14 พฤศจิกายน 2552 08:10 น.
แววอักษรา
ปล่อยหัวใจโบยบินทุกถิ่นที่
เผื่อบางทีมีใครปลอบใจเหงา
ม่านน้ำตาพร่าเลือนเป็นเพื่อนเรา
ฟ้าสีเทาเฉาหม่นจากคนลวง
เพียงบุหงาส่าหรี่มีรอยหมอง
ใครจะมองป้องปักด้วยรักหวง
หัวใจรักภักดีที่ถูกทวง
ดั่งจะล้วงดวงใจให้ขาดรอน
จะมีไหมใครบ้างเป็นอย่างฉัน
ผ่านคืนวันฝันร้ายยากถ่ายถอน
ภาพความหลังครั้งนั้นยังบั่นทอน
คอยหลอกหลอนชอนไชไฟอารมณ์
ยิ่งลมหนาวคราวใดยิ่งใจหาย
ทั้งหนาวกายหนาวใจไม่สุขสม
ทุกความฝันสั่นคลอนกร่อนระทม
รอรักห่มพรมร่างจากบางใคร
แววอักษรา
๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
26 ตุลาคม 2552 00:47 น.
แววอักษรา
ทุกวันหยุดสุดแย่มีแต่เหงา
เพียงเพราะเราหลงคิดติดความหลัง
จากหวานชื่นคืนฝันถึงวันพัง
ประเดประดังถั่งโถมจู่โจมใจ
มองข้าวปลาอาหารก็พาลเหม็น
มิอยากเห็นอยากอยู่เธอรู้ไหม
จะปัดกวาดเช็ดถูเพื่อผู้ใด
ปล่อยหยากไย่แมงมุมมาสุมรัง
ต้นไม้รกปรกเรือนเหมือนบ้านร้าง
มิคิดถางคิดถากซากความหลัง
ให้ห้วงกาลผ่านพ้นจนผุพัง
ขุดหลุมฝังร่างฉันก่อนวันตาย
ไม่ร้องเรียกเพรียกอ้อนเธอย้อนกลับ
มิต้อนรับกลับชังอย่าหวังหมาย
ฉันอยู่ดีอยู่เด่นเย็นสบาย
ดีกว่าอยู่กับชายไร้หัวใจ
โอ้วันหยุดสุดเหงาใต้เงาฝัน
ดั่งฟ้ากั้นกันกักรักอยู่ไหน
เสียงเพลงแผ่วแว่วหวานซ่านทรวงใน
ทอดถอนใจไม่คลายหายเหงาเลย
แววอักษรา
๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๒
23 ตุลาคม 2552 22:36 น.
แววอักษรา
เสียงไก่ขันระชั้นถี่ราตรีสาง
ดาวเคยพร่างต่างพรากจากเวหน
ดั่งรักห่างจางใจใครบางคน
จำฝืนทนทุกทางอย่างลำเค็ญ
มองภูผาหน้าบ้านผ่านสายหมอก
หนาวทุกซอกอณูใจไร้ใครเห็น
กว่าตะวันผันผายให้คลายเย็น
ต้องหลบเร้นซุกร่างอ้างว้างใจ
แต่ละคืนขืนตากว่าจะหลับ
เฝ้านอนนับดาราทั่วฟ้าใส
น้ำตาหลั่งพรั่งพรูเพราะผู้ใด
เหตุไฉนใจดำทำได้ลง
ไปเถิดไปไม่ต้องมามองฉัน
หยุดใฝ่ฝันหยุดใจเคยไหลหลง
ฟ้าวันใหม่ใจฉันต้องมั่นคง
ขอสาบส่งผู้ชายคนหลายใจ
แววอักษรา
๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๒
19 ตุลาคม 2552 10:19 น.
แววอักษรา
เย็นลมฝนล้นใจไม่เคยสิ้น
แต่แผ่นดินสิ้นไร้ใครถามหา
เมื่อลมหนาวพัดผ่านซ่านอุรา
จึงรู้ว่ายามเปลี่ยวแสนเดียวดาย
มองที่นอนหมอนเสื่อเหลือเพียงกลิ่น
ใจถวิลอาดูรเขาสูญหาย
เฝ้าคิดถึงคะนึงอยู่มีรู้วาย
ฉันมักง่ายเกินไปหรือไรกัน
เคยสัญญารักแน่จนเก่าเฒ่า
จากวัยสาวก้าวสู่ประตูฝัน
มีสุขทุกข์รุกมาร่วมฝ่าฟัน
เธอทิ้งฉันวันนี้ไปมีใคร
จะรู้ไหมวันนี้มีความหมาย
มอบใจกายไปให้จำได้ไหม
รักภักดีคำนี้คืออะไร
ถามหัวใจเธอลองแล้วตรองเอา
ไปเถิดไป เดินหน้าอย่าหวนกลับ
มิอาจรับกับซากเหลือจากเขา
มันแสลงแทงใจไม่บรรเทา
ขอล้างเงาเผาใจให้ลืมเลือน
แววอักษรา
๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๒
19 ตุลาคม 2552 09:28 น.
แววอักษรา
เก็บอักษรามาร้อยเป็นถ้อยศรี
แทนมาลีดอกไม้ไหว้ครูศิลป์
ให้กลอนกานต์ซ่านไหลดั่งใจจินต์
ชุบชีวินสดชื่นให้รื่นรมย์
กราบเพื่อนพ้องน้องพี่กวีกล้า
โปรดช่วยมาชี้ทางอย่างเหมาะสม
ยินดีปรับรับทำคำติชม
ช่วยอบรมบ่มเพาะให้เหมาะใจ
เพราะใจรักอักษรคำกลอนหวาน
ฝึกมานานก็เปล่าไม่เอาไหน
ลองหัดเขียนเวียนอ่านผ่านใครใคร
จึงตั้งใจมาสมัครเพราะรักกลอน
อ่านคนโน้นคนนี้มาปีกว่า
จึงบากหน้ามาลงดงอักษร
หวังปลดปล่อยหัวใจที่ไหวรอน
ช่วยดับร้อนผ่อนร้าวในคราวตรม
แววอักษรา
๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๒
หมายเหตุ...ขอขอบคุณพี่น้อย ที่สอนการลงภาพลงสี..ขอบคุณค่ะ