริง
ความรักคืออะไร...?
ฯลฯ
2.
ก็ล้วนแต่ภาวะแห่งใจตน
ความหนายนั้นมากล้นกว่าทุกสิ่ง
ใจเจ็บ - นิยามสิ รักร้ายยิ่ง
ใจสุข - อาจทิ้งความหมายเดิมฯ
ความรักคืออะไร...?
ฯลฯ
25 มีนาคม 2546 21:23 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
กลางสายฝน
1.
พรูพรายกระจายพัดจากชั้นฟ้า
หลั่งรินไหลลงมาเป็นล้านสาย
ทาบตัว ฉ่ำพื้นดินที่เดียวดาย
มองผ่านม่านฝน กาย - ใจชุ่มเย็น
หยาดน้ำฝนทาบทาเกาะกิ่งไม้
ลมโยกไหวในหัวใจไหวตามเห็น
กลิ่นพิกุลลอยหอมเปรียกฝนกระเซ็น
ระลึกถึงคืนเพ็ญกลางป่าดอย
2.
คำอำลาคราสุดท้ายสองเราจาก
เอื้อนเอ่ยปากฝากคำรักช่างหวานถ้อย
ใต้ร่มแห่งความรักเธอ - เฝ้าคอย
และใต้หยาดน้ำตาน้อย - ฉันรับฟัง
3.
พรูพรายกระจายพัดมาทำไม
หลั่งไหลมาทับถมหรือกลบฝั่ง
มาซิเชิญกระชากฉันฟื้นตื่นภวงค์
มารับรู้ความชิงชังแห่งภาพจริง
4.
ใกล้ซากศพพบเลือดล้วนเกลือดกลาด
คมกระสุนทะลุบาดร่างชาย - หญิง
ภัยสงครามล่าล้างผลาญทุกสิ่ง
และช่วงชิงตัวเธอจากฉันไป
ภัยแห่งความเป็นคนชนกลุ่มน้อย
อาจเกิดเพื่อรอคอยการดับไหม้
จะถือสิทธิ์ในแผ่นดินไรือถิ่นใด
ก็ล้วนแต่ใครใครเฝ้าชิงชังฯ