14 กรกฎาคม 2547 12:01 น.
แว่นดอย
..................................แว่นดอย
ยอดดวงใจพิสมัยเจ้ายอดรัก
พึงตระหนักประจักษ์แน่ในคุณค่า
เจ้างามจริงงามใจนะแก้วตา
ดังหยาดฟ้ามาสู่ดินถิ่นหทัย
ทุกแย้มยิ้มพริ้มพักตร์สมัครมั่น
แห่งจอมขวัญลาวัลย์อันสดใส
ปริ่มกมลยลยินถวิลไหั
โอ้สายใจสายพินปิ่นฤดี
หอบอ้อมอุ่นละมุนรักมาฝากเจ้า
ให้แนบเนาเฝ้าอยู่ในวิถี
โอบกอดไว้ด้วยถนอมดั่งชีวี
บรรดามีทวีล้ำพร่ำสัมพันธ์
เอื้อมมือรับกระชับใจด้วยใจข้า
คอยห่วงหาอรชรพรสวรรค์
อยู่แห่งไหนขอจงสุขทุกคืนวัน
นิจนิรันดร์พลันพิพัฒน์สัมผัสงาม
...............................แทนคุณแทนไท
เจ้าจะอยู่กาลใดในโลกหล้า
ปรารถนาไม่เคยมีคำถาม
เจ้าจะงดในดวงจิตเจ้าจะงาม
เป็นนิยามรักแท้จากหัวใจ
มิใช่แค่ยินดีที่มีเจ้า
แต่เป็นความเพริศพราวที่ฝันใฝ่
จะรอเจ้าทุกภพทุกกาลใจ
จะรักเจ้ายอดหทัย ทั้งชีวี
กาลนี้มาได้พบประสบรัก
ก็ชื่นชุ่มใจนักในรักนี้
แม้เวลาแห่งรักนั้นจักมี
เพียงเท่าที่พรหมท่านลิขิตมา
ขอบคุณองค์พรพรหมจ้าวทั้งดวงจิต
ขีดลิขิตดั่งชีวิตปรารถนา
แม้ท่านพรากจากก่อนใจอยากจรลา
ยังขอบคุณ โชคชะตาพาพบเธอ.
หมดสิ้นชาติวาสนาในครานี้
ดวงฤดีพี่จะคอยเจ้าเสมอ
ผืนภพใหม่ตั้งหทัยต้องได้เจอ
รักเพียงเธอ เพียงเธอ เสมอไป
............................................
9 กรกฎาคม 2547 00:28 น.
แว่นดอย
สงสารใจไฉนเฉยต้องทนเจ็บ
ในการเก็บความรู้สึกอันหวั่นไหว
ให้ความทดความท้อชะลอใจ
มิเปิดให้ใครใหม่ได้เข้ามา
ด้วยหทัยทั้งดวงอันเต็มรัก
เคยประจักษ์สมัครแจ้งแห่งคุณค่า
บัดนี้เพียงกลืนกล้ำช้ำน้ำตา
สิเนหาพานผากยากจะเลือน
แม้สายใจใยรักซึ่งทอถัก
สุดทอนหักแรงจากกระชากเฉือน
กาลเวลาพาการพรากยังฝากเตือน
พิมพ์รอยเปื้อนเฝื่อนวิโยคโศกเหลือทน
อยากจะข่มก็สุดข่มระทมจิต
ห้วงนิมิตตราตรึงความหมองหม่น
อยากจะตัดก็สุดตัดปัดลาตน
จึ่งเศร้าปนระคนเหงากับเงาใจ
..................................................