9 มีนาคม 2549 01:38 น.
แสงริมทางเท้า
เติมลงไปไม่เคยเต็มเลยหรือคับ
เติมไปแล้วได้รับบ้างหรือป่าว
เติมมากแล้วถึงทุกสิ่งในเรื่องราว
จากที่เคยว่างเปล่าน่าจะเต็ม
ใจของเธอกว้างใหญ่จะแค่ไหน
อยากเข้าไปค้นหาและอยากเห็น
ว่าใจของเธอใหญ่แค่ไหนที่ไม่เต็ม
จะให้เป็นตัวเติมยิ่งขึ้นไป
หากว่าใจของเธอใหญ่เหลือเกิน
ก็จะเพิ่มปริมาณให้หัวใจ
จะเพิ่มรักเพิ่งหวงความห่วงใย
เติมตรงๆจากใจถึงใจเธอ
ใจก็ท้อบ่อยๆอยู่หรอกนะ
แต่ก็จะเติมให้สม่ำเสมอ
เผื่อวันหนึ่งวันใดเต็มใจเธอ
จะได้เจอหัวใจที่รักจริง
8 มีนาคม 2549 03:12 น.
แสงริมทางเท้า
ถึงสุดทางร้างมาถึงครานี้
หันกลับไปมองอีกทีให้นึกหวน
มองแต่ไกลจากมาให้คร่ำครวญ
ใจรันจวนผวนผันอยู่ข้างใจ
พอแล้วนะ..กับสิ่งที่ผ่านมา
เสาะสายตามองหาสิ่งใหม่ๆ
พอแล้วนะ...พอแล้วสิ่งใดๆ
ขอแค่ใครคนใหม่ผ่านเข้ามา
ผมไม่รวยไม่หล่อพ่อไม่ดัง
มีความหวังเป็นเครื่องคอยเยียวยา
ความจริงใจเป็นสิ่งย้ำในแววตา
มีเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ใจ
ที่เขียนไปแต่งไปอย่าคิดมาก
เพียงแค่อยากปล่อยจิตและปล่อยใจ
ปล่อยให้มันลอยออกไปไกลๆ
อย่าให้คิดสิ่งใดในคืนนี้ (อีกเลย)
5 มีนาคม 2549 22:00 น.
แสงริมทางเท้า
อยากให้รู้ว่าฉันนั้นท้อแท้
ความอ่อนแอเกาะกุมสุมหัวใจ
มีคำถามมากมายที่ถามไป
แต่เมื่อใดได้คำตอบไม่รู้ที
จะแข็งใจไปอีกถึงเมื่อไหร่
บอกได้ไหมตอบให้รู้หน่อยคนดี
ความรู้สึกของใจที่เธอมี
บอกฉันทีบอกฉันเถอะได้มั้ยเธอ
ฉันเฝ้ารอมานานแล้วนะคับ
รับไม่รับบอกได้ไหมอย่าให้เพ้อ
อย่าได้เงียบอย่าได้เฉยเลยนะเธอ
ยามเมื่อเจอรอยยิ้มเธอไม่ช่วยอะไร
ฉันต้องการแค่คำตอบของคำถาม
ฉันมาตามคำตอบที่หายไป
ฉันอยากรู้คำตอบของหัวใจ
เธอมีใครหรืออย่างไรก็บอกมา
สี่ปีกว่า...ผ่านมาไม่แปรเปลี่ยน
ใจจวนเจียนจำทนเหมือนคนบ้า
ฉันพอแล้วฉันท้อแล้วนะแก้วตา
พอแล้วนะ...แก่เวลาคำตอบเธอ
4 มีนาคม 2549 01:25 น.
แสงริมทางเท้า
ความลังเลเกาะกุมในหัวใจ
เกิดคำถามว่าทำไมไปทุกที่
ทั่วทุกแห่งหนใดใจที่มี
ความแน่ใจที่มีหายไปไหน
ก็ไม่อยากลังเลอยู่หรอกนะ
แต่คงจะไม่เกิดคงไม่ไหว
เพราะทุกสิ่งเกิดขึ้นยากแน่ใจ
ว่าตรงไหนเวลาใดที่พบพลัน
ความรู้สึกเบื่อหน่ายในทุกสิ่ง
ความลังเลพาประวิงให้หุนหัน
สมาธิสติมลายพลัน
ให้ใจนั้นวุ่นวายไม่ลงตัว
อยากจะหลุดออกจากความลังเล
ไม่ปรวนเปเรรวนให้หม่นมัว
ต้องปรับจิตปรับใจมิให้กลัว
ยึดถือตัวว่านั้นตัวกู-ของกู