25 มีนาคม 2546 21:23 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
กลางสายฝน
1.
พรูพรายกระจายพัดจากชั้นฟ้า
หลั่งรินไหลลงมาเป็นล้านสาย
ทาบตัว ฉ่ำพื้นดินที่เดียวดาย
มองผ่านม่านฝน กาย - ใจชุ่มเย็น
หยาดน้ำฝนทาบทาเกาะกิ่งไม้
ลมโยกไหวในหัวใจไหวตามเห็น
กลิ่นพิกุลลอยหอมเปรียกฝนกระเซ็น
ระลึกถึงคืนเพ็ญกลางป่าดอย
2.
คำอำลาคราสุดท้ายสองเราจาก
เอื้อนเอ่ยปากฝากคำรักช่างหวานถ้อย
ใต้ร่มแห่งความรักเธอ - เฝ้าคอย
และใต้หยาดน้ำตาน้อย - ฉันรับฟัง
3.
พรูพรายกระจายพัดมาทำไม
หลั่งไหลมาทับถมหรือกลบฝั่ง
มาซิเชิญกระชากฉันฟื้นตื่นภวงค์
มารับรู้ความชิงชังแห่งภาพจริง
4.
ใกล้ซากศพพบเลือดล้วนเกลือดกลาด
คมกระสุนทะลุบาดร่างชาย - หญิง
ภัยสงครามล่าล้างผลาญทุกสิ่ง
และช่วงชิงตัวเธอจากฉันไป
ภัยแห่งความเป็นคนชนกลุ่มน้อย
อาจเกิดเพื่อรอคอยการดับไหม้
จะถือสิทธิ์ในแผ่นดินไรือถิ่นใด
ก็ล้วนแต่ใครใครเฝ้าชิงชังฯ
25 มีนาคม 2546 21:14 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
ข้างแนวหญ้า
นั้งริมขอบกรอบประตูสู่พรบค่ำ
นั้งขีดเขียนลำนำกับทุกสิ่ง
บ่อยครั้งถอนหายใจระบายทิ้ง
บ่อยครั้งนิ่งเงียบสงัดกับอัตตา
ร่ำแต่ถามแนวหญ้าว่า หญ้าเอ๋ย
สิ่งที่เคยนึกฝัน เพียรค้นหา
ที่สืบเสาะเพียงหวังไขว้คว้ามา
มาประดับเติมค่า - อีกนานเท่าใด
ยอดหญ้าไหวเอนลู่สู้ลมร้อน
บอกให้ฉันหยุดก่อนความฝันใฝ่
เมื่อตัวเธอล้วนอัตตาจุกภายใน
อย่าหวังได้เห็นแง่งามจะงอกเงย
จงละทิ้งเสียซึ่งตัวอัตตา
ทุกสิ่งที่ปรารถนาก็จะเผอย
และสลัดมายาภาพที่คุ้นเคย
ก็จะได้ชมเชยความแท้จริง
ถ้าเธอรักความสดใสที่หวานหอม
เธอต้องยอมรับทุกข์เศร้าเฝ้าติฉิน
ถ้าเธอรักโบกฟ้ากล้าโผบิน
เธอต้องรักที่จะผินสู่ดินแดน
ใกล้ความงามสัมผัสได้ให้พอรู้
และกล้าอยู่รับสัมผัสทุกข์หมื่นแสน
เพื่อวิถีแห่งจิตใจไม่คลอนแคลน
จงยึดแน่กับความจริงทิ้งสิ่งล้วงฯ
24 มีนาคม 2546 12:02 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
ก่อนความงามจะผลิบาน
1.
ก่อนความงามผลิบานเคยถามไถ่
ว่าเหตุใดสรรพสิ่งนิ่งสงบ
แม้ลมเคยเชยแผ่วมิไหวซบ
อีกทุกห้วงมหรรณพยิ่งเงียบงัน
บนนภาฟ้ากว้างก็ร้างเมฆ
ดูวิเวกเปลี่ยวเหงาร้าวความฝัน
แลผืนดินถิ่นอยู่ก็ดุจกัน
สงัดเรียบเงียบพรั่นประหวันใจ
2.
หรือแท้จริงความเงียบนั้นอาจบ่ม
เพียงเวลาเหมาะสมจึงผลิให้
ทุกแง่งามผลิบานอยู่ภายใน
หรืออาจนิ่งเงียบไปตลอดกาล
3.
จึงพินิจจิตใจเคยเศร้าทุกข์
ก่อนความสุขจะมาเพรียกขับขาน
ก่อนกวีบรรเลงเพลงสายธาร
ล้วนพบพานความสงัดอยู่ทุกคราว
และจึงรู้แท้จริงสิ่งที่เห็น
เงียบ - จะขับทุกข์ลำเค็ญเป็นเมฆขาว
ร้าง - จะขับคลื่นตื่นเป็นฟองวาว
เหงา - จะขับกวีพราวเป็นสายชล
4.
ในความเงียบนั้นล้วนมวลคุณค่า
สงัดซึ่งหนึ่งเวลาเพื่อเติมข้น
ถ้ารีบรุกเร่งเวลาใจร้อนรน
คงมิพ้นต้องสงัดตลอดไปฯ
23 มีนาคม 2546 13:04 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
คืออะไร...?
กวีคืออะไร?
บอกได้ไหมคำนี้ช่างงามหรู
หรือแค่คนเขียนคำงามน่าดู
หรือเพียงรู้สื่อถ้อยเลือกสรรมา
และ , นักเขียนคืออะไร?
ใช่หรือไม่คนมากฝันจิตหรรษา
ทุกเช้า - เย็นพร่ำเขียนถึงดารา
ทั้งที่จริงแค่ตาสัมผัสมัน
อีก , ศิลปินคืออะไร?
คำวิไลใครมอบให้ก็สุขสันต์
รู้เส้นสีลีลาหลากหมื่นพัน
เพียงแค่นั้นเป็นได้ไหมศิลปิน
ทั้ง , ศิลปะคืออะไร?
ใช่หรือไม่คืองานจากช่างศิลป์
ที่หล่อหลอมพลังจากห้วงจิตน์
หรือเพียงชิ้นงานจาก ความอยากทำ !?
16 มีนาคม 2546 19:23 น.
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
วาดหวัง
เจ้าก่อร่างสร้างตนมิหม่นค่า
มีดวงตา ปรารถนาเพื่อสร้างฝัน
สานไปเถิดเทิดหวัง คืนผ่านวัน
ถ้าฝันนั้นคงซึ่งหนึ่งความดี
ร่วมบรรเลงเพลงกล่อมโลกอันน้อยนิด
มอบแด่มิตรกล่ำโศก โลกหมองสี
หลอมละลายคลายร้าวด้วยพราวกวี
ดุจดนตรีคีตกาลรานทุกข์ระทม
จงหยัดยืนฟื้นตนค้นคุณค่า
ฝันใช่จะนำพาความขืนขม
ฟ้าไร้ดาวใช่จะร้าวความรื่นรมย์
ดำอาจบ่มสีขาวไว้ภายใน
มาร่วมวาดหาดฝันเก็บฝันสวย
มาร่วมช่วยด้วยหวังโลกสดใส
หลอมความรักกลั่นความร้าวออกจากใจ
วาดหวังใหม่ให้ใจร้าวก้าวหยัดยืนฯ